จะว่าไปชื่อเรื่อง หน้าหนังและชื่อไทยก็ไม่ match กันเท่าไหร่ โดยเฉพาะชื่อเรื่อง...มีความเข้าใจยาก สารภาพตามตรงว่านั่งแปลอยู่นานว่ามันหมายความว่าอะไร
ครึ่งชั่วโมงแรกของหนังเราก็เริ่มได้คำตอบ...
“เดนนี” (ไมโล เวนทิมิเกลีย) ตัวเอกของเรื่องเป็นนักแข่งรถฟอร์มูล่าที่มีความฝันอยากเป็นนักแข่งระดับโลก และวิถีการแข่งรวมทั้งวิธีคิดของเขาก็ทำให้เราพอได้เค้าลางมาบ้างว่า “The Art of Racing in the Rain” คืออะไร?
แล้วนี่ก็คือจุดที่ทฤษฎี “The Art of Racing in the Rain” ของเดนนีเข้ามาเกี่ยว และการเดิมพันครั้งนี้ของเดนนีก็มี “โซอี้” ลูกสาวคนเดียว สมบัติอย่างเดียวที่ “อีฟ” ภรรยาสุดที่รักทิ้งไว้ให้ เดนนีจึงต้องสู้สุดใจ...แม้จะเห็นเค้าลางความเป็นไปได้เลือนลางเต็มทีแต่เขาก็จะต้องผ่านไปให้ได้
จุดนี้คุณๆคงพอเดาได้ว่าเดนนีจะเลือกเส้นทางไหน ความน่าเอ็นดูก็คือ “เอ็นโซ” มีส่วนในการตัดสินใจเรื่องนี้ด้วย จากการเฝ้าดูเจ้านายหนุ่มมานาน “เอ็นโซ” ย่อมรู้จักดีว่าทฤษฎี “The Art of Racing in the Rain” นั้นคืออะไรและมันสำคัญกับชีวิตเดนนีแค่ไหน
จะว่าไปหนังก็มีกลิ่นอายของหนัง Coming of Age ไม่น้อยทีเดียว เพียงแต่ว่าไม่ใช่การเรียนรู้ของคน แต่เป็นของหมาอย่าง “เอ็นโซ” ที่เฝ้ามองการเติบโตของมนุษย์...ด้วยความหวังว่าสักวันมันจะได้เป็นมนุษย์บ้าง