24 ส.ค. 2019 เวลา 13:05 • การศึกษา
ชีวิตจริงของผู้หญิงคนหนึ่งที่โตมาในประเทศที่ชื่อว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่ด้วยความอยากเห็นโลกกว้างเธอจึงแอบลักลอบข้ามไปยังประเทศจีน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเธอจะไม่ได้มีโอกาสได้กลับมาและชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล..
2
หนังสือ The Girl with seven names : Escape from North Korea
เขียนโดย Hyeonseo Lee
เรื่องราวของหญิงสาวที่หนีออกจากประเทศเผด็จการคอมมิวนิสต์อย่างประเทศเกาหลีเหนือ และถูกตราหน้าว่าเป็นภัยต่อประเทศบ้านเกิดของตัวเองที่เธอเทิดทูนมาตั้งแต่เกิด..
หนังสือเริ่มต้นเล่าเรื่องราวของตัวเธอเองในวัยเด็กที่ต้องอาศัยอยู่ในประเทศเผด็จการคอมมิวนิสต์ ทุกคนถูกสั่งสอน ถูกปลูกฝังให้เคารพและรักในผู้นำของตัวเองอย่างไม่ลืมหูลืมตา หนังสือและตำราเรียนทุกเล่ม ข่าวสารทุกอย่างที่คนในประเทศนั้นได้ยินล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาให้ผู้นำของประเทศดูดี ทุกคนถูกหลอกให้เชื่อว่าประเทศของตนเองมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และร่ำรวย โดยที่ท่านผู้นำคือคนที่ไปต่อสู้เพื่อประเทศทำให้ประเทศมีอย่างทุกวันนี้ โดยมักจะบอกเสมอว่าประเทศอื่นแย่และลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเกาหลีใต้ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูกับเกาหลีเหนือ และถูกมองว่าเป็นประเทศที่แพ้สงคราม ล้าหลัง และผู้คนอดอยาก บ้านเมืองเต็มไปด้วยขอทาน
2
ทุกๆเมือง ทุกๆสถานที่ ในประเทศไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือโรงเรียนจำเป็นต้องมีรูปท่านผู้นำแขวนไว้ที่ผนังบ้านที่สูงที่สุด และห้ามมีรูปอื่นใดมาวางใกล้ๆเด็ดขาด และจะมีหน่วยงานที่คอยมาตรวจสอบเสมอว่าบ้านทุกบ้านดูแลและทำความสะอาดรูปเหล่านั้นอย่างดีหรือไม่ แม้กระทั่งผ้าที่ใช้เช็ดกรอบรูปก็ต้องเป็นผ้าเฉพาะเพื่อไม่ให้รูปเสียหาย และถ้าใครโดนตรวจพบว่าดูแลรูปไม่ดีก็จะถูกนำตัวไปลงโทษ ครั้งนึงญาติของ Hyeonseo เองก็โดนลงโทษอย่างรุนแรงเพียงเพราะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ด้านที่มีรูปท่านผู้นำไปห่อของ
1
หรือแม้กระทั่งตอนที่ผู้นำ Kim-il-Sung (ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของผู้นำคนปัจจุบันอย่าง Kim Jung-Un) เสียชีวิตและทุกคนต้องมายืนไว้อาลัยร่วมร้องไห้ ก็มีคนโดนลงโทษเพราะร้องไห้ปลอมอีกด้วย
เด็กทุกคนในโรงเรียนต้องเรียนวิชาเกี่ยวกับผู้นำ ตลอดจนนักเรียนทุกคนต้องช่วยทำการเกษตร ปลูกข้าวไว้รับประทานและหล่อเลี้ยงคนที่เหลือในประเทศ ทุกอย่างในประเทศจะได้รับการแบ่งสรรจากส่วนกลางโดยแบ่งตามลำดับทางสังคม ซึ่งการจัดลำดับนี้จะเกิดตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี โดยที่ตระกูลใดที่ได้ช่วยรับใช้ชาติในยุคนั้นก็จะได้รับตำแหน่งที่ดีในสังคม และครอบครัว Hyeonseo เองก็จัดว่าอยู่ในฐานะที่ดีทางสังคมเนื่องจากคุณตาของเธอเคยช่วยสงครามด้วยการเป็นหน่วยสืบข่าวกรอง
1
ผู้คนในประเทศยังถูกสอนให้เชื่อว่าการแจ้งหรือรีพอทเจ้าพนักงานเมื่อเพื่อนสนิทหรือเพื่อนบ้านทำผิด หรือการรีพอทคนที่แสดงอาการไม่เคารพท่านผู้นำ หรือมีใจโอนเอียงจากคอมมิวนิสต์ เป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง
ชีวิตในวัยเด็กของ Hyeonseo นั้นไม่ได้จัดว่าลำบาก เธอเป็นลูกที่เกิดจากการที่แม่ของเธอโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายคนนึง ทั้งๆที่แม่ของเธอมีคนรักอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อเธอเกิดมาแม่ของเธอก็ขอหย่า และไปแต่งงานใหม่กับคนรักของเธอ ซึ่งการหย่าร้างเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในประเทศเกาหลีเหนือ ทำให้เธอต้องเปลี่ยนชื่อเมื่อมาอยู่กับพ่อใหม่จากชื่อเดิมคือ Kim Ji-Hae มาเป็น Min-young เธออยู่กับพ่อคนใหม่โดยที่มีน้องชายอีกหนึ่งคน เมื่อวันนึงที่เธอรู้ว่าพ่อของเธอไม่ใช่พ่อแท้ๆ ทำให้เธอปิดกั้นตัวเองจากพ่อและน้องชาย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เธอเสียใจที่สุด
พ่อของเธอทำงานในตำแหน่งที่ดี ได้เลื่อนตำแหน่งพร้อมกับย้ายบ้านไปที่ๆดีกว่าในทุกครั้งที่มีการเลื่อนตำแหน่ง แม่ของเธอเป็นคนขยันที่มีหัวทางการค้า ทำให้แม่ของเธอแอบลักลอบทำการค้ากับประเทศจีนสร้างรายได้ให้ครอบครัวเธออย่างมาก พ่อของเธอได้ทำงานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เสมอ แต่เธอสังเกตว่าทุกครั้งพ่อจะดูเหนื่อยและอ่อนล้าทุกครั้งที่กลับมา จนวันนึงพ่อของเธอถูกทางการจับตัวไป ทรมานพ่อเธอจนเขาทนไม่ไหวต้องฆ่าตัวตายที่โรงพยาบาล โดยที่ในประเทศเกาหลีเหนือใบมรณะที่โดนเขียนว่า เสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก ลูกและครอบครัวจะต้องลำบาก ลูกๆจะไม่มีสิทธิ์เรียนต่อมหาวิทยาลัย แม่ของเธอจึงจำเป็นต้องจ่ายเงินมหาศาลเพื่อให้โรงพยาบาลแก้สาเหตุการตาย ซึ่งนั่นต้องใช้เงินเกือบจะหมดที่ครอบครัวเธอมี
1
ที่เกาหลีเหนือนั้นเมื่ออายุครบ 18 ปีจะถูกนับว่าเป็นผู้ใหญ่ และทุกคนจะต้องไปรับหน้าที่ที่ส่วนกลางมอบหมายให้ พอ Hyeonseo เข้าสู่วัย 17 เธอจึงคิดที่จะแอบข้ามไปประเทศจีนเพื่อท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตาของเธอ เธอข้ามฝั่งไปโดยมีเพื่อนของเธอที่เป็นยามชายแดนให้การช่วยเหลือ และด้วยความช่วยเหลือของคู่ค้าแม่ของเธอในประเทศจีนทำให้เธอสามารถเดินทางไปหาญาติของเธอที่เมือง Shenyang ได้ เธอใช้ชีวิตในเมืองจีนเป็นเดือนจนกระทั่งเธอได้รับสายจากแม่ของเธอ แม่ของเธอบอกเธอเพียงว่าไม่ต้องกลับมาอีก เพราะเมื่อเธอจากไป ประเทศมีการลงคะแนนเสียง และเธอไม่สามารถมาแสดงตัวได้ ทำให้ส่วนกลางรู้ว่าเธอได้หนีออกจากประเทศไปแล้ว
เธออาศัยอยู่ในประเทศจีนกับญาติของเธอ เเละจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเพื่อความอยู่รอดในประเทศจีนและไม่โดนส่งกลับเกาหลีเหนือ เธอเปลี่ยนชื่อไปเป็น Mi-ran ที่ชื่อคล้ายคนลูกครึ่งจีน-เกาหลี แต่ด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้แม่และน้องต้องลำบากที่ทางการรู้ว่าเธอหนีมาปนคิดถึงแม่และน้อง ทำให้ชีวิตในเมืองจีนเต็มไปด้วยความทุกข์ เวลาผ่านไปเป็นปีๆ เธอได้แต่ร้องไห้และนอนฝันร้าย ญาติของเธอพยายามหาทางช่วยเหลือเธอ โดยการแนะนำให้เธอแต่งงานกับชายหนุ่มที่เป็นลูกของเพื่อน โดยที่หลังแต่งงานเธอจะได้รับบัตรประชาชนประเทศจีนพร้อมกับชื่อใหม่ของเธอ เเต่เธอไม่อยากแต่งงานเธอจึงจำเป็นต้องหนีอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหน หนีไปหาใคร หรือคุยกับใครได้ เธอรู้แต่ว่าเธอต้องหางานในย่านคนเกาหลี แต่สุดท้ายเธอก็ถูกหลอกให้ไปเป็นเด็กนวดและดูแลแขกผู้ชาย จนเธอต้องรีบหนีเอาตัวรอด
1
เธอไปได้งานใหม่เป็นเด็กเสริฟ์ในร้านอาหารเธอทำงานอย่างหนัก โดยเธอต้องใช้ชื่อปลอมในบัตรประชาชนที่ชายหนุ่มทำให้เธอ โดยใช้ชื่อว่า Soon-Hyang แต่ทำงานได้ไม่นานเธอก็ต้องถูกตำรวจจีนจับตัวไป แต่ด้วยทักษะด้านภาษาจีนของเธอ ทำให้เธอรอดพ้นมาได้ เธอย้ายที่อยู่อีกครั้งเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ และเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง ชื่อที่ 5 ของเธอเป็น Chae In-hee แต่การทำงานที่เซี่ยงไฮ้โดยไม่มีบัตรประชาชนเป็นเรื่องที่ยาก เธอจึงจำเป็นต้องหาบัตรประชาชน เธอได้รับการช่วยเหลือที่มาแบบบังเอิญ โดยเธอต้องเปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งเพื่อใช้บัตรประชาชนของประเทศจีน และเป็นบัตรที่เธอสวมรอยเป็นหญิงสาวที่ป่วยทางจิตที่พ่อแม่ของหญิงสาวคนนั้นต้องการเงินเพื่อไปรักษาลูกด้วยการขายบัตรประชาชนไปเป็น Park Sun-ja
เธออยู่เซี่ยงไฮ้ได้ 2 ปีกว่าๆเธอก็พบรักกับหนุ่มชาวเกาหลีใต้ เธอจึงต้องคิดแผนการที่จะไปใช้ชีวิตที่นั่น เธอพยายามติดต่อนายหน้าเพื่อให้ช่วยดำเนินการ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่นายหน้าบอกเธอก็คือให้เธอบินไปประเทศ มองโกเลีย ไทย กัมพูชาหรือเวียดนาม เพราะประเทศเหล่านี้ยินดีที่จะส่งชาวเกาหลีเหนือข้ามแดนมา ให้กลับไปที่ประเทศเกาหลีใต้
Hyeonseo จึงต้องเตรียมตัวโดยการทำพาสปอตประเทศจีนโดยใช้บัตรประชาชนจีนปลอมของเธอ เธอขอวีซ่าเข้าประเทศไทย เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้เข้มงวดมากในการอนุญาตให้ผู้หญิงที่ถือพาสปอตจีนเดินทางเข้าประเทศคนเดียว การซื้อตั๋วเครื่องบินจึงเป็นเส้นทางที่เธอจะต้องแวะไปเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลีใต้ก่อนไปประเทศไทย
เมื่อเธอเดินทางมาถึงเกาหลีใต้ เธอแสดงตัวว่าเป็นคนเกาหลีเหนือ แต่เจ้าพนักงานไม่เชื่อเพราะคิดว่าเธอเป็นคนจีนที่อยากย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่เกาหลีใต้มากกว่า เธอต้องถูกจับตัวไปอาศัยอยู่กับผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากที่แอบลักลอบเข้าประเทศเพื่อทำการตรวจประวัติ
ในที่สุดเธอก็ได้รับพาสปอตเกาหลีใต้ เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เหมือนจะง่าย แต่จริงๆแล้วที่เกาหลีใต้ผู้คนให้ความสำคัญอย่างมากกับการศึกษา ซึ่งต่างจากเกาหลีเหนือที่การศึกษาไม่สำคัญเท่าความเคารพและจงรักภักดีต่อท่านผู้นำ ซึ่งความเครียดที่มีในเรื่องการศึกษาที่เกาหลีใต้จัดว่าทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศที่คนไม่มีความสุขที่สุดในประเทศที่พัฒนาแล้ว และเธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะเข้าเรียนและได้รับเงินเดือนที่มากกว่างานที่ใช้แรงงาน เธอเปลี่ยนชื่อของเธออีกครั้งเป็นครั้งที่ 7 มาเป็น Hyeonseo
แผนต่อมาของเธอคือการพาแม่และน้องชายออกจากเกาหลีเหนือเพื่อมาอยู่ที่เกาหลีใต้กับเธอ แต่การหนีของแม่และน้องชายกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ตั้งใจ พวกเขาต้องเดินทางผ่านทางจีนไปยังประเทศลาวเพื่อไปสถานทูตเกาหลีใต้ที่เมืองเวียงจันทน์ เธอต้องพบเจอกับปัญหามากมาย ทั้งการที่แม่และน้องชายของเธอโดนตำรวจจับตัวไปเข้าคุก การถูกนายหน้าโกง แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี เธอได้พบเจอคนแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือเธอได้อย่างทันเวลา จนในที่สุดเธอก็สามารถช่วยแม่และน้องชายของเธอได้ เมื่อแม่และน้องชายของเธอเมื่อมาอยู่ที่เกาหลีใต้ก็ต้องพบกับความยากลำบากในการปรับตัวเช่นเดียวกับที่เธอเคยเจอตอนแรก แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปในทิศทางที่ดี
1
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 เธอได้ใช้โอกาสในการเปิดเผยเรื่องราวของเธอ และสิทธิมนุษยชนของคนเกาหลีเหนือโดยการผ่านเวที TED Talk ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และเธอยังได้มีโอกาสไปพูดต่อหน้าผู้คนจำนวนมากใน UN (สหประชาชาติ) ในเดือนเมษายนปี 2014 ในหัวข้อเดียวกันนี่เอง
#อ่านแล้วมาย่อย
โฆษณา