Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Cherphyxia
•
ติดตาม
16 ส.ค. 2019 เวลา 06:43 • การศึกษา
รหัสมอร์ส ที่มาและการถอดรหัส
รหัสมอร์ส (Morse code) คือวิธีการส่งข้อมูลด้วยการใช้รูปแบบสัญลักษณ์สั้นและยาวที่กำหนดขึ้นเป็นมาตรฐานไว้แล้ว
ซึ่งมักจะแทนด้วยเครื่องหมายจุด (.) และ เครื่องหมายขีด (-) ผสมกันเป็นความหมายของตัวหนังสือ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษต่างๆ บางครั้งอาจเรียกว่า CW ซึ่งมาจากคำว่า Continous Wave
รหัสมอร์ส (Morse Code) คือการติดต่อสื่อสารในรูปแบบสัญลักษณ์ แทนข้อมูลด้วยขีดสั้นและขีดยาว
ขีดสั้น (.) แทนคำว่า ดิ (Di)
ขีดยาว (-) แทนคำว่า ดา (Dah)
นำมาผสมผสานกันเป็นตัวอักษรแต่ละตัวตามมาตรฐานสากล ดังนี้
https://www.boxentriq.com/code-breaking/morse-code
หลักการจำเทียบตัวอักษร
http://learnmorsecode.info/tag/morse-code/
รหัสมอร์สถูกคิดค้นขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1830 (พศ. 2373) โดย ซามูเอล ฟินเลย์ บรีส มอร์ส (Samuel Finley Breese Morse) ชาวอเมริกา
Samuel Finley Breese Morse (1791 - 1892)
ที่ผ่านมาใช้รหัสมอร์สในการสื่อสารระยะไกลแทนข้อความหรือตัวอักษรโดยเฉพาะระบบโทรเลข และกำหนดให้เป็นมาตรฐานระดับนานาชาติภายใต้ชื่อรหัสมอร์สสากล โดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ
แต่ในหมู่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงยังใช้รหัสนี้เพื่อส่งข่าวสารในยามคับขันด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ใช้ไฟกะพริบ การเคาะจังหวะ หรือแม้แต่การกะพริบตา
รหัสมอร์สใช้แพร่หลายจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะเลิกใช้ไปแล้วเนื่องจากมีวิธีติดต่อสื่อสารอื่นที่สะดวกกว่า
รหัสมอร์สในปัจจุบัน
ปัจจุบันยังมีการใช้งานรหัสมอร์สอย่างมากในวงการวิทยุสมัครเล่น การติดต่อบางรูปแบบรหัสมอร์สยังสามารถใช้งานได้ดีที่สุด เช่นการติดต่อ สะท้อนออโรรา เป็นต้น
ข้อดีอีกประการของการติดต่อแบบรหัสมอร์สผ่านวิทยุสื่อสารคือ ใช้แถบความถี่น้อยมากเมื่อเทียบกับการสื่อสารระบบอื่น ๆ เป็นการประหยัดความถี่ สามารถใช้งานพร้อม ๆ กันได้โดยไม่มีการรบกวนกัน
วิวัฒนาการรหัสมอร์สของประเทศไทย
ซึ่งของไทยเราก็มีการใช้รหัสมอร์ส จุดเริ่มต้นของรหัสมอร์สในประเทศไทยคือ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕
พระองค์ท่านได้ทรงนำระบบโทรเลขรหัสมอร์สเข้ามาใช้ ระยะเริ่มแรกของรหัสมอร์สเป็นตัวอักษรโรมันทำให้การสื่อสารล่าช้าและเกิดความผิดพลาดได้เมื่อต้องการส่งข้อความภาษาไทย
จึงได้มีการคิดค้นรหัสมอร์สภาษาไทยขึ้นและประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๕ (ค.ศ.1912)
รหัสมอร์สตามตัวอักษรไทย
การนำไปใช้งาน รหัสมอร์สได้ถูกนำไปใช้งานหลายด้านดังนี้
1. การสื่อสารด้านโทรเลข
การส่งโทรเลขเป็นการนำรหัสมอร์สมาใช้ทั้งแบบที่ส่งสัญญาณตามสาย และแบบที่ส่งสัญญาณเป็นคลื่นวิทยุ โดยเฉพาะบริการโทรเลขเชิงพาณิชย์
ในระยะแรกใช้หลักการรหัสสัญญาณสั้นกับยาวแทนตัวอักษรจึงต้องมีพนักงานโทรเลขที่ท่องจำรหัสมอร์สได้เป็นอย่างดี
แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นหลักการของสัญลักษณ์จุดและขีดที่สามารถใช้เครื่องมือส่งและรับได้อัตโนมัติทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
http://www.rmutphysics.com/charud/oldnews/182/Telegraph13.gif
2. วิทยุสมัครเล่น
การสื่อสารของวิทยุสมัครเล่น (Armature Radio) ใช้รหัสมอร์สเรียกว่า “Ham Radio” โดยมีคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (Federal Communication Commission:FCC)
ควบคุมดูแล มีการนำไปใช้งานในหลายด้านเช่น การติดต่อสื่อสารกันเพื่อสร้างมิตรภาพ การช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยพิบัติ การช่วยให้นักวิทยุสมัครเล่นต่างชาติสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้นด้วยภาษากลางคือรหัสมอร์ส เป็นต้น
โดยใช้หลักการของรหัสมอร์สในการส่งสัญญาณเสียงจากโทนเสียงที่มีอยู่ในเครื่องรับส่งวิทยุหรือวงจรกำเนิดเสียงซึ่งใช้จังหวะเสียงสั้นแทนจุดและเสียงยาวแทนขีด ทำให้นักวิทยุสมัครเล่นต้องชำนาญในการฟังรหัสมอร์สเพื่อตีความออกมาเป็นข้อความต่อไป
3. รหัสมอร์สเสมือนกับโทรศัพท์เคลื่อนที่
โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้นำหลักการเชิงสัญลักษณ์คล้ายกับรหัสมอร์สมาใช้ในการส่งข้อความสั้น (Short Message Service : SMS) และฟังก์ชันการทำงานอื่นๆ
ด้วยการกดแป้นพิมพ์รวมทั้งการกำเนิดสัญญาณเสียงและจากการสั่นของเครื่องก็สามารถนำมาใช้แทนความหมายของข้อความได้ เช่น การใช้แป้นพิมพ์ที่มีจำนวนจำกัดถึงสัญลักษณ์ที่มีจำนวนมากกว่าจึงใช้การกดแป้นพิมพ์ที่แตกต่างกัน ของจำนวนครั้งและระยะเวลาแทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้
เช่นเดียวกับขีดสั้นยาวของรหัสมอร์ส เช่น การกดปุ่มเพื่อสร้างตัวอักษร “ร” รวมทั้งการสั่นของเครื่องเมื่อมีสัญญาณเรียกเข้า วัตถุประสงค์ต่างๆ อาจแทนได้ด้วยระยะเวลาสั้นยาวของการสั่น เป็นต้น
4. การสื่อสารทางทะเล
หลักการเชิงสัญลักษณ์ คล้ายกับรหัสมอร์สได้ถูกนำไปใช้งานในการสื่อสารทางทะเล เพื่อติดต่อสื่อสารกันระหว่างเรือ
เช่น ในเวลากลางวันใช้สัญญาณธงและสัญญาณเสียง ดังตัวอย่าง การส่งข้อความ “ขอความช่วยเหลือ” หรือ “SOS” ซึ่งประกอบด้วยสัญญาณเสียงสั้นสามครั้ง
สัญญาณเสียงยาวสามครั้งและตามด้วยสัญญาณเสียงสั้นสามครั้ง เป็นต้น
SOS (••• - - - •••)
ส่วนเวลากลางคืนอาจใช้การส่งสัญญาณไฟที่สามารถสังเกตเห็นได้ในระยะไกลซึ่งการส่งสัญญาณสั้นจะใช้การเปิดแผงกั้นโคมไฟแค่เสี้ยวนาที และการส่งสัญญาณยาว จะเปิดให้นานขึ้นหรืออาจมีการใช้งานผสมกับสื่อแบบฟังแบบใช้เสียง และแสงก็ได้
ยังเคยมีการใช้การกระพิบตาเป็นรหัสมอร์ส
นาย Admeral Jeremiah เชลยศึกชาวอเมริกา ที่ถูกเวียดนามจับไปในสงครามเวียดนาม
youtube.com
Admiral Jeremiah Denton Blinks T-O-R-T-U-R-E using Morse Code as P.O.W.
Admiral Jeremiah Denton Jr. used his eyes to blink the word “TORTURE” using Morse Code during his captivity in Vietnam. He was being filmed for propaganda pu...
เขาได้กระพิบตาเป็นรหัสมอร์สว่า “T-O-R-T-U-R-E” ซึ่งแปลว่า “ทรมาน”
จะเห็นว่ารหัสมอร์สก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ในการสื่อสารอีกแบบ ใครมีการใช้รหัสมอร์สแบบไหนอย่างไรหรือเคยเจอแบบไหนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้นะครับ
ผมก็ชื่นชอบในรหัสมอร์ซึ่งพบเห็นได้ตามในหนังต่างๆ
ท้ายนี้อย่างลองให้ถอดรหัสมอร์สคำนี้ดู ถ้ารู้แล้วลองพิมพ์ใน comment เลยครับ
รู้แล้วลองพิมพ์ใน comment เลยครับ
ถ้าชอบอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะไม่พลาด content ที่น่าสนใจ
Reference :
https://thepamsummerdress.wordpress.com/2011/08/28/7/
https://scimath.org/article-mathematics/item/4688-morse-code
8 บันทึก
10
1
8
8
10
1
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย