4 ส.ค. 2019 เวลา 15:35 • ท่องเที่ยว
เป๋อ Chapter One
จุดเกิดเหตุ - Cemoro Lawang , Indonesia
"ซวยแล้วตรูว"
นั่นคือสิ่งที่เราคิดกับตัวเองเมื่อมือถือเจ้ากรรมเกิดอาการรวนจนแบตหมด ขึ้นสวรรค์ไปต่อหน้าต่อตา
"ทำไงวะทีนี้?"
แหงล่ะ ทำไงดี?
เราที่เดินเล่นมาไกลเกสเฮ้าส์มากจนไม่ได้จำทางเกิดอาการตื่นตระหนก
ก็ในหมู่บ้านนี้มันมีบ้านที่หน้าตาคล้ายๆกันเป็นร้อยๆบนถนนที่แทบจะไม่มีจุดสังเกต ไม่มีชื่อซอย
ยิ่งไปกว่านั้นเกสเฮ้าส์ที่เราอยู่นั้นไม่มีป้ายชื่อ
แถมเราเองก็ไม่รู้ชื่อเจ้าของเกสเฮ้าส์
ที่สุดของที่สุดคือตำแหน่งเกสเฮ้าส์ที่เราเซฟไว้ในแผนที่ออฟไลน์ในมือถือนั้นได้ตายไปพร้อมกับมือถือเรียบร้อยแล้ว
ใช่ค่ะ...ตอนนี้ฉันหลง!
"ทำไงดีวะะะ"
มองซ้าย มองขวา โอ่ยย นักท่องเที่ยวไม่มีเลย
ดูจะไม่มีใครให้สื่อภาษาอังกฤษด้วยได้สักคน
ใครใช้ให้มาอยู่แถวหมู่บ้านแทนที่จะอยู่แถวโรงแรมนักท่องเที่ยวเยอะๆนะ? อยากสัมผัสชีวิตชาวบ้าน เป็นไงล่ะ?
ระหว่างทางที่เรานึกบ่นตัวเองอยู่ในใจแล้วพยายามเดินหาเกสเฮ้าส์ตัวเองอยู่นั้นก็พบว่า....
'จำไม่ได้จริงๆค่ะ😂'
แม่เจ้าา อยากจะกรีดร้องเป็นภาษากรีกครั้งบุกกรุงลงกา(ห๊ะ?)!
เมื่อเดินวนยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆบวกกับเวลาที่ค่ำมืด และอากาศที่หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆเราเลยตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย
'เสี่ยงดวง'
ค่ะ เราเลือกใช้วิธีการเสี่ยงดวงโดยการตามหาที่ชาร์จมือถือเผื่อว่าจะโชคดีเจอคนที่มีที่ชาร์จที่เราจะใช้ได้
บ้านนึงผ่านไป ไม่มี อ่ะไปต่อ
สองบ้านผ่านไป ก็ยังไม่มี ได้ อ่ะ ไปต่อ
สี่บ้านผ่านไป จะตั้งเต้นท์นอนข้างนอกละนะ
จนกระทั่ง..
"Excuse me, sorry for disturbing but do you have any charger that I could borrow for a few mins?" เราถามพร้อมโชว์มือถือให้ดูด้วยเสียงเหนื่อยๆ
"=+_#/£×_+" ผู้หญิงวัยประมาณห้าสิบคนนั้นตอบกลับมา
'.........อะไรเว๊?'
ด้วยความที่เข้าใจว่าคงจะไม่มีอีกนั่นแหละ เลยกำลังจะไปต่อ
แต่คุณป้ากลับตรงเข้ามาหา พูดอะไรบางอย่างที่เราไม่เข้าใจและชี้นิ้วไปในบ้านหลังเล็กของเธอและเดินนำเข้าไป
เราเสี่ยงดวงและเดินตามเข้าไปอย่างว่าง่าย
คุณป้าเดินไปยังมุมนึงของบ้าน หยิบสายชาร์จและเก้าอี้ตัวนึงออกมาวางตรงกลางบ้านให้เรานั่ง พร้อมทั้งให้ลองสายชาร์จมือถือ
เท่านั้นไม่พอ คุณป้ายังไปหยิบขนมท้องถิ่นออกมาแล้วพยายามพูดกับเราด้วยคำง่ายๆในภาษาอังกฤษผสมกับภาษาอินโดที่เราไม่เข้าใจ แต่พอรับรู้ได้ถึงคำเชื้อเชิญให้กินขนม
แล้วคุณป้าก็ก่อกองไฟจากเตาไฟปูนเล็กๆกลางบ้านเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เราทั้งสองคนภายใต้อากศหนาวเย็นจากข้างนอก
หลังจากนั้นก็หยิบเก้าอี้มานั่งข้างๆเรา พยายามที่จะพูดคุยด้วย
ความตื่นเต้นจากการที่มีต่างชาติเข้ามานั่งพูดคุยอยู่ในบ้านนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจน
สักพักนึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กสองคนที่แอบมองเรากับคุณป้ามาจากมุมๆนึงของบ้านก็เข้ามานั่งด้วยและพยายามพูดคุยด้วยภาษาและความตื่นเต้นที่พอๆกัน
เวลาผ่านไปพักนึงมือถือเราก็มีแบตมากพอที่จะทำให้เราเปิดแผนที่กลับเกสเฮ้าส์ได้
เราเลยขอตัวจากครอบครัวที่น่ารักครอบครัวนี้
โดยถอดสร้อยข้อมือไว้ให้สาวน้อยทั้งสองเพื่อเป็นที่ระลึก
เนื่องจากคุณป้าปฏิเสธที่จะรับของตอบแทนใดๆ
ภาพรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความตื่นเต้นในสายตาคนทั้งสาม
เรายังจำได้มาถึงทุกวันนี้
หรือจริงๆแล้วโชคชะตาที่เล่นตลกกับเราและทำให้มือถือเรารวนจนแบตหมดนั้น
อาจจะกำลังบอกเราก็ได้นะว่า ....
"จริงๆแล้วโลกนี้ยังมีคนน่ารักๆที่ทำให้โลกมันน่าอยู่อีกเยอะนะรู้มั้ย?"
#Inmymemories #Solotraveler
โฆษณา