3 ก.ย. 2019 เวลา 11:59 • ธุรกิจ
ทำยังไง GDP ของประเทศไทยถึงจะโตกับเค้าบ้าง ?
เราเคยได้ยินกันมานานแล้วว่า GDP ของประเทศเพื่อนบ้านเราเติบโตสูงกว่าไทย ทุกปี ไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่ง ลาว เวียดนาม กัมพูชา
ทำไมไทยถึงเป็นประเทศที่ GDP เติบโตน้อยสุด เพราะอะไร
ก่อนอื่นเรามารู้ก่อนว่า GDP มันคำนวณมาจากอะไร
GDP หรือ Gross Domestic Productคือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะประมาณการล่วงหน้า และจะทยอยประกาศออกมาให้ประชาชนทั่วไปทราบเป็นรายไตรมาส
หรือจะพูดกันง่ายๆว่า GDP ก็คือ มูลค่าที่ระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศนั้นสร้างขึ้นมาได้นั่นแหละครับ
วิธีคิด GDP จริงๆแล้วมีทั้งหมด 3 แบบซึ่งทั้ง 3 แบบจะให้ผลลัพธ์ที่เท่ากัน
1. Product approach เป็นวิธีการวัดผลรวมการผลิตสินค้าและบริการที่ผลิดได้ในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยสินค้าและบริการนั้นต้องเป็นสินค้าขั้นสุดท้ายเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ
2. Income approach เป็นการวัดผลรวมผลตอบแทนต่อผู้มีส่วนร่วมในการผลิต ขาย บริการผลิตภัณฑ์นั้นทั้งหมด
3. Expenditure approachเป็นการวัดจากผลรวมรายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กัน
เราคิดGDP หรือมูลค่าที่ระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ GDP = C + I + G + (X - M)
C = Consumptionหรือการบริโภคของบริษัทและประชาชนทั่วไป ซึ่งก็คือส่วนที่พวกเราทุกคนใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการทานอาหาร ซื้อของอุปโภคบริโภค
I = Investmentหรือการลงทุนจากภาคเอกชนในการทำกิจกรรมต่างๆในระบบเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนในที่ดิน เครื่องจักร รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆของ ภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น
G = Government Spendingหรือค่าใช้จ่ายของรัฐบาล/การลงทุนภาครัฐ เช่น การดำเนินนโยบายต่างๆทางด้านคมนาคม เงินเดือนของข้าราชการ แต่ไม่รวมสวัสดิการสังคมนะครับ
X - M = Export ลบด้วย Import หรือเรียกว่ามูลค่าส่งออกสุทธิ คือจะต้องตัวเลขการส่งออกลบด้วยการนำเข้าถึงจะเห็นอัตราการบริโภคสุดท้ายที่แท้จริง
​แล้ว GDP สำคัญต่อนักลงทุนอย่างไร ? สำคัญตรงที่อัตราการเติบโตของ GDP จะเป็นตัวสะท้อนสุขภาพของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
• ถ้าอัตราการเติบโตติดลบ ก็สามารถคาดการณ์ได้จากหลายๆสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนลดลง หรือจะเป็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมลดลง ในส่วนนี้ยังส่งผลให้การจ้างงานลดลงในไปด้วย เมื่อภาพของ GDP ติดลบจะเป็นการบ่งบอกว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั้นหยุดชะงัก ชะลอตัว จึงทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนและย้ายเงินไปลงทุนในตลาดที่มีเสถียรภาพมากกว่า
• หาก GDP เป็นบวก แน่นอนว่าจะเป็นภาพสะท้อนเศรษฐกิจที่มีสภาพคล่องสูง คนในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น ดึงดูดเม็ดเงินของนักลงทุนเข้ามาเพิ่มเช่นกัน
สำหรับ GDP ของประเทศไทยใน ปี 2561 เท่ากับ 4.1% และ ในไตรมาสที่ 1/2562 เท่ากับ 2.8% ไตรมาสที่ 2/2562 เท่ากับ 2.3% รวมครึ่งปีแรกของปี 2562 อยู่ที่ 2.6% ถ้าเรามองจากสมการตามสูตรการคิด GDP ในแบบที่ 3 จะเห็นว่า C การบริโภคภาคครัวเรือนและภาครัฐบาลยังคงขยายตัว I การลงทุนรวมชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว X-M ส่วนภาคต่างประเทศหดตัว ผลจากเศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวการส่งออกที่หดตัวลงอย่างรุนแรง จากค่าเงินบาที่แข็งตัว สินค้าส่งออกของเราราคาก็จะแพงขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวก็ใช้จ่ายในราคาที่สูงขึ้นในการเข้ามาท่องเที่ยวที่บ้านเราเช่นกัน ทีนี้ก็เหลือกลไกสุดท้ายในการขยาย GDP นั่นคือ G รัฐบาลที่จะออกมาตรการอะไรออกมาเพื่อเพิ่ม GDP และปรับกลยุทธในระยะยาวต่อไปอย่างไร
แล้วทำยังไงหละเราถึงจะกลับมาเติบโตได้ในอัตราสูงๆขึ่น เราคงต้องกลับมาวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเราเองเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
มองให้ง่ายที่วิธีการคิด GDP แบบแรกนะครับ ถ้าเราเปรียบบ้านเราเหมือนร้านค้าเพื่อผลิตสินค้าและบริการ ทำยังไงจะทำเงินไหลเข้ามาที่ร้านของเราเพิ่มมากขึ้น รายได้คือราคาของที่ขาย คูณกับ ปริมาณของที่ขาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้คือ
1. เพิ่มราคาทุกอย่างขึ้น แน่นอนว่าวิธีนี้คงไม่ดีเท่าไหร่
2. เพิ่มคุณภาพสินค้าและบริการ ทำให้คนที่เข้ามาซื้อยอมจ่ายแพงกว่าซึ่งจะเป็นวิธีที่ยั่งยืนกว่า
ถ้าค่าแรงของเราเงินเดือนของเราลดไม่ได้ มูลค่าของงานเราคงต้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน ถ้ายังผลิตของแบบเดิมในราคาที่สูงขึ้นการลงทุนจากต่างประเทศก็คงจะย้ายไปผลิตที่อื่นแน่ๆซึ่งเห็นได้จากการเริ่มย้ายฐานผลิตไปยังที่อื่น เพราะฉะนั้นมันคงถึงเวลาที่เราต้องพัฒนาตัวเองให้เราดีขึ้นเก่งขึ้นกว่าเดิม ในด้านเราถนัดและปรับปรุงจุดอ่อนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแล้วหละครับ
ขนาด GDP เรียงตามอันดับโลก IMF ในปี 61 หน่วย: ล้านดอลล่า
1. สหรัฐอเมริกา 20,513,000
2. จีน 13,457,267
3. ญี่ปุ่น 5,070,626
4. เยอรมัน 4,029,140
5. อังกฤษ 2,808,899
25. ไทย 490,120
47. เวียดนาม 241,434
ขอขอบคุณข้อมูลสนับสนุนจาก
หนังสือ CARTOONOMICS เศรษฐศาสตร์ฉบับการ์ตูน
www.nesdb.go.th สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ทุกๆบทความที่ได้ดาว GMH จะนำรายได้ทั้งหมดมอบให้เด็กพิการและผู้ป่วยยากไร้
บทความนี้เรียงเรียนขึ้นโดย Mara สมาชิก GMH
ขอบคุณที่ติดตาม GMH Blockdit
โฆษณา