7 ก.ย. 2019 เวลา 00:29
แปรงสีฟันไฟฟ้า โฆษณา หรือ นวัตกรรม ?
รู้หรือไม่ว่า แปรงสีฟันไฟฟ้า ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 1927 หรือกว่า 92 ปีมาแล้ว
หลายคนเมื่อได้ยินคำว่า แปรงสีฟันไฟฟ้า จะต้องถึงกับส่ายหัวและปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย
บางคนถึงกับพูดว่า ไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย จะไปใช้มันทำไม
ถูกแล้วครับ แปรงไฟฟ้าถูกคิดค้นมาเพื่อใช้สำหรับคนพิการโดยเฉพาะ
แต่ในยุคปัจจุบัน ประโยชน์ของมัน อาจมีมากกว่าที่คุณคิด
มากจนอาจทำให้คุณเปลี่ยนใจมาใช้แปรงแบบนี้เลยก็เป็นได้
แล้วแปรงสีฟันไฟฟ้ามันมีดีอะไรกัน วันนี้บันทึกของฉันจะพาไปดู
แปรงสีฟันไฟฟ้าในยุคเริ่มแรกนั้นเป็นแบบมีสาย และใช้มอเตอร์ในการหมุนแปรงไปมา
โดยจะใช้แหล่งพลังงานจากไฟบ้าน ทำให้ค่อนข้างอันตรายถ้าหากนำไปใช้ในห้องน้ำ
ต่อมา ในช่วงต้นปี 90s เมื่อ UL ULC บริษัทด้านการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย ที่ทั่วโลกต่างพากันยอมรับ เริ่มทยอยตัดการรับรองอุปกรณ์ในห้องน้ำทุกชนิดที่ใช้ไฟบ้านออก
ส่งผลให้แปรงไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กต้องเจอกับปัญหา จึงถูกลดความนิยมลง และหายไปในที่สุด
แต่ทางออกนั้นมีอยู่เสมอ
แปรงไฟฟ้าแบบไร้สาย ถูกพัฒนามาก่อนหน้านั้นแล้วหลายปี
โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 60s บริษัท General Electric ได้เปิดตัวแปรงไฟฟ้าแบบไร้สายที่มีแบตเตอรี่อยู่ในตัว รวมถึงแท่นชาร์ตมาให้พร้อมเสร็จสรรพ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในยุคนั้น เทคโนโลยียังพัฒนาไม่ถึงขั้น แปรงสีฟันที่ออกมาจึงมีขนาดพอๆ กับไฟฉายโบราณ ที่เมื่อแปรงฟันที อาจทำข้อมือเคล็ดไปเป็นวัน
อีกทั้งแบตเตอรี่ที่ใช้ในตอนนั้นเป็นแบตเตอรี่แบบ นิกเกิล-แคดเมียม (Ni-Cd) ซึ่งทั้งขนาด และประสิทธิภาพนั้นไม่สามารถเทียบได้เลยกับแบตเตอรี่ในยุคปัจจุบัน
รวมถึงมีการโต้แย้ง ว่าการใช้มอเตอร์หมุนแปรงไปมา อาจทำให้ประสิทธิภาพและสุขภาพช่องปากแย่ลงกว่าเดิม
ต่อมาในปี 1992
Robert T. Bock ได้คิดค้นแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบใหม่ ซึ่งใช้คลื่น “Sonic wave” เป็นตัวทำความสะอาดฟันแทนการใช้มอเตอร์หมุนแปรง
Robert ได้ใช้ข้อดีของคลื่นสั่นสะเทือน เพื่อทำให้คราบพลัคหลุดออกจากฟัน โดยแปรงจะสั่นด้วยความถี่กว่า 20,000 ครั้งต่อนาที ซึ่งมากกว่าการใช้มอเตอร์ถึงเท่าตัว
ทำให้แปรงสีฟันประเภทนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนผู้คนเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย
แต่นวัตกรรมก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น
ในปี 2012
Robert ได้นำเทคโนโลยีที่สูงขึ้น มาใส่ในแปรงไฟฟ้าตัวใหม่ของเขา นั่นก็คือ “Supersonic wave” ซึ่งทำให้หัวแปรงสีฟัน สามารถสั่นด้วยความถี่ที่มากขึ้นกว่า 192 ล้านครั้งต่อวินาที ซึ่งมากกว่าการใช้ Sonic wave ถึง 9,600 เท่า
และข้อดีของ Supersonic wave สามารถทำให้แปรงสั่นแค่ในวงแคบๆ ได้ จึงทำให้มีการหมุนของชิ้นส่วนที่น้อยกว่ามาก ซึ่งส่งผลดีต่อเหงือกมากกว่าการใช้ motor และ sonic wave
ด้วยประสิทธิภาพที่สามารถเทียบเท่ากับการแปรงด้วยมือได้ รวมถึงความสามารถในการทำลายคราบพลัค ทำให้แปรงประเภทนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนในที่สุด ได้กลายมาเป็นพื้นฐานที่ใช้กันอยู่ในแปรงไฟฟ้าหลายยี่ห้อในปัจจุบัน
แล้วแปรงไฟฟ้ามีดีอย่างไร?
ข้อดีของแปรงไฟฟ้าอาจจะไม่ได้ทำให้หลายๆ คนรู้สึกอยากได้ จนควักเงินซื้อในทันที
แต่ถ้าคุณได้ลองใช้มันอย่างถูกวิธี คุณอาจจะวางมันไม่ลงเลยก็ได้
แปรงไฟฟ้าในปัจจุบันนั้น มีฟังก์ชั่นเยอะกว่าแต่ก่อนมาก
มีทั้งระบบวัดแรงกด ใช้สำหรับถนอมเหงือก ซึ่งจะเตือนเมื่อกดแปรงแรงเกินไป
ทั้งนาฬิกาจับเวลา คอยเตือนว่าแปรงฟันซี่นั้นนานพอหรือไม่
อีกทั้งเป็นการประหยัดแรง ออกแรงน้อย แต่ได้ผลเยอะ
ซึ่งเหมาะมาก กับผู้ที่แปรงฟันแรงเป็นกิจวัตร หรือ ผู้สูงอายุที่แรงน้อย แปรงไม่ค่อยไหว
โดยในปัจจุบัน แปรงสีฟันไฟฟ้ามีราคาถูกลงกว่าเดิมหลายเท่า เริ่มในช่วงราคาหลักพันต้นๆ ก็สามารถซื้อแปรงไฟฟ้าแบรนด์ดังได้แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันทำตลาดของแต่ละยี่ห้อ
ซึ่งสุดท้ายแล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงที่สุด ก็คือ ผู้บริโภคนั่นเอง..
รู้หรือไม่?
ถ้าคุณไม่แปรงฟันอย่างถูกวิธี ไม่ว่าแปรงไฟฟ้า หรือแปรงธรรมดา ก็ไม่สามารถป้องกันคุณจากโรคต่างๆ ในช่องปากได้
และ การใช้ยาสีฟันแบบผงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจมีผลทำให้ผิวเคลือบฟันบางลงและเสียวฟันได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติขัดผิวเคลือบฟันสูงกว่ายาสีฟันแบบปกติ
โฆษณา