จักรพรรดิฮิโระฮิโตะ
(Hirohito-tenno)
ผู้ซึ่งครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
จักรพรรดิฮิโระฮิโตะเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นพระองค์ที่ 124 มีพระนามตามชื่อรัชสมัยคือ จักรพรรดิโชวะ ครองราชย์ ระหว่าง พ.ศ. 2469 - 2532 ยาวนานถึง 63 ปี ซึ่งยาวนานกว่าจักรพรรดิองค์อื่นๆ ของญี่ปุ่น
จักรพรรดิฮิโระฮิโตะประสูติเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ 2444 เป็นพระโอรสองค์ใหญ่ของมกุฎราชกุมารโยชิฮิโตะ ซึ่งต่อมาคือจักรพรรดิโยชิฮิโตะ (ไทโช) และ เจ้าหญิงซะดะโกะ ซึ่งต่อมาคือจักรพรรดินีเทเม
เจ้าชายฮิโระฮิโตะ ทรงศึกษาในโรงเรียนชั้นต้นกะกุชูอิน ซึ่งเป็นโรงเรียนขุนนางชั้นสูง เจ้าชายได้รับการกวดขัน ให้ฝึกฝน และปฏิบัติ ยึดความเรียบง่ายตามกฎข้อบังคับแบบทหาร
เมื่อเจ้าชายฮิโระฮิโตะได้เป็นมกุฎราชกุมาร หลังจากสำเร็จการศึกษาขั้นต้น ในปี พ.ศ 2457 พระองค์ทรงศึกษาต่ออีก 7 ปี ที่โทงูกะกุมนโจะ ซึ่งเป็นสถาบันพิเศษที่จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้การศึกษาแก่มกุฎราชกุมารผู้จะดำรงตำแหน่งจักรพรรดิในอนาคต
หลังจากสำเร็จการศึกษาในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อพ.ศ 2464 มกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะ ได้เสด็จเยือนยุโรปเป็นเวลา 6 เดือน
เมื่อเสด็จกลับประเทศ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นผู้สำเร็จราชการ เพื่อส่งปฏิบัติหน้าที่จักรพรรดิแทนพระราชบิดาที่ทรงพระประชวร
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2467 ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงนะงะโกะ พระธิดาองค์ใหญ่ของเจ้าชายคุนิโนะ มิยะ คุนิโยะชิ
จักรพรรดิฮิโรฮิโตะและจักรพรรดินีโคจุง ทรงมีพระราชโอรส 2 พระองค์และพระราชธิดา 5 พระองค์ พระราชโอรสองค์ใหญ่คือเจ้าชายอะกิฮิโตะซึ่งต่อมาคือ จักรพรรดิอะกิฮิโตะ
วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ 2469 จักรพรรดิโยชิโตะสวรรคต ซึ่งขณะนั้น มกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะ พระชนมายุ 25 พรรษา ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ในวันเดียวกัน อันเป็นการเริ่มสมัยโชวะ ที่ใช้เรียกรัชสมัยของพระองค์
ในช่วงต้นรัชสมัยของจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ จักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงนั้น เป็นชาติมหาอำนาจของโลก จากขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 9
แต่ในรัชสมัยของพระองค์กลับมีทหารเข้ามาแทรกแซงและมีอำนาจในวงการเมืองเป็นอย่างมาก การเคลื่อนไหวของบรรดานายทหารหน่วยต่างๆก่อให้เกิดลัทธิทหารนิยมที่ทำให้ญี่ปุ่นเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2
ในด้านการต่างประเทศทหารก็เข้ามามีบทบาทเช่นกัน นับตั้งแต่เหตุการณ์แมนจูเรีย เมื่อปีพ.ศ 2474 จนถึงการปะทุขึ้นเป็นสงครามจีน-ญี่ปุ่น ระหว่าง พ.ศ. 2477-2488
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรวรรดิญี่ปุ่นขยายอำนาจและดินแดนไปทั่วเอเชียบูรพา โดยที่ไม่มีชาติใดๆ สามารถต้านทานได้
ภายหลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นและฝ่ายอักษะ
จักรพรรดิฮิโระฮิโตะทรงเป็นสัญลักษณ์ของการกอบกู้ประเทศชาติที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม เนื่องจากได้อุทิศพระองค์ให้กับการทำให้ญี่ปุ่นหลังสงครามฟื้นตัว และฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศอื่นๆ
รวมทั้ง พระองค์ทรงงานเพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับประชาชนคนญี่ปุ่นมากขึ้น
สมัยปลายรัชกาล จักรพรรดิฮิโรฮิโตะทรงพระประชวรมานานและสวรรคต เมื่อวันที่ 7 มกราคมพ.ศ 2532 ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา
พระบรมศพถูกนำไปฝังไว้ที่มุซะชิโนะ ที่บรรจุพระศพของจักรพรรดิในเมืองฮะชิโอจิ กรุงโตเกียว
ที่มา:
สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่ : เอเชีย เล่ม 4 , ราชบัณฑิตยสภา
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
