4 ส.ค. 2019 เวลา 11:52 • ประวัติศาสตร์
หงส์เหนือมังกรครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน
เซวียนไทเฮา กษัตริย์หญิงหลังม่านไม้ไผ่ ผู้เป็นบรรพบุรุษของจิ๋นซีฮ่องเต้
หมี่เยี่ย เกิดในแคว้นฉู่ เป็นลูกสาวของฉู่เว่ยหวาง แต่ว่าต้องสูญเสียพ่อและตั้งแต่ยังเด็ก พระนางจึงถูกส่งตัวมาเป็นสนมของ พระเจ้าฉินฮุ่ยเหวินหวางที่แคว้นฉินและมีโอรสด้วยกัน 3 พระองค์
1
ด้วยความที่พระนางเป็นคนที่เฉลียวฉลาด และเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าฉินฮุ่ยเหวินหวาง จึงเป็นเหตุให้พระนางเป็นที่อิจฉาริษยาของเหล่านางสนมและพระมเหสี
ต่อมาพระเจ้าฉินฮุ่ยเหวินหวางสวรรคต องค์ชายอิงจี้ ลูกชายคนโตของหมี่เยี่ยจึงถูกส่งไปเป็นตัวประกันที่แคว้นเหยียน ตามแผนการของพระมเหสีที่ต้องการพรากแม่พรากลูก
2
จากนั้นพระมเหสีจึงแต่งตั้งลูกชายของตนฉินอู่หวางขึ้นสืบราชบัลลังก์
ในประวัติศาสตร์กล่าวว่า ฉินอู่หวางมีนิสัยรักการต่อสู้ และมีร่างกายแข็งแรงกว่าคนทั่วไป วันหนึ่งพระองค์เสด็จไปเมืองลั่วหยาง เห็นกระถางสำฤทธิ์ยักษ์จึงคิดที่จะประชันความแข็งแรงด้วยการแข่งยกกระถาง แต่โชคไม่ดีที่กระถางนั้นหนักเกินไป ทำให้กระถางยักษ์ตกใส่ร่างของพระองค์
2
ทำให้พระองค์เสียชีวิตอย่างกะทันหัน หลังจากที่ครองราชย์ได้แค่ 4 ปี
การจากไปอย่างกะทันหันทำให้เกิดการแย่งชิงราชบัลลังก์ เพราะว่าพระองค์ยังไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท
เหล่าขุนนางแบ่งเป็น2ฝ่าย ฝ่ายแรกคือ ฝ่ายพระมเหสี ปราถนาจะให้องค์ชายอิงจั่ว ซึ่งเป็นองค์ชายรอง ขึ้นสืบราชบัลลังก์ แต่ขุนนางฝ่ายหมี่เยี่ย ปราถนาให้องค์ชายอิงจี้ ขึ้นสืบราชบัลลังก์
1
ด้านหมี่เยี่ยเมื่อเห็นโอกาสที่จะยึดอำนาจ จึงเรียกตัวองค์ชายอิงจี้กลับมาจากแคว้นเหยียน
หลังจากที่เกิดการสู้รบในราชสำนัก องค์ชายอิงจี้ก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าฉินเจาเซียนหวาง และได้แต่งตั้งหมี่เยี่ย ขึ้นเป็นเซวียนไทเฮา
1
ตั้งแต่นั้นมาเซวียนไทเฮาได้ออกว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่แทนพระเจ้าฉินเจาเซียนหวางที่ยังเด็กและประสบการณ์น้อย
ด้วยสติปัญญาที่หลักแหลมของเซวียนไทเฮา ทำให้พระนางรับมือกับศึกในและศึกนอกได้อย่างอยู่หมัด
สำหรับการขัดแย้งภายใน พระนางทรงจัดการกวาดล้างกลุ่มอำนาจเก่าที่คอยปลุกปั่นคนในราชสำนัก
จากนั้นพระนางทรงปลดขุนนางเก่าที่เคยคุมอำนาจในราชสำนักและแต่งตั้งญาติฝ่ายตนให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ และตั้งตำแหน่ง4 อำมาตย์ขึ้นมาเพื่อคุมอำนาจทั้งหมดในราชสำนักและขึ้นตรงกับพระนางแต่เพียงผู้เดียว
นอกจากนี้พระนางยังสนับสนุนการเชื่อมสำพันธ์กับแคว้นอื่นๆ โดยการแต่งงาน
พระนางยอมเสียสละแต่งงานใหม่อีกครั้งกับแคว้นอี้ฉวี ซึ่งเป็นแคว้นเล็กๆของชนกลุ่มน้อย แต่เก่งกาจด้านการสู้รบ เพื่อความมั่นคงของแคว้นฉิน และมีโอรสด้วยกัน2 พระองค์
2
34 ปีผ่านไป แคว้นฉินกลายเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่และมั่นคงกว่าแคว้นใด
แต่ว่าความสัมพันธ์แบบสามีภรรยา 34 ปี ไม่ได้ทำให้เซวียนไทเฮา ล้มเลิกความตั้งใจของตนเองที่จะยึดอำนาจทั้งหมดไว้
พระนางจึงลอบสังหารสามีของตน และให้กองทัพแคว้นฉินยึดแคว้นอี้ฉวีให้เป็นของตนทันที
นอกจากนี้พระนางยังเป็นผู้ริเริ่มให้สร้างกำแพงขนาดใหญ่หรือกำแพงเมืองจีน เพื่อป้องกันการรุกรานของชนกลุ่มน้อยอีกด้วย
1
เมื่อคราวสูญเสียอำนาจ
เสนาบดีฟ่านจู จากแคว้นเว่ย ถูกส่งตัวมาให้เป็นเสนาบดีที่แคว้นฉิน
แต่เมื่อมาถึงฟ่านจู มองเห็นปัญหาในการปกครองของแคว้นฉิน คือ พระนางเซวียนไทเฮาและ 4 อำมาตย์ มีอำนาจมากเกินไป จึงทำให้ฮ่องเต้เป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น
ฟ่านจูจึงรวมมือกับฮ่องเต้เพื่อชิงอำนาจกลับมา โดยเริ่มจากการปลด 4 อำมาตย์ และโค่นล้มอำนาจของพระนางเซวียนไทเฮาลง
เมื่อพระนางโดนโค่นล้มอำนาจลง บ้านปลายชีวิตของพระนางก็ได้พบรักกับขุนนางหนุ่ม จนขึ้นขนาดสั่งให้คนฝังขุนนางหนุ่มทั้งเป็นเมื่อพระนางสวรรคตไปแล้ว เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน
แต่เมื่อขุนนางหนุ่มได้ฟัง ก็เกิดอาการกลัวจนไปขอร้องให้ขุนนางใหญ่ช่วยพูดกับพระนาง ขุนนางใหญ่กล่าวว่า พระองค์ทรงคิดว่าคนที่ตายไปแล้วจะมีความรู้สึกหรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุใดพระองค์ถึงจะให้คนที่พระองค์รักต้องถูกฝังทั้งเป็นกับร่างที่ไม่มีความรู้สึกด้วย
เมื่อพระนางได้ฟังก็ทรงคิดได้ว่าความรักที่แท้จริง คือความปราถนาดี ไม่ใช่การครอบครอง
4
หลังจากโค่นล้มอำนาจได้ 1 ปี พระนางก็สวรรคตด้วยอายุ 74 ปี
ความจริงของหุ่นทหารดินเผา
นักโบราณคดีบางท่านเชื่อว่า สไตล์การทำผมตามลักษณะจีนโบราณของหุ่นทหารที่ขุดพบในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้มีลักษณะแบบของแคว้นฉู่ ไม่ใช่แคว้นฉิน จึงบ่งชัดว่าเจ้าของหุ่นทหารเหล่านี้คือ พระนางเซวียนไทเฮา
นอกจากนี้ เสื้อผ้าของหุ่นทหารยังมีสีสันหลากหลาย ซึ่งขัดแย้งกับชุดเกราะทหารสีดำของจิ๋นซีฮ่องเต้
แต่ว่าความเชื่อนี้ก็ถูกคัดค้านโดยนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีท่านอื่นๆ จึงยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด
1
โฆษณา