16 ส.ค. 2019 เวลา 15:03 • การศึกษา
กรณีศึกษาจากซีรีย์ : The Naked Director โป๊ บ้า กล้า รวย ได้อะไรมากกว่าเรื่อง 18+ (ตอนที่ 1)
Credit: Netflix
(คำเตือน : บทความนี้มีการกล่าวถึงเนื้อเรื่องบางส่วน)
กลายเป็นกระแสที่น่าจับตา (หรือจับอย่างอื่นดี 555) สำหรับซีรีย์จากแดนอาทิตย์อุทัยที่มีให้ได้ชมใน Netflix (เท่านั้น) กับ “The Naked Director โป๊ บ้า กล้า รวย”
ซีรีย์ได้บอกเล่าเรื่องราวย้อนไปเมื่อ ค.ศ. 1980 ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอีตา “โทรุ มุรานิชิ” พนักงานขายสารานุกรมภาษาอังกฤษที่กำลังรุ่ง
แต่ชีวิตกลับพลิกผันเนื่องจากบริษัทเจ๊ง จึงกลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ แล้วพบว่าเมียของตัวเองกำลังฟีเจอริ่งกับชายอื่นอย่างเผ็ดร้อน
หลังสูญเสียทุกอย่างเขาก็ได้พบ “โทชิ” ซึ่งนำเขาไปสู่วงการนิตยสารผู้ใหญ่ 18+ จนต่อยอดไปสู่ธุรกิจ VDO สำหรับผู้ใหญ่ 18+ โดยเขาได้ปฏิวัติวงการ และกลายมาเป็นราชาหนังโป๊ที่โด่งดังในที่สุด
“โทชิ” ผู้เปิดทางสายดาร์คตัวเอก / Credit: Netflix
ในระหว่างที่เรื่องราวดำเนินไป มุรานิชิก็ต้องเจอะเจอปัญหา และอุปสรรคมากมาย ทั้งเจ้าของธุรกิจนิตยสาร/VDO ผู้ใหญ่รายใหญ่เดิม กฎหมายของญี่ปุ่น หรือแม้แต่ตำรวจที่คอยขัดแข้งขัดขา รวมถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก็งค์ยากูซ่า
ภายหลังจากที่ได้ (แอบเมีย) ดูไป 2 วันจนจบทั้ง 8 EP. ต้องบอกเลยว่า เฮ้ย! มันไม่ใช่หนังแบบที่เราคิดเลย (แม้เราจะคิดไปไกลแล้วก็ตาม 555) เพราะตัวหนังได้สอดแทรกแนวคิด และตรรกะหลายอย่างที่น่าสนใจเอาไว้ในเนื้อหา ที่บางทีก็มีมุมตลกร้าย และขบขันปะปนมาให้เอิ๊กอ๊ากกันเป็นระยะๆ
โดยในตอนแรกนี้ ผมจะหยิบยกเรื่องราวใน EP.1 ซึ่งเป็นช่วงต้นที่หนังปูเรื่องราวของ “โทรุ มุรานิชิ” ที่ยังไม่ค่อยจะรุ่งสักเท่าไรกับอาชีพพนักงานขาย เพราะขายของไม่ได้สักเล่ม จนเจ้านายให้เขาไปรับคำปรึกษากับพนักงานขายรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์และทำยอดขายได้ดี
”รุ่นพี่สอนงาน” credit: Netflix
ซึ่งประโยคที่พนักงานขายรุ่นพี่เริ่มสอนมุรานิชิก็คือ “เคล็ดลับวาจาพาขาย” ได้แก่...
“การชมอีกฝ่ายแล้วค่อยหว่านล้อม ให้คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงเลอโฉม ให้ชมๆๆๆๆ มันเข้าไป ให้เขาเปิดใจก่อน หลังจากนั้นก็พูดแทงใจดำด้วยการตำหนิอย่างเร่าร้อน โดยให้ใช้คำที่สุภาพเข้าไว้”
โดยเทคนิคการขายของตัวเอกในหนังก็คือ...เขาพยายามกล่าวชมถึงความสวยของลูกค้า (เมียยากูซ่าที่ฐานะร่ำรวย) ก่อนจะพูดถึงการเสียโอกาสที่จะยกระดับทางสังคมหากไม่รู้ภาษาอังกฤษจากสารานุกรมที่เขาพยายามขายนั่นเอง
หลังจากนั้น...เขาก็เข้ามาเปิดการขายกับยากูซ่า (ผู้เป็นสามี) โดยเขาเริ่มจั่วหัวก่อนเลยว่ารอยสักบนร่างกายของพี่นั้นมันช่างสวยอย่างนั้นอย่างนี้เหมาะกับพี่มาก ดูดีสุดๆ มีออร่าเปล่งประกาย ก่อนจะเข้าสู่การขายด้วยการถามว่า
“เดี๋ยวนี้ลูกค้าต่างชาติเยอะไหมครับ รู้ภาษาอังกฤษไว้ก็จะได้เปรียบเรื่องธุรกิจ” แต่ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ...”ภาษาอังกฤษสามารถทำให้สื่อสารภาษารักกับสาวๆ ท้องถิ่นได้”
มาถึงตรงนี้คงไม่ต้องอธิบายต่อว่ามีการสาธิตด้วยท่าทางประกอบภาษาอังกฤษอะไรบ้างนะครับ 555 (ฉากนี้บอกเลยว่าขำหนักมาก)
จากตอนแรกที่ตั้งใจจะเปิดดูเพื่อความบันเทิง กลับกลายเป็นว่ามีสาระซ่อนอยู่เยอะเลยนะครับ เพราะสมัยนี้การจะทำให้คนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกประทับใจในตัวเรามันไม่ง่ายเลย...ว่ากันว่า 30 วินาทีแรก หรือที่บางตำราเขาใช้ว่า First Impression เนี่ย เป็นสิ่งตัดสินตัวเราอย่างง่ายดายเลยนะครับ (ซึ่งจะผิดจะถูกนั้นเราเองถูกตัดสินไปแล้ว)
อย่างในหนังจะเห็นได้เลยว่าการแต่งตัวของพนักงานขายต้องเนี๊ยบ เป๊ะปัง ใส่สูท ผูกไท มาอย่างดี การพูดจาก็ต้องหวานหยาดเยิ้ม แล้วตัวเอกมักจะตบท้ายด้วยคำพูดที่ว่า...
“ถ้าไม่มีสิ่งนี้จะส่งผลเสียกับชีวิตคุณอย่างไร และถ้ามีแล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่างไร”
ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ แต่ Impact มากเลยนะครับ...
เสริมเทคนิคให้อีกนิดสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรให้เขาเปิดใจคุยด้วย ลองมองหาสิ่งง่ายๆ ที่ตัวของคู่สนทนาอย่างเครื่องแต่งกาย ยกตัวอย่างเช่น ผมกำลังจะสนทนาธุรกิจกับลูกค้าสักคน ผมมองและสังเกตไปที่นาฬิกาของเขาซึ่งดูแล้วเด่นสะดุดตา และแน่นอนมันน่าจะราคาแพง และหายาก
ผมเลยเริ่มบทสนทนาว่า “นี่ Patek Philippe รุ่น Limited ใช่ไหมครับ” ง่ายๆ เท่านี้แหละครับ บทสนทนาก็ลื่นไหลมากขึ้นเลยทีเดียว เพราะคู่สนทนาของเราจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นพูดในสิ่งที่เขาชอบให้กับเราฟังเอง มันเป็นเหมือนกับการทลายความรู้สึกอึดอัดและกำแพงบางอย่างลงไปในทันที
ในตอนหน้าเรามาถอดเนื้อหาที่น่าสนใจกันใหม่กับซีรีย์ The Naked Director โป๊ บ้า กล้า รวย จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
หากชอบบทความนี้รบกวนกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะครับ 🙏🏻😊
ปล. ลงบทความนี้ไว้ในหมวด Education เพราะผู้เขียนเห็นว่าเป็นสาระ/ความรู้ที่สามารถนำมาพัฒนาตัวเองได้ครับ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ในโอกาสนี้ครับ
โฆษณา