"Beyond Scared Straight”รายการสารคดีที่นำเด็กเกเรมาดัดนิสัยในคุก
ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักก่อนนะคะว่า
“Beyond Scared Straight” คือรายการทีวีสารคดีที่ดัดนิสัยเด็กเกเรด้วยการพาไปทดลองใช้ชีวิตอยู่ในคุก
ออกฉายครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2554 ทางช่อง A&E Networks ของสหรัฐอเมริกา
โดยมี “อาร์โนลด์ ชาพิโร่” (Arnold Shapiro)เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม เป็นผู้อำนวยการผลิต
ซึ่งรายการนี้ก็ประสบความสำเร็จจนทำออกมา 9 season เลยทีเดียว
แต่ละตอนทางรายการจะคัดเลือกเด็กที่มีปัญหาจำนวนหนึ่งที่พ่อแม่ไม่สามารถรับมือได้ มันคงจะหนักจริงๆล่ะนะ คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากให้ลูกไปทดลองใช้ชีวิตอยู่ในคุกหรอก
เด็กที่เข้าร่วมรายการมีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง มีตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อฟัง รังแกเพื่อน ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่าง ลักขโมย เล่นยา พกอาวุธมีดและปีน ไปจนถึงใช้ความรุนแรงแม้แต่ในครอบครัวของตัวเอง
โดยเด็กเหล่านี้ต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับผู้คุมและนักโทษตัวจริง(ไม่ได้ใช้ตัวแสดงแทน😁) เพื่อให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่และสังคมในคุกจริงๆ
บางตอนมีให้นักโทษมาเล่าให้ฟังว่าตัวเองทำอะไรมาบ้างถึงโดนจับ บางทีก็ตวาดและขู่เรื่องการใช้ชีวิตในคุก ซึ่งประโยคเด็ดที่ได้ยินบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น “you think you’re tough?” (แกคิดว่าตัวเองเจ๋งนักเหรอ?)
จากตอนแรกที่หลายๆ คนเดินเข้าไปในคุกอย่างมั่นใจ เพราะรู้ว่านี่คือการถ่ายรายการเลยไม่ได้หวาดกลัวแถมยังท้าทายกวน__เขาอีกต่างหากเพราะคิดว่าตัวเองเจ๋ง แต่สุดท้ายโดนเหล่านักโทษขู่กระเจิงจนขวัญหนีดีฝ่อกันไปเลย
วิธีที่ทางรายการใช้ดัดนิสัยเด็กๆ เหล่านี้มีหลากหลายมาก บางครั้งอาจจะดูรุนแรงเหมือนมีการใช้กำลัง แต่ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้ความควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้คุม ไม่เกิดอันตรายทางร่างกายต่อเด็กแน่นอนค่ะ (ส่วนทางจิตใจก็อีกเรื่องนึงเพราะบางตอนโหดสุดๆ คงจะฝังใจเด็กๆกันเลยล่ะค่ะ)
และทางรายการจะติดตามผลว่าชีวิตเด็กๆ แต่ละคนหลังจบโปรแกรมเปลี่ยนไปยังไง ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดีเกินคาด เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ต่างปรับปรุงตัวเป็นคนดีขึ้น
เนื่องจากได้เห็นและเผชิญความโหดร้ายของสังคมในคุกมาแล้วเรียบร้อย ถ้าหากไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นในอนาคตก็มีทางเดียวคือต้องกลับตัวกลับใจซะ
แต่ก็ใช่ว่าจะได้ผลกับทุกคนเพราะเด็กอีกส่วนหนึ่งก็ยังเหมือนเดิม
นี่แหละมนุษย์มีความคิดเห็นที่ต่างกัน นิสัยก็เช่นกัน กับบางคนไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้หรอกเพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยน
รายการนี้ใช้คุกจริงเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ
และนักโทษที่รับหน้าที่ “คุณครูเฉพาะกิจ” ก็เป็นนักโทษต้องคดีจริงๆ ค่ะ นักโทษแต่ละคนนี่เห็นแล้วกลัวแทนน้องเลย ขนาดยืนอยู่เฉยๆยังดูน่ากลัว
จะเห็นได้ว่ามีอยู่หลายตอนเลยที่สั่งสอนกันอย่างดุเดือดชนิดที่ว่าเรานั่งดูอยู่ดีๆยังขวัญผวาไปด้วยเลย ถ้าเราดูมากๆก็อาจจะเสียสุขภาพจิตได้เลยล่ะค่ะ
แต่มีตอนนึงที่แอดถึงกับน้ำตาคลอ ตอนนี้อยู่ใน season 6 ค่ะ
ปกติจะเอานักโทษมาตะโกนใส่หน้า เด็กบางคนมันอยากอวดว่ามันเจ๋งก็นิ่งใส่ รู้ว่าถ่ายรายการยังไงก็ไม่ทำอะไรที่รุนแรงมากอยู่แล้ว แต่นี่เจอพี่ตัวเอง
ตอนนี้แหละค่ะ....
เด็กอายุ 15 ปี ที่ต้องมาเจอกับพี่ชายอายุ 23 ปีในคุกที่มีฐานะเป็นนักโทษ เห็นสภาพพี่ตัวเองต่อหน้า ไม่มีการตะคอก ไม่มีคำพูดแรงๆ ไม่มีการใช้ความรุนแรง พูดคุยกันนิ่งๆธรรมดาแต่ส่งผลต่อความรู้สึกรุนแรงสะเทือนออกมาถึงตัวเด็กและคนดูแบบเต็มๆ
ซึ่งบทสนทนาก็ประมาณว่า
พี่ชายถามน้องชายว่ามาที่นี่ได้เรียนรู้อะไรบ้างออกไปจะไปทำอะไรต่อ แล้วก็สอนน้องไม่ให้ทำตัวไม่ดี น้องชายก็บอกว่าจะไม่ทำอะไรที่ไม่ดีแล้ว
แต่มีประโยคหนึ่งที่น้องชายพูดว่า "ผมโตมาโดยมีพวกพี่เป็นต้นแบบ"
คือพอน้องชายพูดจบประโยคคนเป็นพี่ถึงกับนิ่งไปพักนึงเลยเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเจ็บปวดที่ได้ยินแบบนั้น กว่าจะตั้งสติแล้วถามน้องชายว่า "เคยเป็นหรือยังเป็นอยู่"
“เคยเป็นหรือยังเป็นอยู่” มันเป็นเหมือนประโยคที่
พี่ชายกำลังบอกน้องชายว่า ต้นแบบที่น้องชายเข้าใจมันผิด มันไม่ควรเอามาเป็นแบบอย่างเลย ต้นแบบที่ดีจะไม่ต้องมาเป็นนักโทษใช้ชีวิตอยู่ในคุกแบบนี้
ก่อนที่จะหมดเวลาพี่ชายก็สอนน้องชายว่า
"ถ้าออกจากที่นี่แล้ว ตั้งใจเรียนหนังสือ พยายามเป็นใครที่คนยอมรับ ถ้ามัวแต่ทำแบบพวกพี่ สุดท้ายก็คงได้แต่ทำลายชีวิตตัวเองนั่นแหละ"
คือพี่ชายได้เรียนรู้แล้วว่าเขาเคยทำไม่ดีแล้วผลลัพธ์มันเป็นแบบไหนและไม่อยากให้น้องชายเป็นแบบเขา
และตอนที่หมดเวลาผู้คุมจะพาพี่ชายไป
แล้วสองพี่น้องกอดกันพี่บอกให้น้องดูแลตัวเองดีๆ
มันสะเทือนความรู้สึกของแอดยังไงก็ไม่รู้
แม้โปรแกรมดัดนิสัยจากรายการ 'Beyond Scared Straight’ จะดูน่ากลัว และเป็นวิธีการดัดนิสัยที่ดูรุนแรง
แต่อย่างน้อยวิธีการที่ทำในรายการนี้ก็ทำให้เด็กหลายคนกลับตัวกลับใจได้ และก็ทำให้เห็นว่าชีวิตที่อยู่ในคุกมันโหดร้ายและเอ่อ...ป่าเถื่อน
เพียงใด
มีหลายคนนะคะที่ได้ดูรายการนี้แล้วคิดว่าไทยเราน่าจะมีรายการแบบนี้บ้าง แต่แอดว่าแค่คิดก็ดราม่าแล้วล่ะค่ะ.
บ้านเราไม่เหมือนบ้านเขา แบบนี้มันรุนแรงกับเด็กเกินไป บางคนอาจจะกลัวจนฝังใจไปเลยก็ได้ เราไม่รู้ว่าสภาพจิตใจ ภูมิหลังเด็กแต่ละคนเป็นอย่างไร ความกลัวของจิตใจคนมันลึกเกินกว่าที่ใครหลายๆคนจะรู้ได้
ที่ไทยเราก็มีบ้างนะคะที่พาเด็กไปทัศนศึกษาในเรือนจำแต่แค่ไปดูเฉยๆ ว่าในคุกมันเป็นอย่างไร
ไม่ได้มีแบบที่เห็นในรายการ
และมีเหตุการณ์นึงเคยเป็นข่าวด้วย มีกิจกรรมพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่เรือนจำนี่แหละค่ะ แล้วลูกชายที่เป็นนักเรียนไปเจอพ่อที่เป็นนักโทษอยู่ที่เรือนจำ อันนี้ก็ดราม่าน้ำตาไหลเหมือนกัน. จากที่ฟังสัมภาษณ์คุณครูที่พาไปเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
จริงอยู่ว่าการได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกเพราะทำผิดพอได้เข้าไป พอได้ต้องโทษ มันมีอยู่ 2 ทาง
ใครหลายๆคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในนั้นคิด คือ
ดันสันดารออกมาให้สุด ไหนๆก็มาทางนี้แล้วไปให้สุดเลยแล้วกัน เหมือนเข้าไปร่ำเรียนวิชาออกมาได้วิชาเพิ่ม
กับ สำนึกในสิ่งที่ทำลงไป กลับตัวกลับใจใหม่
ฉันจะไม่ทำอะไรผิดอีกแล้ว ไม่มีทางกลับมาเหยียบที่นี่อีก
ส่วนมากเลยคือเข้าไปแล้วสำนึกผิดคิดกลับตัวใหม่ แต่! สังคม. สภาพแวดล้อม ที่บีบให้เข้าวังวนเดิมๆ เพราะจิตใจที่ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะทนรับแรงกดดันได้. จึงไม่แปลกที่จะเห็นออกมาแล้วก็เข้าไปใหม่ ไม่นานก็ออกมาอีกแล้วก็เข้าไปใหม่
แต่สังคมยังมีคนดี ที่ให้โอกาส แต่บอกเลยว่า
ยากมากที่จะยอมรับ จนคนที่คิดกลับตัวใหม่หมดหนทาง และสุดท้ายดีดตัวเองกลับเข้าไปในวังวนเดิม
และนั่นก็คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กที่เข้าร่วมรายการแล้วมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพราะเขากลับตัวกลับใจได้ ได้รับโอกาส ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี. ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง. คนรอบข้าง
แต่เด็กอีกส่วนที่เหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง ก็คงจะยังกลับตัวกลับใจไม่ได้หรือกลับตัวกลับใจแล้วแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างบีบให้เขาต้องกลับไปอยู่ในวงวนเดิมๆ
ถ้าใครที่อยากติดตามดูรายการนี้ สามารถเข้าไปชมได้ที่ช่องยูทูบ A&E ได้เลยค่ะแต่ช่องA&E
จะลงเป็น cut ตอนสั้นๆ ถ้าอยากดูแบบยาวก็ เสิร์ทหา Beyond Scared Straight เลยค่ะ แนะนำว่าถ้าดูดูตอนยาวจะรู้เรื่อง และได้อรรถรสมากกว่า
🚫คำเตือน..... ถ้าไม่ชอบความรุนแรงอย่า! ดู
ภาพและข้อมูล จาก
เรียบเรียง....
~มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก~
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
