10 ส.ค. 2019 เวลา 07:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
G7e/T4 falke ตอร์ปิโดนำวิถีแบบเเรกของโลก
ในสมัยสงครามโลก ตอร์ปิโดเป็นอาวุธที่วิ่งเป็นเส้นตรง การยิงต้องคำนวณระยะเผื่อการเคลื่อนที่ของเป้าหมาย หรือไม่ก็เข้าไปใกล้ๆแล้วก็ยิงสาดเป็นแพเพื่อเพิ่มโอกาสโดน หากถูกเป้าหมายเพียงลูกเดียวก็ทำให้เรือลำนั้นลงไปนอนเป็นปะการังก้นทะเลได้
ตอร์ปิโดเพียงลูกเดียวสามารถทำให้เรือหักกลางลำได้
ปกติแล้วเรือดำน้ำจะต้องอยู่ที่ความลึกประมาณ 15ม. เพื่อยืดกล้องออกมาส่องดูเป้าหมาย วัดระยะทาง วัดความเร็วเรือเป้าหมาย จากนั้นคำนวณระยะเผื่อแล้วตั้งค่าตอร์ปิโดก่อน จึงจะทำการยิงได้ นี่จึงเป็นจุดอ่อนทำให้เรือดำน้ำถูกตรวจพบและถูกโจมตีกลับได้ง่าย
ต้นปี1933 เยอรมันได้วิจัยและทดสอบระบบนำวิถีของตอร์ปิโด เพื่อให้การล่าเหยื่อของเรือดำน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในที่สุดก็ได้ถูกนำมาใช้ในเดือนมีนาคม ปี1943
T4 falke คือตอร์ปิโดนำวิถีรุ่นแรก ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับเสียง โดยหากแต่ละฝั่งของตอร์ปิโดมีเสียงไม่เท่ากัน จะส่งกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ควบคุมทิศทางและปรับทิศให้เซ็นเซอร์แต่ละฝั่งรับเสียงเท่ากัน นำทางตอร์ปิโดไปยังใบจักรเรือ
ระบบนำวิถีด้วยเสียง
ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถทำความเร็วได้ 20นอต วิ่งได้ไกล 7500ม. และไม่ทิ้งรอยบนผิวน้ำในเส้นทางที่มันไป ทำให้ยากต่อการตรวจพบ
อาวุธแบบใหม่นี้ทำให้เรือดำน้ำไม่จำเป็นต้องดำตื้นๆเพื่อยิงเป้าหมาย เพียงแค่รู้ทิศทาง และระยะทางก็ทำการยิงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการนำตอร์ปิโดแบบใหม่มาใช้ทำให้สามารถจมเรือสินค้าศัตรูได้จำนวนมาก
ตอร์ปิโดนำวิถีจะพุ่งชนทางท้ายเรือ ทำให้หัวเรือชี้ขึ้นฟ้าขณะจม
หลังจากมีการนำมาใช้ เยอรมันก็รีบพัฒนารุ่นต่อไปอย่างรวดเร็ว ได้สร้างรุ่นถัดมาคือ G7e/T5 Zaunkönig ซึ่งมีความเร็วมากขึ้น มีระบบตรวจจับเสียงที่ดีขึ้น สามารถจมเรือรบคุ้มกันในขบวนเรือได้ ทำให้อังกฤษสูญเสียเรือไปจำนวนมาก
ปัจจุบันระบบนำวิถีตอร์ปิโดถูกพัฒนาไปไกลมาก แต่การนำวิถีด้วยเสียงง่ายๆนี้ ก็ยังคงถูกใช้อยู่ในบางโอกาส
โฆษณา