18 ส.ค. 2019 เวลา 02:13 • ประวัติศาสตร์
บทที่ 9 สงครามดอกเบี้ย ภาคที่ 1
ดอกเบี้ยติดลบคืออะไร ทำไมติดลบ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ตั้งแต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ 2008 เป็นต้นมา ดอกเบี้ยก็ลดลงมาเรื่อย ๆ
ดอกเบี้ยเริ่มติดลบตั้งแต่ 2015
ที่นี้เราก็อธิบายกฏการลงทุนพื้นฐาน เสียก่อน ต้องรู้จักศัพท์คำนี้ก่อน PE=price per earning
ก็คือ ราคาหุ้น / กำไรต่อหุ้น ยกตัวอย่างเช่น หุ้นตัวหนึ่ง ราคา 20 บาท กำไรต่อหุ้น 2 บาท
PE=20/2=10
แสดงว่าหุ้นตัวนี้มี PE=10 ซึ่งแปลความหมายว่า ถ้าเราถือหุ้นตัวนี้ 10 ปี ก็จะได้ทุนคืน
ถ้า PE=20 ก็แปลว่าถ้าเราถือหุ้นตัวนี้ 20 ปี ก็จะได้ทุนคืน
ถ้า PE=100 ก็แปลว่า ถ้าเราถือหุ้นนี้ 100 ปี ก็จะได้ทุนคืน แสดงว่านานมาก อายุเฉลี่ย ของมนุษย์ช่วงนี้อยู่ที่ 70 ปี เท่านั้นเอง
ปกติถ้า PE เกิน 20 ก็ถือว่าแพงมากแล้ว
ในปัจจุบันถ้าเราเอาเงินฝากธนาคาร 1 ปี จำนวน 100 บาท ได้ดอกเบี้ย 1% ก็คือ 1 บาท
PE=100/1 =100
แสดงว่าฝากธนาคารกินดอกเบี้ยนี่เป็นการลงทุน ที่แย่มาก 100 ปีกว่าจะได้คืนทุน
ถ้าดอกเบี้ยเหลือ 0.1% PE จะกลายเป็น 1,000 เป็นการลงทุนที่แย่มาก 1,000 ปีกว่าจะได้คืนทุน อายุเฉลี่ยคนเราพึ่งจะ 70-75 ปีเอง
ถ้าดอกเบี้ยเหลือ 0.01% PE จะกลายเป็น 10,000 ไม่เรียกการลงทุนแล้ว 10,000 ปีคืนทุน
แล้วถ้าดอกเบี้ยติดลบล่ะ มันคืออะไร
คำตอบก็คือ ระบบเงินฝากมันพังไปเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ในบรรดาสกุลเงิน big five อันประกอบด้วย สวิสเซอร์แลนด์ ยูโร ดอลลาร์ ปอนด์ และเยน ดอกเบี้ยติดลบไป 4 สกุล
การ์ดใบนี้มันต้องมา
เหลือเพียงแค่ดอลลาร์เท่านั้นที่ดอกยังบวกอยู่ เป็นกำแพงการเงินอันสุดท้าย the last man standing แต่แนวโน้ม อีก 1-2 ปีข้างหน้านี้ ก็คงติดลบแน่นอน
คำถามก็คือ ถ้าดอกเบี้ยอเมริกาติดลบ อะไรจะเกิดขึ้นตามมา
คำตอบนั้นก็คือ ภาวะเงินเฟ้อ hyperinflation จะตามมาอย่างแน่นอน
ในตอนต่อไป จะพูดถึงเรื่อง hyperinflation และการเตรียมรับมือต่อไป
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดติดตาม ด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา