4 ก.ย. 2019 เวลา 06:09
สำหรับความฝัน ไม่มีคำว่าใหญ่เกินไป
หลายครั้งที่เราหมดไฟ หมดแรงใจ ไม่อยากไปต่อ สุดท้ายจึงหยุดทุกความพยายาม และกลายเป็นคนที่ทำไม่สำเร็จ
พอถึงตอนนั้นคุณจะยิ่งเสียใจ ยิ่งโทษตัวเอง และพูดคำเดิม ๆ ว่า "รู้งี้..."
รู้งี้วันนั้นไม่ล้มเลิกหรอก
รู้งี้ทำไปตั้งนานแล้ว
รู้งี้พยายามให้มากขึ้นก็ดี
และอีกสารพัด "รู้งี้..."
หยุด ! ทุกข้ออ้างเดี๋ยวนี้ครับ
ต่อให้คุณล้มเลิก หรือหยุดทุกอย่างไปแล้ว ก็เริ่มต้นใหม่ได้
คุณไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วกว่าใครนี่ครับ ถ้าสิ่งที่ทำมันเหนื่อยมากไป ค่อย ๆ เดินก็ได้ ขอแค่มั่นใจว่าจะไปถึงเป้าหมายก็เพียงพอ ทุกคนทำตามความฝันได้ครับ
Walt Disney เคยกล่าวเอาไว้ว่า...
"If you can dream it, you can do it"
ถ้าคุณฝันถึงมันได้ แสดงว่าคุณต้องทำมันได้แน่นอน !
ชายคนหนึ่งที่ผมกำลังจะพูดถึง เขาเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีอะไรเลย มีแค่ความฝันที่ยิ่งใหญ่ กับใจที่เกินร้อย และความพยายามอย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายเขาได้ทุกอย่างที่่ต้องการ และทำตามความฝันได้สำเร็จ
เขาคือ Magnus Walker ชายคนนี้มีสไตล์ที่โดดเด่นมากครับ เห็นครั้งแรกก็สะดุดตาในทันที และที่สำคัญเขาไม่ธรรมดาอย่างที่ใครคิด จากเด็กจน ๆ ที่เรียนไม่จบ สร้างเนื้อสร้างตัวจนทำตามความฝันได้อย่างไม่น่าเชื่อ !
Magnus Walker เด็กชายชาวอังกฤษเติบโตมาในครอบครัวฐานะยากจน เขาใช้ชีวิตแบบเด็กธรรมดาทั่วไป ไม่มีภาระ ไม่มีความฝัน ไร้จุดมุ่งหมาย เล่นสนุกไปวัน ๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อ Magnus อายุได้ 10 ขวบ พ่อได้เปิดโลกใบใหม่ให้กับเขา ด้วยการพาไปงานจัดแสดงรถราคาแพงชื่อว่า the 1977 Earl's Court Motorshow
เขาเดินดูรถไปเรื่อย ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ และสะดุดตาเข้ากับรถคันหนึ่ง the Porsche 911 เด็กชายอายุ 10 ขวบยืนจ้องอยู่แบบนั้นด้วยความชื่นชอบ
เขาอยากได้รถคันนี้มาก แต่เมื่อคิดถึงสถานะทางการเงินของที่บ้านแล้วก็ถอดใจ เขาจนเกินกว่าจะคว้ารถสวย ๆ คันนี้มาเป็นของตัวเอง
แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว เขากลับเลิกคิดถึงรถ Porsche คันนั้นไม่ได้ เขานั่งคิด นอนคิด ว่าทำอย่างไรจึงจะมีเงินมากพอที่จะซื้ออะไรตามใจชอบ
จากเด็กที่ไร้จุดมุ่งหมาย ตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยไฟแห่งนักสู้ เขาจะต้องไปให้ถึงจุดมุ่งหมายโดยเร็วให้ได้
Magnus ตัดสินใจเขียนจดหมายไปหาบริษัท Porsche เพื่อขอเข้าทำงาน ตอนนี้ยังเป็นเจ้าของรถไม่ได้ ขอทำงานใกล้ ๆ สิ่งที่รักหน่อยก็แล้วกัน
แต่ด้วยความที่ Magnus ยังอายุยังน้อยเกินไป บริษัท Porsche จึงตอบกลับมาว่า "พวกเราสนับสนุนให้คุณทำงานที่นี่นะ เรียนจบแล้วค่อยมาสมัครงานที่นี่สิ"
เขาเรียนหนังสือมาเรื่อย ๆ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่ออายุได้ 15 ปี เขาก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ไม่ใช่เพราะหมดไฟกับการตามความฝัน แต่เขาอาจมีเงินเยอะ ๆ หรือเป็นเจ้าของรถหรูได้โดยไม่ต้องรอทำงานกับบริษัท Porsche
Magnus เป็นผู้ชายที่รักการแต่งตัว หลงไหลในแฟขั่น เขาเริ่มแสดงตัวตนและสไตล์ของตัวเองชัดเจนขึ้นตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วไป การแต่งการของเขาค่อนข้างหนักแบบชาวร็อค
เขาเริ่มต้นอาชีพค้าขาย ทำธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยการตามหาเสื้อผ้าจากร้านค้าปลีก หรือร้านที่ขายในราคาถูก ทั้งแจ็คเก็ตเท่ ๆ กางเกงยี่ห้อดี ๆ เสื้อผ้าทุกชิ้นผ่านการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสไตล์ที่เขาชอบ แล้วจึงนำไปวางขายที่ชายหาด
ปรากฏว่ามันขายดีเกินคาด เสื้อผ้าสไตล์ที่เขาชอบ กลับมีคนชื่นชอบมากเช่นกัน เขาเริ่มสนุกกับงานที่ทำ และจริงจังกับมันมากขึ้น
เขาเริ่มขยายกิจการให้ใหญ่ยิ่งขึ้น ออกแบบเสื้อขาขายจนกลานเป็นที่นิยม ธุรกิจนี้ทำเงินได้มากกว่าที่คิด จนกระทั่งเขามีเงินมากพอจะซื้อรถในฝัน ไม่นานเขาก็ได้รถ Porsche มาอยู่ในครอบครอง
ต่อมาเขาสร้างครอบครัว โดยมีภรรยาที่รักคอยสนับสนุนเขาทุกอย่างไม่ว่าจะทำอะไร ภรรยาแนะนำให้เขาหาซื้ออาคารเก่า ๆ สักหลัง เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ
เขาตัดสินใจทำตามที่ภรรยาแนะนำ เมื่อซื้ออาคารได้แล้วเขาก็ตกแต่งตามใจชอบ ให้ออกมาเป็นตัวตนของเขามากที่สุด ไม่นานอาคารนั้นก็กลายเป็นที่ชื่นขอบของคนที่ผ่านไปมา และกลายเป็นสถานที่ให้เช่าสำหรับการถ่ายทำภาพยนต์ และมันสร้างเงินให้เขาอีกมากเลยทีเดียว
เมื่อเขามีเงินมากพอ เขาจึงเริ่มสะสมคอลเลคชั่นรถคันโปรด ส่วนใหญ่แล้วเป็นยี่ห้อ Porsche รถใันฝันของเขา จากที้มีเพียงคันเดียว ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายสิบคัน
ปัจจุบันเขาเป็นนักออกแบบแฟชั่น และนักสะสมรถตัวยง เขานำรถคันโปรดไปจัดแสดงตามงานต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ Urban Outlaw และขายบางคันให้กับผู้ที่ต้องการในราคาที่แพงลิบลิ่ว
ทรัพย์สินเกี่ยวกับธุรกิจสะสมรถของเขามีมูลค่ากว่า 7.5 ล้านดอลลาร์ และนี่คือทรัพย์สินที่ไม่นับรวมกับรายได้ในส่วนอื่น ๆ คิดดูสิครับ ว่ามันมหาศาลแค่ไหน
จากเด็กที่ได้แต่ยืนมองรถราคาแพงโดยไม่มีเงินซื้อ ค่อย ๆ ปีนป่ายจนมีทรัพย์สินมากพอจะซื้อรถอีกกี่คันก็ได้
อย่าปล่อยให้ไฟในใจมอดไปจนหมดครับ มีเป้าหมาย แต่ไม่มีแรงบันดาลใจ ทุกอย่างก็จบ
อยากมีทุกสิ่งเหมือนที่ใจฝัน ค่อย ๆ สร้าง ค่อย ๆ เพิ่มมันทีละนิด สักวันต้องมีมากพอจนเติมเต็มทุกสิ่งได้อย่างแน่นอน
...เติมเชื้อเพลิงให้ใจ แล้วไฟแห่งความฝันจะไม่มีวันหมด...
โฆษณา