โลกของกองทุน : ตอนที่ 0
อยากเริ่มต้นซื้อกองทุน
อยากจะซื้อกองทุน ควรซื้อกองอะไรดี มีกองอะไรแนะนำไหม
ถึงแม้ว่าคำถามนี้จะเป็นคำถามที่ง่ายๆ
แต่เชื่อหรือไม่ว่าคำถามนี้มักจะเจอบ่อยๆกับคนที่ไม่เคยลงทุนแต่มีความสนใจที่จะลงทุน
ทั้งนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าบางคนเขาไม่เคยลงทุนในสินทรัพย์ใดๆมาก่อนนอกจากการฝากเงิน
การที่เขาจะเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ก็ย่อมมีความกังวลเป็นธรรมดา
บทความนี้จะไม่เจาะจงว่ากองทุนกองไหนดี แต่จะขอแนะเป็นแนวทางในการตัดสินใจในการลงทุน
1. จะต้องรู้ก่อนว่ากองทุนนั้นคืออะไร
กองทุนรวม พูดในแบบที่เข้าใจง่ายคือ การที่คนหลายคนเอาเงินมากองรวมๆกัน เพื่อเป็นทุนในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆโดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการลงทุนแทนให้
สินทรัพย์ที่กองทุนนำไปลงทุน มีทั้งหุ้นกู้ หุ้นสามัญ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ ซึ่งจะเป็นไปตามนโยบายการลงทุนตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
มาถึงตรงนี้เราจะต้องรู้ก่อนว่า สินทรัพย์แต่ละอย่างมีความเสี่ยงที่ต่างกัน
ทั้งนี้ กลต ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลได้แบ่งความเสี่ยงกองทุนเป็น 9 ระดับดังต่อนี้
แผนภาพแสดงตำแหน่งความเสี่ยงของ B-LTF
ระดับที่ 1 กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะภายในประเทศ
กองประเภทนี้จะไม่ลงทุนในต่างประเทศ ลงทุนเฉพาะในเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินฝาก หรือตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นๆไม่เกิน 397 วัน
ระดับที่ 2 กองทุนรวมตลาดเงิน
กองประเภทนี้จะเหมือนกับระดับที่ 1 แต่สามารถลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของ nav
ระดับที่ 3 กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
กองนี้มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ nav
ระดับที่ 4 กองทุนรวมตราสารหนี้
กองนี้มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ระยะสั้น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ nav
ทั้งนี้หากกองทุนตราสารหนี้นั้นลงทุนในหุ้นกู้กับบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง อาจจะถูกจัดให้อยู่ในระดับที่ 5 หรือ 6 ได้ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของหุ้นกู้ที่กองทุนได้ลงทุน
ระดับที่ 5 กองทุนรวมผสม
เป็นกองทุนที่ลงทุนทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน โดยจะลงทุนตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ หรือลงทุนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนก็ได้ซึ่งเป็นไปตามหนังสือชี้ชวน
ระดับที่ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
ระดับที่ 7 กองทุนรวมอุตสาหกรรม
เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนเฉพาะหมวดอุตสากรรมตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
ระดับที่ 8 กองทุนรวมทางเลือก
เป็นกองทุนที่ลงทุนในพวก REITs กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ น้ำมันดิบ เป็นต้น โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ nav
ระดับ 8+ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญ
เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในอนุพันธ์ การกู้ยืม/repo เพื่อการลงทุน และ short selling อย่างมีนัยยะสำคัญ
2. เป้าหมายของการลงทุนคืออะไร
ที่มา : www.set.or.th
เราจะต้องกำหนดก่อนว่าเงินที่เราเอาไปลงทุนนั้นเอาไปใช้ทำอะไรในอนาคต
บางคนอยากจะพักเงินระยะสั้น แต่เอาไปลงในกองทุนอสังหาริมทรัพย์
อันนี้เป็นการลงทุนที่ผิดวัตถุประสงค์อย่างมาก เพราะการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนระยะยาว
ถ้าต้องการจะพักเงินควรลงในกองทุนตลาดเงินถึงจะถูก
แต่ถ้าไม่ได้เอาไปทำอะไร เน้นเก็บระยะยาวก็สามารถลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้
3. รับความเสี่ยงได้หรือไม่
หากลงทุนไปแล้ววันนี้ และขาดทุนคุณสามารถยอมรับได้หรือไม่
หากยอมรับได้ก็สามารถลงในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงได้
แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ควรลงในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำลงมา
**การลงทุนในกองทุนใดๆ อย่ามองแค่ผลตอบแทนเท่านั้น ควรประเมินตนเองด้วยว่ายอมรับได้ไหมถ้าผลการดำเนินงานของกองทุนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
ทั้งนี้ก่อนที่จะเปิดบัญชีซื้อขายกองทุน เขาจะมีแบบประเมินการยอมรับความเสี่ยงให้ทำ ซึ่งควรที่จะตอบตามความเป็นจริงเพื่อที่เราจะได้ทราบว่าเรายอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
4. ควรดูเงื่อนไขของกองทุน
ค่าธรรมเนียม ขั้นต่ำในการซื้อ ขาย ของ B-LTF จากเว็บ Wealth magik
4.1 ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมนั้นจะมีผลอย่างมากถ้าหากเราต้องการลงทุนในกองทุนอ้างอิงดัชนี
หากลงทุนในกองทุนที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมสูง ก็อาจทำให้ผลตอบแทนที่น้อยลง
4.2 ขั้นต่ำในการลงทุน
กองทุนแต่ละกองมีการกำหนดขั้นต่ำในการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน บางกอง 500 บาท บางกอง 1,000 บาท หรือบางกอง 10,000 บาทก็มี
ดังนั้นถ้าเราไม่ดูขั้นต่ำในการซื้อขายก่อน ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถซื้อกองนั้นได้
4.3 ระยะเวลาให้ซื้อ และขายคืน
โดยปกติแล้วกองทุนจะเปิดให้ซื้อทุกวันทำการ แต่ก็จะมีบางกองที่เปิดให้ซื้อและขายคืนแค่บางวันเท่านั้น
4.4 รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ
เช่น กอง LTF และ RMF เป็นกองสำหรับลดหย่อนภาษีหากมีการซื้อกองดังกล่าวไป ไม่สามารถขายได้ทันทีจะต้องถือไว้สักระยะหนึ่งถึงจะขายได้
ทั้งนี้ควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนที่จะลงทุน
- 50
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
