30 ก.ค. 2019 เวลา 15:14
วิกฤตมหาลัยไทย !!!ใกล้เจ๊ง!!!
ถ้ายังอยู่รอดก็ยังต้องดิ้นรนกันไป
จำนวนนักศึกษาที่หายไปหลักแสนคน
จากเหตุที่ไม่สามารถเลี่ยงได้
1.โครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ(Aging Society) จำนวนสัดส่วนคนหนุ่มสาววัยนักศึกษาลดลงฮวบฮาบเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน...จากปัจจัยนี้ก็หนักหนาเพราะมันเดินหน้าไปตามกาลเวลาเรื่อยๆและเป็นปัญหาตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก
 
2. โลกที่เปลี่ยนเข้าสู่ความเป็นดิจิตัลมากขึ้น (Digital Disruption) เมื่อข้อมูลความรู้ต่างๆไม่ได้อยู่ในกระดาษ การหาเอกสารอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ไม่จำเป็นต้องไปที่หอสมุดหรือห้องสมุดใหญ่ เพราะมันลอยอยู่ในอากาศเต็มไปหมด พร้อมที่จะให้ผู้ที่สนใจเข้าถึงได้ตลอดเวลา ลองจินตนาการต่ออีกนิด ... การศึกษาก็อาจจะไม่ต้องไปยึดติดกับสถาบันหลักในประเทศ การศึกษาแบบข้ามประเทศข้ามทวีปจึงสามารถทำได้ง่ายดายขึ้นมาก...ปัจจัยนี้จึงเสริมกับข้อแรก ทำให้ผลลัพธ์ของการอยู่รอดของมหาลัยไทยในมาตราวัดทางธุรกิจหนักหนาขึ้นไปอีก
 
3. ค่านิยมวัยรุ่นสร้างตัวในโลกออนไลน์
การค้นพบตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วสิ่งเหล่านั้นสามารถเลี้ยงตัวได้หรือแม้แต่สร้างความร่ำรวยได้!!!
ไม่ว่าจะเป็นรีวิวสินค้า, ขายของออนไลน์, และอีกสารพัดรูปแบบที่ทำรายได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือน ทำให้เด็กไทยหลายคนยิ่งในรุ่นหลังๆนี้มองว่าการศึกษาในมหาวิทยาลัยไม่ใช้จุดมุ่งหมายหรือความจำเป็นในชีวิต
มาตราวัดทางธุรกิจ เอาเข้าใจง่ายๆ เรื่องเงิน
เราไม่สามารถปฎิเสธหรือซ่อนเร้นมันด้วยทัศนคติสวยงามได้ว่ามันไม่จำเป็น
เพราะจริงๆแล้วมัน จำเป็น!!! และสำคัญ!!! มาก ต่อการคงอยู่ขององค์กรใดก็ตาม
ทุกอย่างที่ดำเนินไปได้ ลองพิจารณาให้ละเอียด เงินคือตัวขับเคลื่อนทั้งหมด
 
ค่าจ้างอาจารย์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างคนทำความสะอาด ค่าจ้าง รปภ. ค่าซ่อมบำรุงอาคาร/ซ่อมบำรุงอุปกรณ์การศึกษา รายจ่ายซื้ออุปกรณ์การศึกษาในรายวิชาของคณะที่ต้องอัปเดทตลอดทุกปี ..และอื่นๆ
 
ที่ร่ายมาทั้งหมด มีส่วนไหนที่สามารถงอกออกมาโดยไม่ต้องใช้เงินไหม?????
ตอนต่อไป จะเล่าถึงวิธีการแก้ไขที่พอเป็นไปได้
เพื่อความอยู่รอดของ
มหาลัยในประเทศไทย
รู้ให้ท่วมหัว จนเอาตัวรอด: ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านครับ😊😊
โฆษณา