4 ก.ย. 2019 เวลา 08:31 • การศึกษา
## องุ่น (grape)##
มีถิ่นกำเนิดจากรัฐแคลิฟอร์เนีย
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดหนึ่งมีรสหวานอมเปรี้ยว มีทั้งองุ่นเขียว องุ่นแดง และองุ่นดำ ซึ่งแต่ละสีก็จะมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป องุ่น นอกจากจะนำมารับประทานสดๆได้แล้ว ยังนิยมนำองุ่นมาทำไวน์ น้ำองุ่น และเมล็ดองุ่นยังสามารถนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อีกด้วย องุ่นจะประกอบด้วยสารอาหารหลักๆ คือ ฟรุกโตส กาแลกโตส กลูโคส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อใช้สร้างพลังงาน วิตามินB1 วิตามินB2 วิตามินA วิตามินC และเกลือแร่ นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสาร
💮องุ่นต่างสีก็สามารถป้องกันโรค
ได้แตกต่างกัน 💮
**องุ่นเขียว
องุ่นเขียวอุดมด้วยสารพฤกษเคมีซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนต์ เช่น คาเทชิน(Catechin) และเทอโรสติลบีน(Pterostilbene) องุ่นเขียวจึงช่วยป้องกันมะเร็งลําไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคของระบบประสาท โรคอัลไซเมอร์ และลิวคีเมีย ตลอดจนป้องกันการติดเชื้อราและเชื้อไวรัสต่างๆ
**องุ่นแดง
องุ่นแดงมีสารอาหารสําคัญคือ เรสเวอราทรอล(Resveratrol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และช่วยชะลอวัย นอกจากนี้ยังมีสารซาโพนิน(Saponin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านแบคทีเรีย ไวรัส ป้องกันเนื้องอก ลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ซึ่งส่งผลต่อการป้องกันโรคหัวใจเช่นกัน
1
**องุ่นดํา
สถาบันการแพทย์ Mayo Clinic แนะนําว่า ถ้าต้องการลดน้ําหนักให้กินองุ่นดําวันละ 1 ครั้ง อาจกินเป็นของกินเล่นหรือใส่ในสลัดก็ได้ เพราะจากการศึกษาพบว่า องุ่นดําอุดมด้วยไฟเบอร์ ทําให้รู้สึกอิ่มและให้แคลอรีต่ํา ทําให้การทํางานของลําไส้เป็นไปตามปกติ สารแอนติออกซิแดนต์ในองุ่นดํายังช่วยในการขับท็อกซินออกจากร่างกาย
ซึ่งช่วยให้กระบวนการลดน้ําหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1
🌹ข้อควรระวังในการทานองุ่น🌹
-ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการรับประทานองุ่นจะมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ดังนั้นควรรับประทานองุ่นในปริมาณที่เหมาะสมหรืองดการรับประทานองุ่นในระหว่างตั้งครรภ์
-ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานองุ่นก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้าลง หรือทำให้มีเลือดออกมากในระหว่างหรือหลังการผ่าตัด
-ผู้ที่รับประทานยาบางชนิดเป็นประจำ เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ยาที่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยเอนไซม์ที่ตับ เนื่องจากการบริโภคน้ำองุ่นอาจเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการทำลายยาที่ตับ และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของยาลดลง
โฆษณา