ดีร้ายใครจะรู้
ภาพจาก wallhere.com
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีบ้านพ่อค้าอยู่หลังหนึ่งเลี้ยงม้าไว้เพื่อใช้งานอเนกประสงค์ 1 ตัว อยู่มาวันหนึ่งม้าได้หนีหายเข้าป่าไป
เพื่อนบ้านรู้เข้าจึงเข้ามาทักทายแล้วบอกว่า “เฮ้อ นายช่างโชคร้ายจริงๆนะ มีม้าอยู่ตัวเดียวกลับหนีหายเข้าป่าไปได้ ทำงานลำบากแย่”
พ่อค้าจึงตอบกลับไปว่า “ดีร้ายใครจะรู้”
เพื่อนบ้านเมื่อได้ฟังก็ไม่เข้าใจว่าพ่อค้าจะบอกอะไร จึงกลับบ้านไป
หลังจากนั้น ไม่กี่วัน ม้าตัวนั้นได้กลับมา พร้อมกับพาม้าตัวอื่นๆมาอีกนับ 10 ตัว ทำให้พ่อค้ามีม้านำมาใช้ประโยชน์ มากขึ้น
เพื่อนบ้านเมื่อเห็นบ้านพ่อค้าเต็มไปด้วยม้าเต็มคอก จึงร้องบอกว่า “โอ้โห ตอนนี้เจ้ามีม้าเต็มคอกเลย แบบนี้ขนของสบายเลย เจ้านี้มันโชคดีจริงๆ”
พ่อค้าจึงตอบกลับไปว่า “ดีร้ายใครจะรู้”
เพื่อนบ้านก็ได้แต่งง ในคำตอบอีกครั้ง
เนื่องจากมีม้าเพิ่มมากขึ้น ต้องการดูแลมากขึ้น แต่มีเพียงลูกชายพ่อค้าคอยดูแลเท่านั้น ด้วยความเหนื่อยล้า ขณะกำลังขี่ม้า ลูกชายพ่อค้าพลัดตกจากหลังม้าแขนหัก ต้องใช้เวลารักษาหลายเดือน จึงทำงานได้ยากมากขึ้น
เพื่อนบ้านระหว่างมาซื้อขายได้ทราบเรื่อง ก็อุทานออกมาว่า “โอ้โห โชคร้ายจริงๆ แบบนี้ท่านคงได้งานน้อยลง ลำบากแน่ๆ แบบนี้”
พ่อค้าจึงตอบกลับไปว่า “ดีร้ายใครจะรู้”
ถึงตอนนี้เพื่อนก็เหนื่อยที่จะเอ่ยอะไรต่อ หลังจากซื้อขายเสร็จ ก็ขอตัวกลับไป
ในระหว่างเกิดสงครามขึ้น ทางการจึงส่งหมายมาเรียก ชายหนุ่ม เพื่อออกรบ แต่ลูกชายพ่อค้านั้นแขนหัก ไปออกรบก็รั้งจะเป็นตัวถ่วง จึงไม่เรียกไป แต่ลูกชายเพื่อนบ้านจำเป็นต้องจากบ้านไปออกรบตามหมายเรียก
เพื่อนบ้านจึงเป็นกังวลมาก เพราะการไปรบในสงครามมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องจำใจปล่อยไป ได้แต่หันไปพูดกับพ่อค้า “ท่านนี้โชคดีมาก ที่ลูกชายท่านไม่ได้ไปออกรบ”
พ่อค้าจึงตอบกลับไปว่า “ดีร้ายใครจะรู้” แต่ครั้งนี้พ่อค้าพูดกว่าเดิมโดยขยายความว่า “ทุกสิ่งล้วนไม่แน่นอน เราไม่ทราบได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป” วลีนี้จึงกลายเป็นสิ่งเตือนใจว่า
ไม่มีอะไรแน่นอน
และ
ไม่มีอะไรอยู่กับเรานาน ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือสุข ซักวันหนึ่ง ก็หมดไปเช่นกัน
อย่างที่ว่า ดีร้าย.....ใครจะรู้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
