Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
I am Tonyy
•
ติดตาม
5 ส.ค. 2019 เวลา 11:00 • สุขภาพ
การนำกุ้งไปผ่านความร้อนแล้วเปลือกของมันเปลี่ยนจากสีน้ำเงินอมเขียวเป็นสีเฉดส้มแดง มันคงจะเป็นเรื่องที่คุ้นเคยและเห็นกันได้บ่อยๆ แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยว่าทำไมเปลือกของเจ้าสัตว์ชนิดนี้ เปลี่ยนสีได้แบบคนละเฉดกันเลย?
กรณีดังกล่าวเป็นหนึ่งในเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ของโลก พยายามไขกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในช่วงยุค 1870 และพวกเขาเองก็ต้องใช้เวลานานกว่า 100 ปี จนกระทั่งหาคำตอบได้ในปี 2002
อธิบายกันสักนิดว่าการที่กุ้งมีสีน้ำเงิน (โดยเฉพาะกุ้งในทะเล) เป็นการวิวัฒนาการสีของร่างกายมาเพื่อการพรางตัว โดยอาศัยสารสองชนิด ได้แก่โปรตีน "ครัสตาไซยานิน" และสารแคโรทีนอยด์ที่ทำให้พืชหรือสัตว์มีสีเหลือง ส้ม หรือแดงชื่อ "แอสตาแซนธิน”
โดยตามปกติแล้วกุ้งอย่างล็อบสเตอร์ จะไม่สามารถผลิตสารแอสตาแซนธินได้เอง แต่สารดังกล่าวจะเกิดการสะสมในตัวกุ้งผ่านอาหารที่กิน คล้ายการสะสมของเบตาแคโรทีนในนกฟลามิงโก (ซึ่งทำให้มันมีสีชมพู)
ปัญหาคือการสะสมสารแอสตาแซนธินจะทำให้กุ้งมีตัวเป็นสีแดง ซึ่งคงจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่สำหรับสัตว์ที่ต้องการจะซ่อนตัวในทะเล
การนำกุ้งไปผ่านความร้อนแล้วเปลือกของมันเปลี่ยนจากสีน้ำเงินอมเขียวเป็นสีเฉดส้มแดง มันคงจะเป็นเรื่องที่คุ้นเคยและเห็นกันได้บ่อยๆ แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยว่าทำไมเปลือกของเจ้าสัตว์ชนิดนี้ เปลี่ยนสีได้แบบคนละเฉดกันเลย?
กรณีดังกล่าวเป็นหนึ่งในเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ของโลก พยายามไขกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในช่วงยุค 1870 และพวกเขาเองก็ต้องใช้เวลานานกว่า 100 ปี จนกระทั่งหาคำตอบได้ในปี 2002
อธิบายกันสักนิดว่าการที่กุ้งมีสีน้ำเงิน (โดยเฉพาะกุ้งในทะเล) เป็นการวิวัฒนาการสีของร่างกายมาเพื่อการพรางตัว โดยอาศัยสารสองชนิด ได้แก่โปรตีน "ครัสตาไซยานิน" และสารแคโรทีนอยด์ที่ทำให้พืชหรือสัตว์มีสีเหลือง ส้ม หรือแดงชื่อ "แอสตาแซนธิน"
โดยตามปกติแล้วกุ้งอย่างล็อบสเตอร์ จะไม่สามารถผลิตสารแอสตาแซนธินได้เอง แต่สารดังกล่าวจะเกิดการสะสมในตัวกุ้งผ่านอาหารที่กิน คล้ายการสะสมของเบตาแคโรทีนในนกฟลามิงโก (ซึ่งทำให้มันมีสีชมพู)
ปัญหาคือการสะสมสารแอสตาแซนธินจะทำให้กุ้งมีตัวเป็นสีแดง ซึ่งคงจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่สำหรับสัตว์ที่ต้องการจะซ่อนตัวในทะเล
ดังนั้นกุ้งจึงวิวัฒนาการให้โปรตีนครัสตาไซยานินในตัวของมัน ทำปฏิกิริยากับแอสตาแซนธินด้วยการเปลี่ยนโมเลกุลของสารจนทำให้การสะท้อนแสงของแอสตาแซนธินเปลี่ยนไป
อธิบายง่ายๆ คือเมื่อสารแอสตาแซนธินจับตัวกับโปรตีนครัสตาไซยานิน มันจะกลายเป็นสีน้ำเงินเขียว
แล้วในเวลาที่กุ้งเหล่านี้ถูกนำไปผ่านความร้อนเช่นการทำอาหาร โปรตีนครัสตาไซยานินที่จับตัวกับสาร แอสตาแซนธินก็จะหลุดออกจากกัน ทำให้สารแอสตาแซนธินคืนสภาพเป็นสีแดงดังเดิม
ที่มา
www.livescience.com/66093-why-cooked-lobsters-turn-red.html
www.telegraph.co.uk/news/science/science-news/11571213/Scientists-discover-why-lobsters-turn-red-when-boiled.html
mentalfloss.com/article/31483/why-do-crabs-and-lobsters-turn-red-when-you-cook-themกุ้งจึงวิวัฒนาการให้โปรตีนครัสตาไซยานินในตัวของมัน
ทำปฏิกิริยากับแอสตาแซนธินด้วยการเปลี่ยนโมเลกุลของสารจนทำให้การสะท้อนแสงของแอสตาแซนธินเปลี่ยนไป
อธิบายง่ายๆ คือเมื่อสารแอสตาแซนธินจับตัวกับโปรตีนครัสตาไซยานิน มันจะกลายเป็นสีน้ำเงินเขียว
และในเวลาที่กุ้งเหล่านี้ถูกนำไปผ่านความร้อนเช่นการทำอาหาร โปรตีนครัสตาไซยานินที่จับตัวกับสาร แอสตาแซนธินก็จะหลุดออกจากกัน ทำให้สารแอสตาแซนธินคืนสภาพเป็นสีแดงดังเดิม
ที่มา
www.livescience.com/66093-why-cooked-lobsters-turn-red.html
www.telegraph.co.uk/news/science/science-news/11571213/Scientists-discover-why-lobsters-turn-red-when-boiled.html
mentalfloss.com/article/31483/why-do-crabs-and-lobsters-turn-red-when-you-cook-them
บันทึก
9
8
1
9
8
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย