28 ก.ค. 2019 เวลา 01:00 • บันเทิง
การย้อนเวลาในภาพยนตร์ : ทฤษฎีและความเป็นไปได้
หากย้อนเวลาได้ เคยคิดไหมครับว่าเราจะกลับไปทำอะไรในอดีต ?
เราจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไหม ?
เราจะกลับไปพบตัวเองในช่วงเวลาไหน ?
เราจะเปลี่ยนแปลงความผิดพลาดของเราที่เคยทำไว้หรือเปล่า ?
หลากหลายความคิดที่เกิดขึ้น ล้วนท้าทายมนุษยชาติ
หากย้อนเวลาได้จริง เราจะวางเฉยต่อสิ่งที่ผ่านไปแล้วได้หรือไม่ ?
ก่อนจะคิดไปไกลมากกว่านี้ เรามาดูถึงความเป็นไปได้ของการย้อนเวลากัน
ตามทฤษฎีฟิสิกส์ในปัจจุบันยังไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้
ความเป็นไปได้ที่เราจะเดินทางไปอนาคตยังมีมากกว่าการย้อนไปอดีตเสียอีก
ในทางทฤษฎี ถ้าสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง เวลาจะเดินช้าลงและวัตถุที่เดินทางเร็วกว่าแสงจะไปอนาคตได้ (ด้วยความต่างของเวลา) แต่ไม่สามารถย้อนกลับมาอดีตได้ ซึ่งในมิติที่เราอยู่ยังไม่มีวัตถุใดๆที่เดินทางได้เร็วกว่าแสง (299,792,458 เมตร ต่อวินาที)
อีกสิ่งที่มีความสัมพันธ์กับเวลา คือ แรงโน้มถ่วง ยิ่งเข้าใกล้บริเวณที่มีแรงโน้มถ่วงมากเวลาจะเดินช้าลง (ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ)
เทคโนโลยีในปัจจุบันที่พอจะเทียบเคียงการย้อนเวลาได้ก็คือการถ่ายภาพนิ่งและการบันทึกวีดีโอ
เป็นการเก็บภาพที่เคยเกิดขึ้นแล้วให้เราสามารถดูซ้ำได้ แต่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
(ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น อาจใช้เทคนิค VR ทำเสมือนว่าเราอยู่ในช่วงเวลานั้นๆได้แต่ก็เป็นเพียงภาพเสมือน)
แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่การย้อนเวลา เป็นเพียงการบันทึกช่วงเวลานั้นๆไว้เท่านั้นเอง
ปัญหาที่ต้องขบคิดหากเราสามารถย้อนเวลาได้คือเรื่องความขัดแย้งของเวลา (Time Paradoxes)
ข้อขัดแย้งที่ทำให้การย้อนเวลาเป็นเรื่องที่ขัดต่อเหตุผล ตรรกะ มองอีกแง่หนึ่ง มันเป็นคำถามเชิงปรัชญาที่สิ่งมีชีวิตต้องตีให้ตกก่อนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางข้ามเวลา
การย้อนเวลาไปพบตัวเองใน Looper (2012)
Time paradoxes มีอะไรบ้าง ?
1. Grandfather's paradox คือ การที่คุณย้อนเวลาไปในอดีตแล้วทำให้ปัจจุบันไม่เป็นความจริง
ตัวอย่างคลาสสิคคือ จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณนั่งไทม์แมชชีนกลับไปอดีตสมัยที่คุณยังไม่เกิด คุณได้สังหารชายคนหนึ่งซึ่งแท้จริงเป็นปู่ของคุณ หากปู่ของคุณถูกฆ่า คุณต้องไม่มีทางได้เกิด...เมื่อคุณไม่ได้เกิด คุณจะย้อนเวลากลับไปฆ่าปู่ของคุณได้อย่างไร?
2. Information paradox คือ การได้รับข้อมูลจากอนาคตซึ่งไม่มีจุดกำเนิดที่แท้จริง เช่น คุณเกิดมาในยุคสมัยที่มีเครื่องไทม์แมชชีน
คุณย้อนเวลากลับไปในยุคอดีตที่ยังไม่มีไทม์แมชชีนและบอกความลับในการสร้างไทม์แมชชีนให้นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นจะเป็นนักประดิษฐ์ไทม์แมชชีนในเวลาต่อมา สรุปแล้ว ความรู้ในการสร้างไทม์แมชชีนมาจากไหน?
3. Bilker's paradox คือ การรู้อนาคตแล้วทำให้อนาคตนั้นไม่เป็นจริง เช่น คุณได้เดินทางไปในอนาคตและเห็นว่าโลกอนาคตนั้นไม่น่าอภิรมย์แม้แต่น้อย อย่ากระนั้นเลย คุณกลับมายังปัจจุบันแล้วหาหนทางยับยั้งไม่ให้เกิดอนาคตนั้นจนได้
ถ้าเช่นนั้น อนาคตเดิมที่คุณเคยไปเยือนมันหายไปไหน ในเมื่อมันก็คือความจริงเหมือนกัน?
4. The sexual paradox คือ ข้อขัดแย้งเชิงชีวภาพของการย้อนเวลา ลองนึกถึงหนังเรื่อง Terminator
หากคุณย้อนเวลากลับไปในอดีตไปแต่งงานกลับแม่ของคุณ คุณจะเป็นพ่อของคุณเอง มีกฎทางพันธุกรรมบางประการที่ทำให้ปรากฏการณ์นี้เป็นไปไม่ได้?
(Time Paradoxes อ้างอิง : https://pantip.com/topic/35453736 ความคิดเห็นที่ 11 โดยสมาชิกนามแฝง The_Death_of_Superman)
: หนังหลายเรื่องเล่นประเด็นของ Time Paradoxes ไว้อย่างน่าสนใจ (มีเยอะมากๆ เช่น Back to the Future , The Butterfly Effect , Looper ฯลฯ)
แต่หากอยากดูหนังที่ขจัดปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางเวลาออกไปได้แบบฉลาดสุดๆขอแนะนำเรื่อง Predestination
Predestination (2014)
การจะทำให้การย้อนเวลาไม่เกิดความขัดแย้งของเวลาได้ ต้องรองรับด้วยการมีอยู่ของจักรวาลคู่ขนาน
หรือเรื่องของมิติที่อยู่เหนือกาลเวลา
แล้วมิติที่อยู่เหนือกาลเวลานี้ เป็นไปได้แค่ไหน?
ถ้ายึดตาม String Theory ซึ่งเป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์แบบย้อนศร ได้ตัวเลขมาก่อนจะได้สมมติฐาน โดยการใส่เลขที่เหมาะสมลงในสมการแล้วสามารถแก้ปัญหาสมการได้ลงตัวพอดี
ซึ่งตัวเลขที่เหมาะสมนั้นคือ เลข 11
เลยมีทฤษฎีที่กล่าวว่าน่าจะมี 11 มิติ ซึ่งเป็นมิติแบบไหนบ้างยังเกินความรู้ของโลก 4 มิติแบบที่เราอยู่
( 4 มิติในโลกของเรานั้นคือ มิติที่มีความกว้าง ยาว ลึก และมิติเวลา)
หากใครเคยดูหนังเรื่อง interstellar พระเอกของเราหลุดเข้าไปในรูหนอนเข้าไปสู่สภาวะของมิติที่ 5 (มิติที่เหนือกาลเวลา) เขาจึงสามารถย้อนไปในอดีตเพื่อสื่อสารกับลูกสาวในอดีตได้
(เป็นข้อสมมติหนึ่งที่ Stephen Hawking นักฟิสิกส์ชื่อดังชาวอังกฤษได้เสนอว่า การตกไปยังหลุมดำที่มีแรงดึงดูดมหาศาลจนพลังงานเล็ดลอดเข้าไปไม่ได้ หากหลุมดำมีขนาดเล็ก สิ่งที่ถูกดูดเข้าไปอาจจะฉีกขาดได้
แต่ถ้าหลุมดำใหญ่พอ เราก็จะหลุดเข้าไปอยู่ใน “มิติที่ 5” ได้)
Interstellar (2014)
สำหรับเรื่องมิติที่อยู่เหนือกาลเวลานี้ ยังคงเป็นความท้าทายให้มนุษย์ค้นหากันต่อไป
มันอาจจะแฝงอยู่ในความลับเกี่ยวกับหลุมดำ รูหนอน แบบในหนังเรื่อง Interstellar หรือ
อาจอยู่ในมิติที่เล็กมากๆ จนเวลามีความไม่แน่นอนสูงอย่างมิติควอนตั้ม เช่นใน Avengers Endgame
ซึ่งวิทยาการและความรู้ปัจจุบันของมนุษย์ไม่สามารถไขความลับเรื่องนี้ได้
1
กล่าวโดยสรุปคือ ยังไม่มีความเป็นไปได้ในเรื่องการย้อนเวลากลับไป จนกว่ามนุษย์จะก้าวพ้นมิติที่ 4 ไปสู่มิติอื่นๆที่เหนือกาลเวลาขึ้นไป
ถึงกระนั้น มนุษย์ยังคงก้าวต่อไปบนเส้นทางแห่งเวลาเพื่อค้นพบว่าสุดท้ายเราก็ต้องทิ้งสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้ผ่านไป
อดีตไม่อาจย้อนคืน อนาคตยังมาไม่ถึง
บางทีการย้อนนึกถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้ว อาจมีผลต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และส่งผลต่อเนื่องไปสู่อนาคต
จงปล่อยอดีตให้เป็นเรื่องของอดีต เป็นบทเรียนคอยสอนเราว่าอย่าได้ผิดพลาดแบบเดิมอีก
มนุษย์ที่ย้อนเวลาได้โดยสมบูรณ์คือมนุษย์ผู้เข้าใจว่าเวลาคือการไหลผ่านของชีวิต ทุกการไหลที่ดำเนินไป คือ โอกาสที่เราจะใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด
เพื่อที่จะไม่ต้องมาเสียดายเวลาในอดีตที่ผ่านไปแล้วอีกต่อไป...
โฆษณา