9 ส.ค. 2019 เวลา 04:49 • การศึกษา
เกิดอะไรขึ้นที่ กรีนแลนด์
คลื่นความร้อนกำลังละลายน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ในอัตรามหาศาลนับพันล้านตันต่อวัน
1
แม้ว่าในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางฝั่งแผ่นดินใหญ่ในยุโรปได้รอดพ้นจากวิกฤติการคลื่นความร้อนไปแล้ว
แต่ที่ กรีนแลนด์ปัญหาดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเท่านั้นตามรายงานของ CNN ความร้อนซึ่งเป็นต้นเหตุของอุณหภูมิสูงได้เคลื่อนตัวขึ้นไปทางตอนเหนือและปัจจุบันกำลังละลายแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์ในอัตราที่รวดเร็วเป็นปรากฎการณ์ที่ระดับ "พันล้านตันต่อวัน" ซึ่งจะส่งผลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทั่วโลก
ในปีนี้ แผ่นน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ได้ถูกทำลายล้างโดยปกติแผ่นน้ำแข็งจะเริ่มสูญเสียน้ำแข็งในฤดูร้อน
แต่ในปี 2019 การหลอมละลายน้ำแข็งเริ่มเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เดือนที่แล้ว(กรกฎาคม) น้ำแข็งจำนวน 197 พันล้านตันหายไปจากกรีนแลนด์และที่แย่กว่านั้นคือในวันที่ 1 สิงหาคมเพียงวันเดียวน้ำแข็งจำนวน 11 พันล้านตันถูกละลายหายไปในมหาสมุทร
Jason Box ศาสตราจารย์และนักอุตุนิยมและนักธรณีวิทยาของเดนมาร์กกล่าวว่า "แผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์สูญเสียไป 450 ล้านเมตริกตันซึ่งเทียบเท่ากับการละลายของน้ำแข็งกว่า 14,000 ตันต่อวินาที
ผลกระทบทั่วโลกจะเกิดอะไรขึ้น?
บ็อกซ์บอกว่าการละลายของน้ำแข็งของปีนี้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ ผลที่เกิดขึ้นอาจเป็นพายุที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้น
เพียงแค่เดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียวแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์ก็สูญเสียน้ำแข็งไป 160,000 ล้านตันตามที่ Clare Nullis โฆษกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแห่งสหประชาชาติกล่าว เธอเปรียบเทียบให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า มันมีขนาดเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิกถึง 64 ล้านสระ
@visitgreenland
หนึ่งในสิ่งที่น่ากังวลที่สุดเกี่ยวกับคลื่นความร้อนในปี 2019 ไม่ใช่แค่การทำลายสถิติทั่วทั้งยุโรป
“ ปกติในการบันทึกอุณหภูมิความต่างของมันจะอยู่แค่เศษเสี้ยวขององศา” Nullis กล่าว "สิ่งที่เราเห็นที่กรีนแลนด์มันคือการทำลายสถิติที่ถูกทำลายด้วยระดับความต่างของอุณหภูมิสอง-สี่องศา มันเป็นปรากฎการณ์เหลือเชื่อจริงๆ"
น้ำแข็งที่ละลายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมได้เพิ่มน้ำจืดให้กับมหาสมุทรเรียบร้อยแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นทันที 0.5 มิลลิเมตร และอาจสูงขึ้นถึง 1 มม. หรือมากกว่าในช่วงปลายปี และในส่วนบริเวณเขตร้อนของโลกระดับจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปกว่านี้อีก
@Mellend66
น้ำทะเลเพิ่มหนึ่งมิลลิเมตร ใครว่าน้อย?
หนึ่งมิลลิเมตรอาจฟังดูเป็นปริมาณที่ไม่มากมายอะไร แต่การเพิ่มขึ้นแม้เพียวเล็กน้อยของระดับน้ำทะเลทั่วโลกอาจทำให้เกิดความเสียหายได้มากมายมหาศาล เกิดน้ำท่วมและการกัดเซาะพื้นที่ริมฝั่งบ่อยขึ้น พื้นที่ชายฝั่งทะเลในบางประเทศจะต่ำลง และหายไปในน้ำ รวมถึงผลกระทบจากพายุเฮอริเคนและพายุไต้ฝุ่นจะทวีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งส่งผลเสียหายทางเศรษฐกิจแบบประเมินค่าไม่ได้ รวมถึงการสูญเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนี้ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้นเพียงบางส่วนจากการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังละลายท่วมมหาสมุทรในวันนี้
@kassy
สาเหตุที่อุณหภูมิที่สูงขึ้นจนเกิดปรากฎการณ์น้ำแข็งละลาย คงไม่ต้องโทษใครเพราะนักวิทยาศาสตร์หาเหตุผลมาให้แล้วว่า
มันเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจาก"มนุษย์" พวกเขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการลดการปล่อย"ก๊าซคาร์บอน" เพื่อลดเหตุการณ์ที่จะก่อให้เกิดความร้อนสูงที่คล้ายกันในอนาคต
ในความเป็นจริงแล้ว ตามการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2070
@jason_gulley_science
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
9.08.2019
โฆษณา