28 ส.ค. 2019 เวลา 03:50 • ประวัติศาสตร์
ฅน ค้น ปลา : พาขุดประวัติปลาทอง 5 สี part 02
ผมเคยได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณจำเนียร เมฆฉาย หรือที่คุ้นเคยกันในนาม อ.จำเนียร บรีดเดอร์ปลาทองมากประสบการณ์แห่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ท่านคือหนึ่งในผู้บุกเบิกปลาทอง 5 สีในยุคแรกๆ ตั้งแต่ 50 กว่าปีที่แล้ว สมัยที่เมืองไทยเริ่มนำเข้ามาและพัฒนาต่อยอดจนเกิดสีสันที่สวยงามทั้งยังมีโครงสร้างที่ดีตามแบบฉบับปลาทองไทย ท่านให้ความเห็นถึงปลาชนิดนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ
พ.ศ.2505 คือครั้งแรกที่ อ.จำเนียรได้เห็นออรันดา 5 สีในเมืองไทย ช่วงนั้นปลาทอง 5 สี ยังเป็นปลานำเข้าจากจีนแทบทั้งหมด หน้าตาของปลายังเป็นพวกปลาโครงยาว วุ้นน้อย มีความละม้ายคล้ายชูบุงกิงหรือออกไปทางโคเมท เอาตรงๆ คือยังไม่ค่อยสวย ซึ่งในมุมมองของ อ.จำเนียรมองว่าปลาทองออรันดาบ้านเรามีความสวยงามมากกว่า วุ้นหนากว่า ทรงสวยกว่าของจีน แค่ยังไม่ได้พัฒนาให้มี 5 สีเท่านั้น
ในช่วงแรกที่บรีดเดอร์หรือนักเพาะพันธุ์ของไทยเริ่มนำมาพัฒนาสายกันเอง ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ออรันดาดำมาผสมกับสายปลาออรันดา 5 สีที่นำเข้ามา เพราะพวกเขาเชื่อว่าปลา 5 สีมีสายเลือดมาจากออรันดาดำ และด้วยความที่ปลาทองบ้านเราเป็นปลาวุ้นหนา โครงสร้างดี การพัฒนาปลาทอง 5 สีของไทยจึงคาดหวังให้มันมีวุ้นและโครงสร้างที่สวยขึ้น แม้จะพอรู้หลักในการทำปลา 5 สี แต่ในทางปฏิบัติจริงไม่ง่ายขนาดนั้น
ออรันดา 5 สี ภาพโดย ภวพล
บ้านเราโดดเด่นในการทำปลาออกมาโครงสร้างดีก็จริง แต่จะหนักไปทางออรันดาสีส้มล้วนซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด แต่กับปลาออรันดาสีดำนั้น ตลาดไม่ได้นิยมปลาชนิดนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่เน้นเลี้ยงเสริมฮวงจุ้ยมากกว่า นั่นทำให้การเฟ้นหาปลาออรันดาดำโครงสร้างดีๆ ในเมืองไทยเป็นไปได้ยากพอสมควร
ครั้นจะเลือกใช้ปลาทองออรันดาสีส้มมาลองเข้า ลูกปลาที่ได้ก็จะออกไปทางปลาส้มล้วนหรือขาวแดงเป็นหลัก โอกาสที่จะได้ลูกปลา 5 สีก็จะน้อยหรืออาจจะไม่มีเลย
ที่ยากขึ้นไปอีกก็คือ ปลาทองออรันดาดำที่จะใช้ผสมนั้น ต้องพยายามเลือกปลาที่มีท้องขาวเป็นหลัก หรือท้องอมสีเทาได้ก็จะยิ่งดี หากนำปลาออรันดาดำท้องเหลืองมาเข้า โอากาสได้ปลา 5 สีก็จะน้อย เพราะส่วนใหญ่จะได้ลูกปลาออกมาเป็นสีส้มดำหรือบางคนเรียกว่า อาปาเช่
ปลาทอง 5 สีถูกคาดหวังมาตั้งแต่ในอดีตว่ามันจะต้องมีสีครบทั้ง 5 สี ซึ่งถ้ามองในมุมของผู้ผลิตอย่าง อ.จำเนียร เขาบอกว่าเป็นเรื่องยากมากๆ การจะเพาะพันธุ์ปลาทองครบ 5 สี ในสมัยก่อนมีเปอร์เซ็นต์น้อยจริงๆ ค่าเฉลี่ยต่อครอกไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ และเกือบครึ่งจะเป็นปลาขาวหรือสีเขียว ซึ่งขายแทบไม่ได้ราคา
และแม้จะคัดปลาทอง 5 สีออกมาได้แล้ว ก็ยังมีขั้นตอนการคัดคุณภาพปลาตามมาอีก เพราะฉะนั้นถ้าใครสามารถผลิตปลาทอง 5 สีคุณภาพดีออกมาได้สักตัวจะถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุด
เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ปลากลุ่ม 5 สี เกรดทั่วไปขายกันตัวละเป็นร้อยบาท ซึ่งถือว่ามีราคาสูงเอาเรื่อง ยิ่งปลาโครงยาวยิ่งได้ราคาดี เพราะตลาดปลาทองในอดีตจะวัดราคาปลากันที่ความยาวมาเป็นสำคัญด้วย เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีค่านิยมในเรื่องโครงสร้างและสีสันที่ชัดเจนเหมือนทุกวันนี้ ยิ่งถ้าเป็นปลาโครงยาวและสีสันเยอะๆ ราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นไปอีก
สิงห์ 5 สี ภาพโดยภวพล
ไม่ใช่แค่ออรันดา 5 สี ที่ถูกนำเข้ามาพัฒนาสายพันธุ์ แต่ปลาทองสายอื่นๆ ก็ถูกนำเข้ามาทดลองทำกันแทบทั้งหมด แต่ด้วยจำนวนปลาสวยที่น้อย ขายไม่คุ้มราคากับต้นทุนการผลิต ทำให้หลายๆ ฟาร์มเลิกทำไปในที่สุด จะเหลือก็เพียงออรันดาและสิงห์เท่านั้นที่ได้รับความนิยม และคุ้มค่าต่อการผลิต
ใน Part หน้า เราจะมาสรุปกันว่าปลาทอง 5 สีในปัจจุบันได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน และมีทิศทางเป็นยังไงบ้างครับ
ขอบคุณภาพจากนิตยสาร Fish MAX ภาพโดยภวพล
โฆษณา