ชีวิตตั้งเเต่เรียนหมอจนถึงเริ่มสมัครเป็นเเพทย์เฉพาะทาง ยาวนานเเค่ไหนลำบากอย่างไร มาดูกัน!!!! ตอนที่ 2
หลังจากที่ เขียนบทความเกี่ยวกับ ชีวิตการเรียนหมอจนถึงช่วงจับฉลากใช้ทุนไปใน
ตอนที่ 1 ย้อนไปติดตามได้ที่
ต่อไปจะขอเล่าเกี่ยวกับ ชีวิตของหมอในช่วงใช้ทุนนะครับ
(ปล. อย่างที่กล่าวไว้ตอนที่เเล้วเนื่องจากบทความเป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนซึ่งก็ผ่านมาหลายปีอาจจะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนเเปลงไป ผิดถูกก็ขออภัยนะครับ )
อย่างที่กล่าวไป เนื่องจากเเพทย์ที่เรียน โรงเรียนเเพทย์รัฐบาลในเมืองไทยจะถือว่ารัฐเป็นผู้อุดหนุนค่าเล่าเรียน เเละจะต้องชดใช้ทุนโดยการทำงานในโรงพยาบาลรัฐบาล เป็นระยะเวลา 3 ปี(เเต่ถ้า เข้าเรียนด้วยโควต้า odod ก็จะใช้ทุนนานกว่า 3 ปีนะครับ )
หลังจากเเบ่งหลักๆเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มจับสลาก ก็จะใช้ทุนปีเเรก ที่โรงพยาบาลศูนย์ที่จังหวัดที่จับฉลากได้ เเละ ปี 2,ปี 3 ที่ รพ ชุมชนที่จับฉลากได้เเละกลุ่มฟิควอร์ด ใช้ทุนปีเเรกจะอยู่ โรงพยาบาลศูนย์ ที่เลือกเเละใช้ทุน ปี 2,3 ที่วอร์ดที่เลือกในโรงพยาบาลศูนย์นั้นๆ อาทิ ฟิคอายุรกรรม ใช้ทุน ปี 2,3 ก็จะอยู่ฝึกงานในวอร์ดอายุรกรรม เป็นต้น
ชีวิตหมอใช้ทุน ปีที่หนึ่ง !! เราจะเรียกหมอใช้ทุนปีที่หนึ่งกลุ่มนี้ว่าเป็น เเพทย์เพึ่มพูนทักษะ หรือ หมอ intern 1 คือ หมอกลุ่มนี้ จะไปวนทำงานตามวอร์ด ต่าง คือ อายุรกรรม กุมารเวชกรรม ศัลยกรรม สูติกรรม ศัลยกรรมกระดูก เเละอาจจะมีวอร์ด อื่นๆ หรือ โรงพยาบาลชุมชน เเล้วเเต่ โรงพยาบาลนั้นๆจัดการ
ช่วงชีวิตใช้ทุนปีที่หนึ่งจะเป็นช่วงที่ ทำงานหนัก เเละมีดราม่ามากที่สุดช่วงนึง !!!! เเต่ในทางกลับกันก็เป็นช่วง ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่เเละเรึ่มจัดการชีวิตได้รวมถึงมองเห็นภาพรวมของชีวิตการเป็นหมอชัดขึ้น
https://mgronline.com/live/detail/9600000051490
เนื่องจาก หมอใช้ทุนปีที่หนึ่ง เเม้จะเป็นหมอ จบใหม่เเต่ หน้าที่จริงๆก็คือ เป็นหมอทั่วไปที่จะเป็นด่านหน้าของ โรงพยาบาลศูนย์เป็นคนเจอคนไข้คนเเรกเป็นคนรักษาคนไข้คนเเรก เเล้วค่อยรายงาน หมอเฉพาะทางหรือ อาจจะเรียกเเทนด้วยคำว่าสตาฟ ต่อไป
ซึ่งเนื่องด้วยหมอจบใหม่ ส่วนใหญ่ก็จบจาก โรงเรียนเเพทย์ซึ่งปริมาณผู้ป่วยก็ถือว่าน้อยเมื่อ เทียบกับโรงพยาบาล ศูนย์ตามต่างจังหวัด!! ซึ่งก็คือ หมอใช้ทุนปีที่ 1 นอกจากจะต้องรักษาให้ถูกต้อง เเละยังจะต้องรักษาให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย นอกจากนี้ หมอใช้ทุนปีที่ 1 ก็ต้องร่วมงานกับผู้คนใหม่ๆมากมายทั้ง สตาฟ เพื่อนร่วมงานที่มาจากหลายสถาบัน รวมถึงบุคคลากรทางสาธารณสุขอื่นๆซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะมีปัญหากันในระหว่างการทำงานได้
โดย อาจจะกล่าวได้ว่า เหนื่อยกายเเล้วยังต้องมาเหนื่อยใจอีก!!!!!!
https://th.heypik.com/images/sad-doctor-vector_8HU44GP.html
ซึ่งก็มีเเพทย์ใช้ทุนปีที่ 1 จำนวนมากถึงกับทนไม่ไหวลาออก ไปเป็นหมอทั่วไปในโรงพยาบาลเอกชน หรือไปทำคลินิคเสริมความงามเต็มตัวก็มี !!!!!
เเต่ในทางกลับกัน การเป็นเเพทย์ใช้ทุนปีที่ 1 ก็มีข้อดีมากมาย การที่เราได้รักษาคนไข้จริงๆ รวมถึงได้เห็นรูปเเบบงานอาชีพหมอได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งหลายคนเท่าที่สอบถามพอได้รักษาคนไข้หายดีด้วยตัวเอง ก็เกิดความภูมิใจเเละตั้งใจเป็นหมออย่างเเน่วเเน่มากขึ้น รวมถึงความกดดันต่างๆก็จะช่วยให้รู้จักจัดการปัญหาต่างๆเเละมีวุฒิภาวะมากขึ้นอีกด้วย
ชีวิต เเพทย์ใช้ทุน ปี สอง ปีสาม
เเบ่งเป็นสองกลุ่มนะครับ
กลุ่มเเรก กลุ่มอยู่ โรงพยาบาลชุมชน กลุ่มนี้เรียกได้ว่าชีวิตมีหลายเเบบมาก
ขึ้นกับขนาดโรงพยาบาลชุมชนที่ไปอยู่ เเละนโยบายของโรงพยาบาลศูนย์ในจังหวัดนั้นที่จะรับส่งต่อคนไข้
เนื่องจาก โรงพยาบาลชุมชุม มีขนาดตั้งเเต่ 10 เตียงจนถึง หลัก 100-200 เตียงปริมาณคนไข้ก็เเตกต่างกันอย่างมากในเเต่ละโรงพยาบาล บางโรงพยาบาลชุมชน หมอที่อยู่เวรเเทบจะนอนตลอดคืน เเต่ โรงพยาบาลชุมชนบางที่คนไข้เยอะหมอที่อยู่เวรไม่ได้นอนตลอดคืนก็มี!!! นอกจากนี้การ ส่งต่อคนไข้หนักก็เป็นเรื่องหนักใจอีกเรื่องของหมอโรงพยาบาลชุมชนถ้าอยู่ในโรงพยาบาลชุมชนที่ โรงพยาบาลศูนย์รับส่งต่อคนไข้ ง่ายหรือมีขั้นตอนน้อย ก็จะสบายหน่อยเเต่ถ้าโรงพยาบาลศูนย์รับคนไข้ยากหรือต้องมีขั้นตอนเยอะก็จะเหนื่อยเพึ่มขึ้นอย่างมาก
เเต่โดยภาพรวม หมอโรงพยาบาลชุมชนก็มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ได้ไปพักผ่อนท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น เพราะโดยส่วนใหญ่โรงพยาบาลชุมชนจะมีปริมาณคนไข้น้อยกว่า โรงพยาบาลศูนย์ เเต่ในทางกลับกลัน หมอ โรงพยาบาลชุมชนส่วนใหญ่ไม่มีเเพทย์เฉพาะทางเท่าไร ถ้ามีปัญหา หรือเจอสภาวะเร่งด่วนบางอย่าง หมอที่โรงพยาบาล ชุมชนซึ่งก็เป็นหมอ จบมา 2-3 ปีก็ต้องหาทางรักษาเองไม่มีหมอเฉพาะทางคอยคุมอีกทีเหมือนตอนอยู่โรงพยาบาลศูนย์ ซึ่งบางภาวะก็ยากมากในการรักษาอาทิเช่น ภาวะคลอดติดไหล่ ซึ่งภาวะเร่งด่วนไม่สามารถคนไข้ไปโรงพยาบาลศูนย์ได้ทันก็ต้องหาทางรักษาคนไข้ให้ได้ที่โรงพยาบาลชุมชน
ส่วนเเพทย์ในกลุ่มฟิควอร์ด เนื่องจากกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่เลือกเองทั้ง โรงพยาบาลจะไปอยู่เเละเลือกสาขาที่จะไปอยู่ในช่วง เเพทย์ใช้ทุนปีที่ 2 เเละปีที่ 3 ส่วนใหญ่ถ้าทำงานวนสาขานั้นเเละยังชอบอยู่ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหาอะไร เเต่ถ้าวนเเล้วไม่ชอบขึ้นมาอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ได้ เพราะตามสัญญา กลุ่มฟิควอร์ดต้อง อยู่เเต่สาขาที่ตัวเองเลือกไป 2 ปี ในเเพทย์ใช้ทุนปี 2 เเละปี 3 ไม่สามารถเปลี่ยนเเปลงได้ !!!! ดังนั้นถ้าจะเลือกฟิควอร์ดควรต้องคิดดีๆก่อนว่าชอบสาขานั้นจริงๆนะครับ
อันนี้เป็นตัวอย่างชีวิตคร่าวๆของหมอตอนช่วงใช้ทุนนะครับซึ่งก็มีทั้งเรื่องดีเเละเรื่องไม่ดี รวมถึงก็ได้ประสบการณ์หลายอย่างซึ่งตอนเรียนเเพทย์ไม่สามารถสอนได้!!!
เเละตอนหน้าซึ่งเป็นตอนที่ 3 ผมจะขอกล่าวถึง ชีวิตของหมอหลังจากช่วงใช้ทุนก็คือ การสมัครเรียนต่อเป็นเเพทย์เฉพาะทางซึ่งหนทางจะยากลำบากขนาดไหนจะขอเล่าให้ฟังในตอนหน้านะครับ!!!!
หวังว่าผู้อ่านจะสนุกเเละได้ความรู้นะครับ
- 55
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
