14 ส.ค. 2019 เวลา 11:23 • การศึกษา
นายกอบต.สิบล้าน
Present by ซีรี่ส์ด้านมืดของสังคม
นักการเมืองท้องถิ่น ในดินแดนบ้านนอกแส๊นไกล
รายได้แค่หลักหมื่น เหตุใดเล่า แค่เวลาเพียง 4 ปี เขากลับมีเงินเก็บหลักสิบๆล้านได้?
ผมจะสปอยให้ฟังครับ
.
ใครกำลังอ่านบทความนี้
ขอยินดีต้อนรับสู่โลกสีเทาแบบเต็มรูปแบบครับผม
เนื่องจากครอบครัวผมทำงานกับเรื่องการเมืองอยู่ตลอด ผมจึงจะเล่าบางเรื่องลงลึกได้เป็นพิเศษหน่อย
(คำเตือน : กรุณาใช้วิจารณญาณระหว่างอ่านและไม่นำไปต่อยอดใช้ในทางที่ผิดนะครับ)
อบต.
ย่อมาจาก องค์การบริหารส่วนตำบล
นั่นหมายถึง คนที่ได้เป็นนายกอบต. จะถือว่ามีตำแหน่งทางการเมืองใหญ่สุดในเขตพื้นที่อบต.นั้นๆ
แล้วการได้มาซึ่งตำแหน่ง เนี่ยครับ เราคงรู้กันอยู่ว่า ของแบบนี้ก็ต้องเลือกตั้งกันเข้ามา
ซึ่งคนที่ได้ตำแหน่งใหญ่โตแบบนี้ คงหนีไม่พ้นกลุ่มคนไม่กี่ประเภทครับ
ได้แก่
1.นายกคนเก่า
2.ลูกหลานของนายกอบต.คนเก่า
3.ผู้ดีท้องถิ่น
4. อดีตประธานสภาอบต.
5.คนที่เข้าถึงใจพี่น้องท้องถิ่น (อยู่ท้ายสุดเลย)
กลุ่มที่ผมยกขึ้นมาติดอันดับนั้นพวกเขาจะมีสิ่งนึงที่เหมือนๆกันคือ
สามารถซื้อใจคนได้มากที่สุด ส่วนเรื่องซื้อด้วยวิธีไหนนั้น ไม่ขอพูดถึงละกันครับ
.
หลังจากการเลือกตั้งอันดุเดือดจนขึ้นมา อยู่ในตำแหน่งแล้ว...
ทีนี้เราจะมาสปอยกันหล่ะว่าทำไม๊ทำไม
นายก อบต.ที่เงินเดือนหลักหมื่น ทำงานในวาระแค่ 4 ปีถึงมีเงินเป็นสิบๆล้านได้?
เริ่ม!!
อย่างแรกเลยครับหลังจากที่เข้ามาในองค์กร
การที่นายกอบต.จะบริหาร องค์กรให้ไปได้ดี….
“ก็จำเป็นต้องมีทีมงาน ที่เข้ากันได้”
ซึ่งหลายๆท่านคงรู้นะครับว่านายกอบต. มีอำนาจในมือมากมายมหาศาล
ดังนั้นครับ การหาเงินง่ายๆลำดับแรกเลยก็คือ
“รับคนหน้าใหม่เข้าองค์กร”
.
แม้จะมีคนของนายกคนเก่าอยู่ในองค์กรก่อนแล้วแต่ถ้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อการทำงานก็จะถูกบีบทุกวิธีเพื่อให้ออกจากอบต.นั้น
ยกตัวอย่างเช่น ปลัดอบต. A เคยทำงานสนิทสนมกับนายกคนก่อน เมื่อนายกคนใหม่เข้ามา ปลัดอบต.Aก็ทำตัวไม่ดีด้วย
ไม่ยอมบอกว่างานมีอะไรยังไงบ้าง ไม่ยอมช่วยเหลือแบบเต็มใจ บลาๆ
สิ่งที่นายกคนใหม่ทำได้ในกรณีนี้หากไม่พอใจคือ
ไปสะกิดคนรู้จักกันที่ มีลูกหลานเป็นปลัดอบต.อีกที่นึง ให้อยากย้ายเข้ามาอยู่แทน
โดยเสนอว่า ได้ทำงานใกล้บ้านนะ ได้เงินเดือนดีนะ คนกันเองนะ สนใจมั้ย?
ซึ่งถ้าฝั่งโน้นตกลงดีลด้วย ก็จะมีค่าสินน้ำใจให้
ส่วนใหญ่อยู่ที่หลักแสนบาทขึ้นไป หรือง่ายกว่านั้น ก็บอกให้ลูกหลานของนายกที่จบตรงสายมีคุณสมบัติพร้อมนี่แหละ รอขึ้นได้เลย
ส่วนคนที่เป็นปลัดคนเก่าอย่าง ปลัดอบต. A
หากเขานั้นยังโดนบีบบ่อยๆ ก็จะหมดความอดทนและจะขอย้ายหนีเอง
.
การรับหน้าใหม่ยังมีอีกหลายตำแหน่งครับ เช่น รองปลัดอบต. พนักงานในอบต. ไล่ระดับไปถึงพนักงานส่งเอกสาร พนักงานขับรถกู้ชีพ
นายกสามารถมีส่วนในการเลือกให้เข้ามาในองค์กรได้
“ซึ่งแทบทุกราย ก็จะมีสินน้ำใจ มาให้ทั้งนั้น”
1
หลังจากที่ได้โครงสร้างองค์กร ตามใจฉันแล้ว
รายได้ช่องทางต่อไป ก็จะเกี่ยวกับ
“กลุ่มผู้รับเหมาจากโครงการ”
แรกๆผมก็คิดครับ ว่าพวกรับเหมานั่นแหละที่จะรวยฝ่ายเดียว แต่สมัยที่ญาติฝ่ายลุงของผมขึ้นตำแหน่งนายกอบต.นะ
ถึงได้รู้ความจริงว่า
“นายกอบต.หากจะกินเองก็ทำได้เช่นกัน”
ยกตัวอย่าง
นายกไปขออบจ.ว่าอยากได้งบโครงการเปลี่ยนถนนลูกรังเป็นถนนคอนกรีต
สมมติ นายกอบจ.รู้จักกันดีกับนายกอบต.
ก็ให้โครงการนี้มา สัก 6 ล้าน (เลขอันนี้แค่ยกตัวอย่างนะครับ)
.
คนที่เป็นนายกอบต. หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ ประชุมสภาในอบต.ตกลงผลประโยชน์กับข้างใน ให้มติผ่านแล้ว
การหาผู้รับเหมา จึงจะเริ่มขึ้นได้
โดย....ผู้รับเหมานี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ
ก็คนของตัวเองนี่แหละ
อาจเป็นเพื่อนสนิท หรือลุงแท้ๆ ที่ทำงานรับเหมา ก็จะได้โครงการนี้ไป โดยแทบจะไม่ต้องลุ้นเลยว่าต้องแข่งกับใครรึเปล่า
เพราะนายกบอกว่าได้ ก็เท่ากับได้โครงการแล้ว
โดยงบ 6 ล้านเนี่ยนะ มันเยอะ
ผู้รับเหมากับนายกก็อาจตกลงกันก่อนเลยว่า ลื๊อเอาไปเท่านั้น อั๊วขอมาเท่านี้นะแล้วรับเงินค่าลายเซ็นไป
เรียบร้อยโรงเรียนจีน
ง่ายมั้ยครับ หึหึ
รับคนหน้าใหม่เข้าองค์กรไปแล้ว ได้เงินจากส่วนแบ่งรับเหมาไปแล้ว
ทีนี้ก็ทีเด็ดเลยครับ
“งบประมาณของอบต.”
อบต.มีงบจากรัฐ
หลายล้าน
มากมาย
ถ้านายยกคิดจะกินในส่วนนี้
ก็ต้องใช้หัวกันหน่อย
1
วิธีมีเป็น 108 เดี๋ยวจะเล่าให้อ่านคร่าวๆสักข้อครับ
โดยเงินที่ว่านี่นะครับท่าน หากนายกโง่
ใช้คำว่าโง่นี่แหละเหมาะสุด
หมายถึงมีงบประมาณมา แต่ถอนออกมาพัฒนาชุมชนไม่เป็นเพราะไม่รู้วิธีการ บ้านเมืองแถบนั้นก็จะไม่พัฒนาเลย
แต่ถ้านายกเป็นคนหัวใส บ้านเมืองก็จะดีขึ้นบ้าง แต่ชีวิตนายกและทีมงานจะดีขึ้นมากๆๆๆๆๆ
วิธีการกินอร่อย เงินจำนวนนี้ลักษณะเด่นเลยก็คือ “เบิกไปศึกษาดูงาน” ซึ่งไปดูงานจริงๆนะ แต่ก็มีไปเที่ยวด้วย
โดยใช้วิธีเบิกงบเยอะเกินจำเป็น
อย่างเช่น อบต.อยู่ในเขตร้อนภาคอีสาน แต่เบิกงบ5 ล้าน เพื่อไปดูงานที่ไร่สตอเบอรี่ เพื่อเอาวิธีเอาสตอเบอรี่มาปลูกแถวบ้าน
เริ่ดมั้ยหล่ะ😉
ยังไม่หมด!!
อันนี้คือพีคที่สุดครับ
ไม่ใช่ว่าจะได้กันบ่อยๆ
แต่ได้ตังค์ทีนี่หลายบาทเลย
“ค่าความสะดวกในการใช้สถานที่”
หมายความว่า หากมีคณะอะไรสักอย่างอยากมาขอใช้สถานที่ในเขตดูแลของนายกอบต.คนนี้
เค้าก็ต้องติดต่อเข้ามาก่อนครับ
ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มรถโบราณ ที่เค้าชอบขับไปโชว์กันเยอะๆนั่นหน่ะ
ถ้าอยากได้สถานที่ลานโรงเรียนใกล้อบต.เป็นที่จัดงาน เค้าก็จะมาพร้อม “ซอง”
ซึ่งซองที่ว่านั้น เรียกว่าค่าน้ำชารึสินน้ำใจอะไรสักอย่างนี่แหละ
เอาภาษาตรงๆ ก็คือเงินที่นายกอบต.และผองเพื่อน เรียกร้องไปในราคาที่สมเหตุสมผล
เมื่อรับเงินมาแล้ว
อบต.ก็จะส่งข่าวให้พวกกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจว่า
วันที่...... นี้นะ จะมีคณะรถโบราณมาชุมนุมกันในเขต..............
ขอให้ทุกฝ่ายมาช่วยกันดูแลความสงบหน่อย อย่าให้ลูกหลานมันไปตีกันให้พวกจัดงานเดือดร้อน☻
คณะจัดทริปได้พื้นที่ ส่วนพี่เบิ้มแห่งอบต.ได้ตังค์
win-win
เรื่องแบบนี้ยิ่งพูดยิ่งเยอะครับ สรุปดื้อๆเลยละกัน😆
การที่คนหนึ่งคนจะเป็นนายกอบต.ได้นะครับ เจตนาคนที่เลือกอย่างเราก็หวังให้เขาคนนั้นอาสาเข้ามาเพื่อพัฒนาบ้านเมืองให้น่าอยู่ขึ้นนี่แหละ
ถ้าได้คนดีก็ดีไป แต่ถ้าเลือกคนไม่ดี ที่มันคิดว่าตัวเองทำดี มันก็จะขยันทำแต่สิ่งไม่ดีที่มันคิดว่าดีนั่นแหละครับ
สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า
สังคมนี้มันก็มีทั้งคนดีคนไม่ดีปะปนกันไป สาเหตุที่มีคนไม่ดีแบบนี้เข้ามาอยู่ในสังคมได้ก็เพราะ “สันดานโกง จนเห็นแก่ตัว”
ดังนั้น อย่าด่วนเหมารวมว่านายกอบต.จะเข้ามากินบ้านกินเมืองกันทุกคนเลยครับ คนที่เขาทำดีก็มีเยอะ
เรามาเน้นปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูกหลานคนรุ่นใหม่โตไปไม่โกงกันดีกว่า👦👶
ฝากซีรี่ส์ด้านมืดในสังคมด้วยนะครับผม
I’m sam ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา