20 ส.ค. 2019 เวลา 02:09 • บันเทิง
Movie Review : Parasite ชนชั้นปรสิต
ต้องบอกว่า Parasite เป็นหนึ่งในหนังที่ผมสนใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้กำกับอย่าง Bong Joon-ho ที่ฝากผลงานสุดประทับใจใน Okja ที่ได้ลงใน Netflix รวมถึง Snowpiercer ที่เป็นหนังระดับ Hollywood ซึ่งสองเรื่องดังกล่าวนั้น ดูแล้วประทับใจมาก
Movie Review : Parasite ชนชั้นปรสิต
แต่ด้วยภารกิจที่รัดตัว ก็เพิ่งจะได้มาดูจริง ๆ ตอนหนังจะออกจากโรงเสียแล้ว และดูกระแสในโลกออนไลน์ที่ออกมาค่อนข้างดีมาก หลาย ๆ คนก็ชอบกัน ซึ่งขนาดวันท้าย ๆ ที่ผมได้เข้าไปดู คนก็ยังเต็มโรงแน่นเหมือนเคย
และแน่นอนว่า Parasite นั้นได้รับรางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ในปี 2019 ที่ผ่านมา แต่หลาย ๆ ท่านเมื่อได้ยินชื่อหนังรางวัลแล้วส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่ดูยาก และมีความเป็น Artist สูงมาก แต่ไม่ใช่เลยกับ Parasite เพราะเป็นหนังรางวัลที่ดูง่ายมาก ๆ
หนังเล่าเรื่องของครอบครัว เล็กๆ ที่มีกันอยู่ 4 สมาชิก พ่อ คิมกีแท็ก (Song Kang Ho จาก ‘Snowpiercer’)​ แม่ ชุงซุก (Jang Hye Jin)​ ลูกชาย กีอู (Choi Woo Sik จาก ‘Train To Busan’) ลูกสาว​ กีจอง (Park So Dam)​ ที่ต้องอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดิน
หน้าต่างพ้นเห็นพื้นดินเพียงกึ่งหนึ่ง เป็นครอบครัวที่คนเป็นพ่อแม่ตกงาน ลูกๆ ก็ยังไม่อาจหาที่เรียนต่อไป ลูกชายได้งานสอนจากเพื่อน งานนี้ทำให้เขาได้เข้าบ้านหลังใหญ่ และเป็นต้นสายของเรื่องราวที่บานปลายของครอบครัวคนชนชั้นล่างที่แทรกซึมไปสูบเม็ดเงินและชีวิตของคนรวยนั่นเอง
มันก็ตามชื่อเรื่องอยู่แล้วที่ ชนชั้นปรสิต แต่ปรสิตนั้น แฝงอยู่ในทุกชนชั้น ซึ่งหนังได้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งไม่ว่าชนชั้นใด ๆ ก็ต่างมีด้านมืดอยู่เหมือน ๆ กัน
แค่การแสดงออกในแต่ละชนชั้นนั้น อาจจะแตกต่างกัน บทพูดที่ร้อยเรียงออกมาซึ่งสื่อความหมายได้อย่างดีเยี่ยม เราจะเห็นมุกตลกที่สอดแทรกเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ล้วนเป็นมุกที่แฝงให้เราคิดต่อแทบจะทั้งสิ้น มันไม่ใช่มุกตลกธรรมดา ๆ ทั่วไป
1
และขอชื่นชมในส่วนของฉากหนังที่ เป็นจัดองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ทั้ง แสง สี theme ของหนังที่มันดูดาร์ค ๆ แต่สะกดให้เราตรึงอยู่กับเนื้อเรื่องของหนังอยู่ตลอดจนถึง การเฉลยเรื่องราวในตอนจบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเดายากมากนักสำหรับคอหนังแนวนี้
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราว ๆ ที่เข้าถึงคนจำนวนมากด้วย เพราะมันเป็นเรื่องราวปรกติในสังคมเราอยู่แล้ว ที่มีชนชั้นต่าง ๆ ที่แบ่งแยกกันอยู่ แม้ต่อหน้าจะดูเหมือนเป็นมิตรไมตรี แต่ลับหลังเบื้องลึกจิตใจของคนนั้น ก็อย่างที่เราได้เห็นในหนังเรื่องนี้ครับ ซึ่งเป็นเรื่องราวจริงในสังคมทุกหนทุกแห่งในโลกนี้อยู่แล้ว มันเลยเข้าไปกระแทกใจคนหลาย ๆ กลุ่มได้อย่างดี ทำให้หนังดังกระฉูด ทำรายได้มหาศาล
ซึ่งโดยรวมแล้วผมก็ยังถือว่าเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมาก และการเขียนบทที่ดีมากๆ เพราะหนังเค้าเอาประเด็นหนัก ๆ ในเรื่อง ชนชั้นและความเหลื่อมล้ำทางสังคม มาทำให้กลายเป็นหนังบันเทิงและดูสนุกมาก ๆ คือเป็นหนังที่ไกลเกินกว่าที่จะเป็นหนัง Asia แล้วครับเรื่องนี้ สร้างได้มาตรฐาน Hollywood เลยด้วยซ้ำ ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่ควรที่จะพลาดชมเป็นอย่างยิ่งครับผม
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา