27 ก.ค. 2019 เวลา 15:47 • ประวัติศาสตร์
อารยธรรมโบราณ "ซานซิงตุย" ที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
ซิงซานตุย คืออารยธรรมโบราณที่พบในมณฑลเสฉวนของจีนและได้รับความสนใจจากทั่วโลก
เมื่อปี 1929 มีชาวนาคนหนึ่ง ขณะที่กำลังขุดบ่อน้ำอยู่นั้นก็ได้พบเข้ากับวัตถุโบราณที่ทำจากหยกหลายชิ้น เป็นการค้นพบอารยธรรมใหม่ครั้งแรก ต่อมาก็มีทีมนักโบราณคดีมาขุดสำรวจอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบอะไร
จนกระทั่งปี 1986 เมื่อเเหล่าคนงานก่อสร้างได้ขุดเจอหลุมขนาดใหญ่ 2หลุมโดยบังเอิญ และพบว่ามีวัตถุโบราณนับพันชิ้นถูกฝั่งอยู่ นักโบราณคดีเชื่อว่าหลุมที่พบคือหลุมบูชายัญหรือหลุมบวงสรวงอะไรสักอย่าง และเรียกมันว่าซานซิงตุย
วัตถุโบราณที่ค้นพบมีทั้งรูปหล่อสัมฤทธิ์ เครื่องประดับ เขาสัตว์ งาช้าง กระบองทอง ดาบหยก ซึ่งของทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
1
นอกจากนี้ยังพบรูปหล่อสัมฤทธิ์รูปคนที่มีความสูงถึง 8 ฟุต และรูปสัตว์ต่างๆ เช่น นก ม้า เป็นต้น
นักโบราณคดีกล่าวว่าการหล่อสำฤทธิ์นั้นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่พวกมันถูกทำขึ้นจากการผสมตะกั่วลงไปในทองแดงและดีบุกเท่านั้น
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ ศีรษะคนสัมฤทธิ์ที่ใส่หน้ากากทองคำ ซึ่งมีลักษณะผิดกับรูปใบหน้าของคนเอเชียอย่างมาก ซึ่งศีรษะชนิดนี้หมายถึงอะไรผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่ทราบ แต่สันนิฐานว่าอาจจะหมายถึงผู้มีตำแหน่งสูงสุดของชนเผ่า
นักโบราณคดีบางคนยังสันนิฐานว่า อารยธรรมซานซิงตุยอาจเป็นอาณาจักรชู (shu) ซึ่งนำมาจากพงศวดารเขียนโดยฮวาหยาง รวมรวมในสมัยราชวงศ์จิ้น อาณาจักรชูเป็นอาณาจักรที่มีความก้าวหน้าทางด้านการเกษตร การหมักไวน์ และเครื่องมือเครื่องใช้
และจากการค้นพบทางโบราณคดีทำให้ทราบว่าซานซิงตุย ถูกทิ้งอย่างกระทันหัน เพราะมันไม่มีบันทึกหรือตำราโบราณใดๆเลย ซึ่งแม้แต่โครงกระดูกก็ไม่พบ
ปัจจุบันนักโบราณคดีก็ยังไม่เข้าใจว่า ด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้พวกเขาต้องฝังสมบัติล้ำค่าไว้ในหลุม ซึ่งตัวพวกเขาก็หายไปอย่างลึกลับและไม่พบอารยธรรมแบบนี้ที่อื่นอีกเลย
ปัจจุบันวัตถุโบราณพวกนี้ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติไทเป หอศิลป์แห่งชาติวอชิงตัน และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียที่ซานฟรานซิสโก เป็นต้น
โฆษณา