22 ส.ค. 2019 เวลา 07:30 • ประวัติศาสตร์
EP.1 | Disneyland สวนสนุกที่สร้างขึ้นจากเปลวไฟ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสถานที่ที่ไม่ไปไม่ได้เลยก็คือ Tokyo Disneyland
เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาใน Disneyland สิ่งเเรกที่ทุกคนต้องพบเจอนั่นก็คือรูปปั่นของ Walt Disney ยืนโบกมือทักทายผู้มาเยือน โดยมือซ้ายของเขานั่นกำลังจูงมือเจ้าหนู Mickey Mouse อยู่
หลังจากที่ผมใช้เวลาทั้งวันท่องอยู่ในสวนสนุกเเห่งนี้ ก่อนกลับผมก็หันหลังไปชมความสวยงามของ Disneyland เป็นครั้งสุดท้าย เเละผมก็เห็นรูปปั่นของ Walt Disney ผู้สร้างสรรค์ Disneyland เเห่งนี้ยืนโบกมือลาทุกคนอยู่อีกครั้ง
ซึ่งนั่นมันทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาในใจว่า “กว่า Walt Disney จะสร้างสวนสนุกที่เชื่อมต่อระหว่างโลกเเห่งจินตนาการให้กลายเป็นจริงได้อย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้างนะ”
ผมจึงกลับมาหาข้อมูลประวัติของ Walt Disney เเละ Disneyland ซึ่งนั่นทำให้ผมถึงกับตกใจ เพราะกว่า Walt Disney จะสร้างอาณาจักร Disney จนยิ่งใหญ่เเบบทุกวันนี้ได้นั้น เขาต้องพบกับมรสุมชีวิตมากมาย ต้องล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน
Walt Disney ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้อย่างไร เขาจัดการกับมรสุมชีวิตเเละความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วนนี้เเบบไหน สมองไหลจะเล่าให้ฟัง…
ชีวิตของ Walt Disney นั้นเรียกได้ว่า “ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ” ในวัยเด็กเขาต้องตื่นตั้งเเต่ตีสามครึ่งเพื่อไปส่งหนังสือพิมพ์ไม่ว่าฝนจะตกหรือเเดดจะเเรงเเค่ไหน เเละพอกลับจากโรงเรียนก็ต้องเตรียมของที่จะไปส่งในวันรุ่งขึ้นอีก
เมื่อเขาโตขึ้นจึงออกเดินทางตามความฝันด้านศิลปะในด้านตัวการ์ตูน โดยเขาได้พบกับ อับบ์ ไอเวิร์ค (Ub Iwerks) ทั้งสองได้ร่วมมือกันประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยใช้ชื่อว่า Iwerks-Disney Commercial Artists ในปี 1920 เเต่ทำได้ไม่นานก็ต้องปิดตัวลง
เเต่ด้วยความใจสู้เขาได้พยายามเปิดบริษัทใหม่ขึ้นอีกครั้งร่วมกับ ไอเวิร์ค เพื่อนของเขา โดยใช้ชื่อว่า Laugh-O-Gram Film, Inc. ซึ่งจะเน้นการผลิตการ์ตูนสั้นอิงนิยายสำหรับเด็ก ซึ่งคราวนี้การ์ตูนของพวกเขาโด่งดังพอตัวในเขตเเคนซัสซิตี้
เเต่โชคชะตาก็เล่นตลกทำให้เขาต้องเจ๊งไม่เป็นท่า เมื่อบริษัทที่ได้สิทธิ์ในการขายภาพยนตร์ของเขาต้องปิดตัวลง ทำให้ Laugh-O-Gram Film, Inc ต้องล้มละลายไปอย่างช่วยไม่ได้
1
Walt Disney อยู่ในสภาพหมดตัวจนเเทบไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน ชีวิตของเขาตกต่ำถึงขนาดบางวันต้องพึ่งอาหารสุนัขเพื่อประทังชีวิต
เเต่สัญชาตญาณของเขาก็บอกว่า ถ้ายังอยู่ที่เเคนซัสซิตี้ต่อ เขาคงหมดอนาคตเเน่ๆ เขาจึงใช้เงินที่เหลืออยู่ติดตัวเพียงไม่กี่เหรียญซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวเพื่อเดินทางไปยัง Hollywood ที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโลกภาพยนตร์
จนในปี 1926 เขาก็ต้องมาสูญเสียตัวการ์ตูนที่ดังที่สุดของเขาชื่อ Oswald the Rabbit ไป เพราะผู้ที่ฉายการ์ตูนของเขาในขณะนั้นเอา Oswald the Rabbit ไปจดลิขสิทธิ์ตัดหน้า เเถมยังซื้อลูกน้องในทีมของเขาไปอีกด้วย
ถ้าเป็นคนทั่วไปที่ต้องมาเจอเหตุการณ์เเบบนี้คงจะท้อเเละยอมเเพ้ไปเลย เเต่ Walt Disney กลับเอามาโฟกัสกับการสร้างตัวการ์ตูนใหม่เเทน
ซึ่งคราวนี้เขานึกไปถึงสัตว์เลี้ยงที่เป็นหนู สมัยที่ยังอยู่เเคนซัสซิตี้ จึงเอาเจ้าหนูตัวนี้มาเป็นเเบบในการวาดการ์ตูน โดยใส่บุคลิกเเละเสียงของตัวเองลงไปในเจ้าหนูตัวนี้ด้วย เเละนี่คือจุดเริ่มต้นของ Mickey Mouse
ในชวงปี 1930 เขาต้องการจะทำภาพยนตร์ Animated เรื่อง Snow White ซึ่งต้องใช้เงิน 500,000 เหรียญ ซึ่งเขาไม่มี เเต่เขาก็ยังทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำตามความฝันของตัวเองให้ได้
ในตอนเเรกเขาได้เอาบ้านของตัวเองไปจำนองไว้ เเต่ทำไปทำมางบก็เริ่มบานปลายจนจะทะลุ 1,000,000 เหรียญ ทำให้เขาจำเป็นต้องขายเเละจำนองทรัพย์สินทุกอย่างที่ตัวเองมี เเต่ถึงกระนั้นเงินก็ยังไม่พออยู่ดี
Walt Disney จึงต้องไปหา Bank of America ซึ่งโชคดีว่า Joe Rosenberg ซึ่งเป็นผู้ดูเเลเงินกู้ในขณะนั้นเชื่อใน Vision ที่ Disney มี เพราะตอนไปขอเงินกู้หนังยังไม่เสร็จ เเละ Disney ต้องพรีเซนต์ทุกอย่างด้วยรูปที่วาดด้วยดินสอ
เเน่นอนว่าสุดท้ายภาพยนตร์เรื่อง Snow White ก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ดังที่สุดในยุคนั้น จนในปี 1938 Disney ก็ได้ขึ้นปกนิตยสาร Time
เเต่ในปีนั้นเอง Walt Disney ก็ต้องพบเรื่องเศร้า เขาต้องเสียคุณเเม่ไปจากอุบัติเหตุเเก๊สรั่ว เเต่ไม่ว่าเขาต้องพบกับความสูญเสียหรือความผิดพลาดใดๆ มันก็ไม่เคยทำให้เขาท้อเเท้
เขาเดินหน้าด้วยการสร้างสรรค์สิ่งที่สุดเจ๋งที่สุดของ Walt Disney นั่นคือ Disneyland ซึ่งจริงๆ มันเป็นภาพในความฝันของเขามานานมากเเล้ว เเต่ว่าบริษัทในตอนนั้นอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินเยอะ รวมทั้งเหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายรวมไปถึงน้องชายของเขาเองก็คิดว่าไอเดียนี้ดูไม่เข้าท่าเอาซะเลย
เเต่คนอย่าง Walt Disney ถ้าเขามีความฝันเเล้ว ก็ไม่มีอะไรหยุดเขาได้
Walt Disney ลองคำนวณเงินเก็บกับเงินที่จะได้จากการขายทรัพย์สินของเขาดูเเล้วก็พบว่ามันยังไม่ใกล้เคียงกับเงินที่ต้องการเลย เขาเลยมีความคิดว่าจะไปคุยกับช่องทีวีเพื่อขอเงินมาลงทุน โดยเเลกกับการเอารายการของ Disney ไปฉาย รวมถึงหุ้นจำนวนหนึ่งใน Disneyland ด้วย ซึ่งฟังดูก็เป็นความคิดที่เข้าท่าเอามากๆ
เเต่เขากลับโดนทุกช่องปฏิเสธมาหมดรวดเดียว ถ้าเป็นคนอื่นเจอเเบบนี้คงจะพับโครงการไปเเล้ว
เเต่ไม่ใช่กับผู้ชายที่ชื่อ Walt Disney เขาไประดมทุนจาก “พนักงาน” เเละนั่นก็กลายมาเป็นเงินก้อนสำคัญที่นำมาสร้าง Disneyland
ด้วยเงินก้อนเเรกทำให้เขาสามารถสร้างเเบบจำลองที่สมบูรณ์เเบบมากๆ ของ Disneyland ที่มีทั้งปราสาทที่มีต้นเเบบมาจากปราสาทนอยชวานซไตน์ (Neuschwanstein Castle) ในประเทศเยอรมนี รวมไปถึงเเม่น้ำ รถไฟ เเละเครื่องเล่นต่างๆ
คราวนี้ Walt Disney ก็ได้กลับไปหาสถานีโทรทัศน์ใหม่อีกครั้ง เมื่อผู้บริหาร ABC ได้เห็นก็ตอบตกลงให้เงินกับ Walt Disney ทันที เเถมยังช่วยหาเงินกู้ให้อีกด้วย
เเละในที่สุด Disneyland ในความฝันของ Walt Disney ก็เป็นความจริง Walt Disney ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 59 ครั้ง เเละได้รับรางวัลไปถึง 22 ครั้ง จนเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลออสการ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ตราบจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบัน Walt Disney Company มีรายได้ประมาณ 45,000 ล้านเหรียญต่อปี เเละยังคงสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆนับล้านทั่วโลกเสมอมา
บางครั้งการที่เรายังไม่ประสบความสำเร็จดั่งที่ใจหวัง อาจเป็นเพราะเรายังล้มเหลวไม่มากพอ หากคุณสามารถเรียนรู้จากความล้มเหลวเเละนำบทเรียนเหล่านั้นมาเป็นไฟในการโฟกัสกับการทำสิ่งใหม่ในปัจจุบันเเบบ Walt Disney ได้
ผมเชื่อเหลือเกินว่า คุณจะประสบความสำเร็จได้ไม่ต่างจาก Walt Disney เลย
เพราะ “ความสำเร็จ” ทุกคนมักมองเห็นมันอยู่ท่ามกลาง ”แสงแฟลช” เเต่ความจริงเเล้วมันถูกสร้างขึ้นมาจาก “เปลวไฟ” ต่างหาก...
หากถูกใจบทความนี้ ก็อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ เเละกดติดตามเพจ "สมองไหล" กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆ ที่มีมาเสริฟให้คุณทุกวัน
ขอบคุณครับ 🙏
Source :
โฆษณา