6 ส.ค. 2019 เวลา 14:39 • ประวัติศาสตร์
แก๊งโจรเฒ่า ปล้นเหนือเมฆเจาะห้องนิรภัยใต้ดินที่แน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษ โกยอัญมณีมูลค่าไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท...(EP.2 ตอนจบ)
Credit : telegraph
ต่อจากตอนที่แล้ว ...หลังจากที่แก๊งโจรเฒ่าได้อุปกรณ์ และฝึกจนพร้อมใช้ ทั้งกลุ่มจึงเลือกสุดสัปดาห์ที่เหมาะกับการปล้นครั้งนี้ มันคือช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ซึ่งมันจะทำให้พวกเขามีเวลามากพอในการทะลวงกำแพงห้องนิรภัย
คืนวันที่ 2 เมษายน 2015 ถนนในลอนดอนนั้นเงียบกริบ และทั้งกลุ่มก็ได้นัดพบกันที่ Hatton Garden ด้วยการปลอมตัวเป็นพนักงานซ่อมบำรุงโครงสร้างอาคาร โดยสอมเสื้อคลุมสะท้อนแสง
1
Reader และ Perkins รีบมุ่งไปที่ส่วนห้องนิรภัยของ Hatton Garden เขาพบว่าประตูหนีไฟถูกล็อค แต่เหล่าโจรผู้เชี่ยวชาญก็มีผู้สมรู้ร่วมคิดที่อยู่ด้านใน Hatton Garden โดยมีชื่อแฝงว่า Basil และเขาก็มีกุญแจของประตู
สิ่งที่ไม่ธรรมดาของอาชญากรรมนี้ คือ จะไม่มีใครรู้เลยว่าใครคือ Basil สิ่งที่เรารู้คือ เหมือนเขาจะคอยเป็นผู้นำทาง แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ภายในตัวอาคาร แก๊งค์ลุงที่นำโดย Reader และ Perkins ได้รีบทำลายระบบกล้องวงจรปิด CCTV แล้วตัดสัญญาณเตือนภัยอย่างรวดเร็ว ด้วยการตัดสายโทรศัพท์ และพังเสาส่งสัญญาณทิ้ง
2
หนทางเดียวที่จะไปชั้นใต้ดินได้ก็คือใช้ลิฟท์ แต่พวกเขาไม่สามารถเปิดระบบเพื่อเข้าใช้งานลิฟท์ได้ จึงเปลี่ยนมางัดประตูลิฟท์ด้วยชะแลง แล้วไปทางปล่องลิฟท์แทน ด้วยการไต่ใส่โยงลิฟท์ลงมาที่ห้องนิรภัยโดยตรง
2
Credit : Independent
จากนั้น Reader และ Perkins ก็จัดเตรียมสว่านที่ขโมยมา และเริ่มขั้นตอนอันยากลำบาก จากการเจาะเข้าไปในกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 20 นิ้ว
พวกเขาตั้งใจจะเจาะรูสามรูแล้วทุบเข้าหากันเพื่อให้ลูกทีมที่ผอมที่สุดมุดเข้าไปได้
หลังจากเจาะต่อเนื่องมานานเกือบ 5 ชั่วโมง พวกเขาเจาะรูเข้าไปในกำแพงได้สำเร็จ ซึ่งมันมีขนาดความกว้าง 10x18 นิ้ว
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังขวางพวกเขาอยู่ คือ เหล็กกล้าที่ดันตู้นิรภัยเอาไว้ ซึ่งมันถูกยึดไว้กับพื้น และเพดาน
Credit : telegraph
Reader รู้มาก่อนแล้วว่าจะต้องมีผนังเหล็กกล้ากั้นไว้อีกชั้น และเขาก็มีเครื่องมือเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว พวกเขาได้นำเครื่องกระทุ้งไฮดรอลิกแรงดันขนาด 10 ตัน มาด้วย พวกเขาจะเอามันไปใช้ผลักเหล็กกล้าที่ด้านหลังของตู้นิรภัย
แต่แล้วก็เกิดหายนะ พวกเขาเจอปัญหา เมื่อพวกเขารู้ว่าเครื่องกระทุ้งไฮดรอลิกที่เอามาใช้ไม่ได้ผล กว่า 1 ชั่วโมงที่พวกเขาพยายามใช้มันครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มันก็ล้มเหลว
เทศกาลอีสเตอร์ปี 2015 แก๊งค์โจรเฒ่าทั้ง 7 เหลือเพียงไม่กี่นิ้วในการเจาะตู้นิรภัยใต้ดิน กับการปล้น Hatton Garden Jewery ที่ลอนดอน
แต่อุปสรรคสุดท้ายที่กั้นพวกเขา กับทอง ,เพชร ,แร่ที่มีค่า และอัญมณี คือ เหล็กกล้า และความซวยอีกอย่างคือคันโยกของเครื่องกระทุ้งไฮดรอลิกขนาด 10 ตัน ได้พังลง
พวกเขาจะไม่ยอมให้คันโยกที่พังนี้ หยุดเขาจากการปล้นครั้งใหญ่ที่สุด ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ เขาวางแผนเรื่องนี้มานานถึง 3 ปี และพวกเขาได้กลิ่นเงิน จึงไม่มีทางล้มภารกิจนี้ง่ายๆแน่
แต่มันก็ยังโชคดีเพราะพวกเขาวางแผนมารอบคอบจึงยังพอมีเวลาเหลือให้ปรับแผนใหม่ได้ทัน
พวกเขาทำการปล้นในวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ มีนจึงทำให้มีเวลาไปร้านขายเครื่องมือเพื่อซื้อคันโยกใหม่ แล้วค่อยย้อนกลับมาใหม่
เมื่อเกิดเหตุที่ผิดคาด แก๊งค์หัวขโมยออกจากที่ก่อเหตุเพื่อไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมในช่วงเช้าวันถัดมา
พวกเขาซื้อคันโยกใหม่มาในราคา 140 ดอลลาร์ และคืนนั้นพวกเขาก็ย้อนกลับไปที่บริษัทนิรภัย
ในที่สุดแก๊งค์ลุงเฒ่ามากประสบการณ์ก็ทุบเปิดทางเข้าไปในห้องนิรภัย และเจาะตู้นิรภัยภายในห้องกว่า 100 ตู้ได้สำเร็จ
Credit : Independent
พวกเขาได้เพชร ทอง และของมีค่ามากมาย ซึ่งพวกเขาได้นำมันยัดใส่ถังขยะแล้วขนมันออกมา ซึ่งประเมินมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่พวกเขาขนออกมาได้มากกว่า 14 ล้านปอนด์ (ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท)
พวกเขาขนของมีค่า และอัญมนีมูลค่ามหาศาลใส่ถังขยะที่เตรียมไว้ จากนั้นลำเลียงทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ภายในถังขยะออกมาในช่วงกลางดึก โดยแต่งตัวเป็นคนงาน และขึ้นรถหนีไปอย่างสบายอารมณ์
Credit : Independent
4 วันครึ่งหลังจากที่เริ่มการปล้น บริษัทนิรภัย Hatton Garden เปิดทำการตามปกติ พวกเขาพบร่องรอยโจรกรรมทันที
1
ตำรวจรีบไปตรวจเทปวงจรปิด แต่พวกโจรได้นำเทปออกไปด้วย ที่จริงมันไม่เหลือร่องรอยที่สาวตัวได้เลย นอกจากหนังสือราคา 15 เหรียญ ที่พวกโจรซื้อมาเพื่อศึกษาหลักจิตวิทยาสำหรับพวกหัวทึบ
1
Credit : telegraph
ตำรวจไม่พบรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เพราะโจรรู้วิธีลบรอยนิ้วมือออกไป ปฏิบัติการอันเหนือชั้นของ Reader และ Perkins นั้นพิสูจน์ได้ว่ายอดเยี่ยม เพราะมันมีคนไม่กี่คนในเกาะอังกฤษที่สามารถทำการปล้นแบบนี้ได้
2
ตำรวจสืบสวนคดีนี้โดยไปค้นข้อมูลจากประวัติการปล้นของพวกโจรรุ่นเก๋า ที่เคยปล้นในลักษณะทำนองเดียวกัน และสองคนที่ตำรวจพบข้อมูลก็คือ Brian Reader และ Terry Perkins นั่นเอง
ในขณะเดียวกัน Reader และ Perkins ต่างชะล่าใจไปหน่อย และค่อนข้างประมาท พวกเขาไปผับที่ North London และโม้เรื่องที่พวกเขาทำ พวกเขาอหังการ และรู้สึกว่าจะปล้นทำไม ถ้าโม้ไม่ได้ เราปล้นสำเร็จ และได้ของมาแล้วนี่
1
6 สัปดาห์ หลังการปล้น Reader และ Perkins คิดว่ามันน่าจะปลอดภัยที่จะขนย้ายทรัพย์สินที่ได้จากการปล้นมา แต่ตำรวจได้เตรียมพร้อม และดักรอพวกเขา
ในตอนที่พวกเขาขนของไปไว้ที่อพาร์เมนต์ของลูกสาว Perkins ตำรวจดักรอ และเข้าชาร์จจับกุมได้สำเร็จ
1
แก๊งค์โจรเฒ่าทั้งหมดได้วางมือสมใจอยาก โดยหัวโจกอย่าง Reader โดนโทษ 6 ปีในเรือนจำ ส่วน Perkins โดน 7 ปี พวกเขาแทบไม่สนใจเงินทอง พวกเขาแค่อยากได้ชื่อเสียง มันตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าตัวเองก่อการปล้นครั้งนี้
Credit : telegraph
แม้พวกเขาจะต้องไปสงบจิตสงบใจกับความตื่นเต้นในคุก แต่วีระกรรมการปล้นที่พวกเขาทำ จะกลายเป็นตำนานการปล้นปล้นเหนือเมฆของเกาะอังกฤษไปอีกนาน
***หมายเหตุ
สำหรับตัวเลขมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยออกมา สื่ออังกฤษ และสื่ออื่นๆที่รายงานข่าว เช่น BBC ,Independent ,Telegraph ,Theguardian หรือ the sun ต่างรายงานไม่ตรงกัน
1
แต่ส่วนใหญ่จะอ้างอิงตามที่อาชญากรกล่าวให้การต่อศาล คือ 14 ล้านปอนด์ (ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท) แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆคน ในขณะนั้น ต่างประเมินว่าทรัพย์สินที่หายไปมีมูลค่ามากกว่านั้น
เรียบเรียงโดย : Inspire Story
ถ้าหากเรื่องราวนี้ ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจ หรือ สร้างความน่าสนใจให้กับท่านผู้อ่าน สามารถกดแชร์ และติดตาม Inspire Story เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ
โฆษณา