2 ส.ค. 2019 เวลา 09:42 • ปรัชญา
จงใช้ชีวิตให้คนอื่น"อิจฉา"...?
Credit ภาพ IG : actart_gen
"จะทุกข์ไปทำไม มาทำตัวเองให้ดีและมีความสุข...จะดีซะกว่า"
คุณคิดว่าการใช้ชีวิตจนคนอื่นอิจฉา แท้จริงแล้วใช่ความสุขจริงๆหรือเปล่า..?
แล้วถ้าในสังคมนั้น ไม่มีคนขี้อิจฉาอยู่เลยล่ะ ความสุขของการใช้ชีวิต จะยังเกิดขึ้นได้อยู่หรือไม่..?
หรือเรากำลังเอาความสุข ไปแขวนไว้กับความอิจฉาของคนอื่นมากเกินไป
ความสำเร็จที่เกิดจากการมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี สวยงาม มีเงินทอง สิ่งของรอบกาย ได้เที่ยวรอบโลก ใช้ของหรูแบรนด์เนม ทานอาหารแพงโรงแรม 5 ดาว
ความสุขของคนผู้นั้นจะยังเกิดขึ้นได้หรือไม่ หากไม่มีใครเห็น...?
ความสุขจะยังเกิดขึ้นได้หรือไม่ หากไม่ได้แสดงออกบนโลกโซเชี่ยล หรือการชมเชย ยกยอจากความคิดเห็นของใครสักคน หรือคนที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยในชีวิต แต่ก็กลายมาเป็นเพื่อนกันได้ ในแอปพลิเคชั่นไหนสักแห่ง..
ถ้าเราไม่ต้องแชร์เรื่องราวโอ้อวดลงเฟสบุค..
มันก็คงจะแปลกดี หากเราเอาความสุขไปแขวนไว้กับความคิดของคนอื่น จนลืมไปแล้วว่า การใช้ชีวิตให้มีความสุขจนน่าอิจฉา อาจจะไม่ต้องการเงินทองเพื่อแลกมาเลยก็ได้
คนที่น่าอิจฉา..
คือคนที่มีความสุขได้ ยิ้มได้ในวันที่แย่ที่สุดของเขา
ในวันที่ตกงาน วันที่สูญเสีย หรือวันที่มีปัญหา แต่เขายังสามารถรับมือกับอารมณ์ตัวเอง รู้จักปล่อยวางได้ แล้วยิ้มให้กับมัน ผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยปัญญา
เพราะว่าคนเหล่านี้ สามารถหาความสุขได้จากตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งของรอบกาย หรือคำยกยอจากใคร
ต่างจากคนที่มีความสุขจากสิ่งของรอบกายมากเกินไป มองคนอื่นแล้วคิดอยากจะมีบ้าง อยากได้บ้าง จนลืมมองความดีของตัวเอง และสิ่งที่ตัวเองมี
ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่เพื่อให้มีเท่ากับคนอื่น เค้าก็อาจจะหาความสุขไม่ได้เลย เพราะมันเป็นความสุขเพียงชั่วคราว เพราะเป็นสุขที่ถูก"สร้างภาพ"ขึ้นมา
การมีตัวตนในโลกโซเชี่ยลทุกวันนี้อาจทำให้หลายคนต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้า เพราะการเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น
ภาพที่เห็น อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด ชีวิตที่ดูดีมีราคาในเฟสบุค อาจจะเป็นแค่เพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตใครสักคน แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งชีวิตของเขา
แต่ชีวิตที่ดูดีและมีค่า คือชีวิตที่ไม่ต้องพึ่งพาความสุขจากใคร มีความสุขได้จากใจของตัวเอง
เพราะแท้ที่จริงแล้ว คนที่มีความสุขและน่าอิจฉาที่สุด คือคนที่ไม่อิจฉาใครเลยต่างหาก
ดูละครย้อนดูตัว "กรงกรรม"
ช่วงนี้แอร์ป้ามีความติดละครน้ำดี หลังจากที่ดูแม่ย้อยร้อยแรงม้าน้ำตาท่วมจอ ก็พบว่าแก่นแท้ละครที่สอนอะไรเรามากมาย ล้วนแล้วมาจากความ"ไม่รู้จักพอ"
ไม่พอใจ อยากได้อยากมีจนเกินตัว เพราะการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น จนนำไปสู่ความ "อิจฉาริษยา"
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ในสังคมเราก็ไม่เคยพ้นเรื่องนี้เลย อาจต่างกันที่ความทันสมัยของเทคโนโลยี ที่ยิ่งมีมากเกินไป ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ ความอิจฉาก็ยิ่งเกิดขึ้นเร็ว และกัดกร่อนจิตใจเรามากขึ้นไปทุกที..
การมองดูชีวิตคนอื่นผ่านโซเชี่ยล จึงกลายเป็นทั้งดาบสองคมในเวลาเดียวกัน..
เพราะชีวิตที่ติดไฮสปีดแบบทุกวันนี้ อาจจะไม่ทำให้ชีวิตมีความสุขและสงบได้เท่ากับชีวิตสโลวไลฟ์ที่ผ่านมา...
"มีความสุข แค่รู้จักปล่อยวาง"
Have a good day
#แอร์ป้าห้าดาว
โฆษณา