6 ก.ย. 2019 เวลา 20:18
บันทึกช่วยจำ...ครั้งที่ 1 😊
นานมากแล้วที่เราไม่ได้ไปเที่ยวผับ...ด้วยช่วงอายุ 34-35..เรารู้สึกการเที่ยวผับเป็นสิ่งที่น่ากลัว 😢
โดยพื้นฐานแล้วเราเป็นคนชอบสนุกสนาน...มีดนตรีในหัวใจชอบร้องชอบเต้น...แต่ครั้งนี้...มันสอนเราว่าเราไม่เหมาะกับสถานที่แห่งนี้...
...เรานัดกับรุ่นพี่และรุ่นน้องเพื่อที่จะไปนั่งฟังเพลง..พูดคุยกัน..แลกเปลี่ยนชีวิตการทำงาน...มีพี่คนนึงถามเราว่า..ไม่ดื่มเหล้าหรอ??? เราตอบวันนี้..วันพระ...ถือศีลห้าคะ...ปกติเราก็ถือศีลห้าอยู่แล้ว...แต่ถ้ามีงานเลี้ยง. ศีลข้อห้า..คือข้อเดียวที่เราจะผิด..เราคิดแบบนั้น..พี่เขาก็ทำหน้าแบบงุนงง...และพูดมาว่า...มันเป็นกิจของสงฆ์...เราก็รู้สึกเฉยๆ..เพราะเราถือว่าเราทำแล้วสบายใจและไม่ได้ให้ใครเดือดร้อน...อีกอย่างเสียงดนตรีมันดังด้วย เลยทำให้ไม่ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่เขาพูดมากนัก...เราเป็นคนสนุก..ร้องได้ เต้นได้. แม้ไม่ได้ดื่มแอลกฮอล์..คนที่สนิทกับเราจริงๆ..เขาจะรู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง คล้ายๆ. คนเมา..แต่แค่เราต้องการผ่อนคลาย..และสนุกสนาน...กังมีคำพูดที่ว่า...”ไม่ได้ชอบดื่มสุรา...แต่ชอบบรรยากาศในการร่ำสุรา”
...จนมาถึงการเข้าผับ...เราก็ยังดื่มน้ำเปล่า...แต่ค่าใช้จ่ายหารเท่ากัน..เรารู้สึกยินดี..เพราะเราชอบบรรยากาศเสียงเพลง...และดนตรีสด...เราเต้นไปเต้นมา...อ๋อต้องบอกก่อนเราเป็นคนใช้พื้นที่เยอะในการเต้น...แต่วันนี้...คือมีผู้ชายมาร่วมวงด้วยแต่เราไม่สนิทหมดทุกคน..เราก็วางตัวนิดนึง...จนมีคนเต้นมาเหยียบเท้าเรา...อารมณ์ตอนนั้น...คือเจ็บมาก...ข้อดีของการเที่ยวกลางคืนตอนหัวค่ำ...คือ ทุกคนจะมีมารยาท...ผู้ชายคนนั้นรีบขอโทษเราใหญ่...เราไม่รู้สึกโกรธเพราะมันเป็นอุบัติเหตุ...แต่เราเจ็บเท้ามาก....เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ...ตอนนั้นได้ยินเสียงเด็กสาวคุยกันในห้องน้ำให้รีบออกมาเร็ว...เดียวจะหมดเวลาสนุกแล้ว....เรายกนาฬิกาข้อมือมาดู...00:48 น....สำหรับเราระยะเวลาอีกนานกว่าผับจะปิด...เราพยายามฆ่าเวลาด้วยการเล่นมือถือ...แต่มันก็แสบตามาก...เลยเดินออกมา...ในห้องน้ำเราเห็นคนอ้วก..เราเห็นคนเสียงดังโวยวาย...เราเห็นผู้ชายที่มายืนเฝ้าผู้หญิงหน้าห้องน้ำ...มันทำให้เรารู้สึกคิดขึ้นมาในใจว่า...สมัยเราเป็นวัยรุ่นเราเป็นแบบนี้ หรือเปล่าว่ะ?? สุดท้าย...ท้ายสุด ผับเลิก...เรารีบจับมือพี่ผู้หญิงคนนึงที่ไปด้วยกันและมาคนเดียวกลับมาที่รถ...ลิฟท์เต็ม...มีคนเมา...หามปีก...แต่ที่สำคัญ...น่าอนาจและเวทนาคือ...ผู้หญิงที่เมาคนนั้นไม่ได้ใส่เสื้อ...ผู้ชาย 3-4 คน. หิ้วปีก. เอาเสื้อคลุมตัวโอนเอน...ไม่ได้สติ...เรามองแล้วนึกสะท้อนในใจ....เราจำเป็นต้องกินให้เมาขนาดนี้เลยหรอ ??? แล้วคุณค่าในตัวเรามันอยู่ตรงไหน??? กินได้เที่ยวได้...แต่ต้องดูแลตัวเองได้ด้วยนะคะ...จนเรา 2 คนมาขึ้น...ที่ลานจอดรถ...มีเสียงดังโวยวาย...คล้ายๆจะมีคนมีเรื่องกัน....นี้คือ...ข้อเสียของการเที่ยวกลางคืน..เราแยกกันกับพี่แล้ว..เหตุการณ์นี้มันทำให้เราจำขึ้นใจ...เรารีบขึ้นรถ..ปิดประตู..ล็อครถ...และนั่งตัวแข็งในรถไม่กล้าขยับรถ...กลัวโดนลูกหลง...มีปืนหรือเปล่า ??? ก็ไม่รู้..ถ้ามันยิงมาล่ะ...เราจะทำยังไง???ตอนนั้นเอง...เราปฏิญาณกับตัวเองว่าเราจะไม่มาเที่ยวผับแบบนี้อีกแล้ว.....เรากลัว!!!....สถานที่แบบนี้..มันคงไม่เหมาะกับเรา....
บันทึกเรื่องนี้....ช่วยให้จำได้ว่า.....
แก่แล้วววสวดมนต์นอนอยู่บ้านเถอะ...🥳🥳
โฆษณา