7 ก.ย. 2019 เวลา 05:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Crack the RNA Code :: Part 1
อนุสนธิที่เรียบเรียงเรื่อง " Crack RNA Code by Meditation" นี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ได้บรรยายให้ความรู้คณาจารย์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักวิชาการแพทย์ และประชาชนส่วนใหญ่ที่ใฝ่รู้ ได้ใช้ข้อมูลเป็นแนวทาง ในการค้นคว้า พัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และการปฏิบัติรวมทั้งขจัดข้อสงสัย ในหมู่นักวิชาการสมัยใหม่ ที่ยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งในธรรมะของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธองค์ ที่ได้ทรงเผยแผ่สั่งสอนไว้เมื่อเกือบ 3000 ปีก่อนนั้น ล้ำหน้าทันสมัยยิ่งกว่าศาสตร์ใด ๆ ในยุคปัจจุบันจะสามารถค้นคว้า และเข้าถึง จึงเผยแผ่เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ สืบไป
เนื้อหาของเรื่องนี้จะเรียกว่าเป็น Revelution of Meditation Source ก็ว่าได้ เพราะสามารถนำไปเทียบเคียง พัฒนาต่อยอดในการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงแก้ไข ทั้งพฤติกรรม ชีวิต รวมทั้งการพิสูจน์ทราบเรื่อง "บุญ บาป และกฎแห่งกรรม" ในทางพุทธศาสนา นั้น ไม่ได้ล้าหลังอย่างที่ใคร ๆคิดแต่ตรงกันข้าม ความก้าวหน้าไม่ใช่เพียงเป็นทฤษฏีที่อยู่ในหนังสือแต่เป็นสิ่งที่จับต้อง สัมผัส และพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
เนื่องจากเรื่องนี้มีเนื้อหาสาระ ข้อมูลทางวิชาการมาก ดังนั้นจึงจะPost ให้ได้ศึกษากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจศึกษาค้นคว้า และติดตาม ........ เชื่อมั่นว่า เกือบทุกท่านที่อ่านอยู่นี้ จะต้องได้เคยผ่านตา ผ่านหูกับประโยคทั้งภาษาบาลี และไทยที่ว่า "กมฺมุนา วตตี โลโก....สัตว์โลกทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามกรรม"
คำถามของผู้สงสัย ก็ต้องมีว่า "กรรม(Kama)" ในเชิงวิทยาศาสตร์คืออะไร ? จับต้องได้ไหม ? ถ้าผู้ที่เพียง แต่ศึกษาจากตำรา ท่องจำ ตามกันมาก็อาจจะมีอารมณ์ ฉุน ที่เป็นอาจารย์สอนปฏิบัติ ก็อาจของขึ้นเอาง่าย ๆเพราะไม่รู้จะตอบยังไง ? นี่แหละคือประเด็น ที่การเผยแผ่ไม่ก้าวหน้าเพราะการปฏิบัติค้นคว้า ของเรายังไปไม่ถึง
"กรรม" บาลี เขียนว่า "กมฺม" เป็นสิ่งที่ติดมากับชีวิตของสรรพสัตว์เปรียบง่าย ๆ เหมือน เม็ดมะม่วง มีกลิ่น รส ผิว ต้น ช่อดอก ใบ ราก แก่น ฯลฯสารพัด ได้ถูกกำหนดไว้ในเม็ดมะม่วงเรียบร้อยแล้วไม่ว่าเม็ดมะม่วงนั้นจะแห้งขนาดไหน เอาไปปลูกมันก็เป็นมะม่วงไม่มีวันกลายเป็น มะละกอ หรือมะพร้าวไปได้ เมื่อครบกำหนดก็ผลิดอก ออกผลรสชาติ ก็เป็นมะม่วง เพราะมันเป็น มะม่วงเม็ดมะม่วง บรรจุชีวิตต้นมะม่วงไว้ครบครัน เรียกว่า "สายพันธุ์"
มนุษย์เราก็เช่นกัน ชีวิตของทุกรูปนามได้ถูกกำหนดไว้ เหมือนเม็ดมะม่วงป่วยเป็นอะไร เจ็บด้วยโรคแบบไหน ? ตาย อายุเท่าไร ? สิ่งเหล่านี้พระบาลีเรียกว่า "กมฺมพนฺธุ"สิ่งที่กล่าวนี้ เรียกทางอภิธรรมว่า "วิบาก" ซึ่งจะติดมาเมื่อเริ่มมี "ชีวิต" และวิบากนี้แหละที่เปรียบได้กับ "รหัสชีวิต" ของแต่ละคนดังมีพระบาลีว่า "สัตว์ย่อมจำแนก แตกต่างกัน ด้วยกรรม"
"กรรม" หรือ "วิบาก" นี้ จะแยกเป็นสองส่วน คือ กุศลวิบาก(บุญ)จะส่งผลในด้านเจริญ สูงส่ง กับ อกุศลวิบาก(บาป) จะส่งผลให้เลวทราม ต่ำช้าหาความเจริญไม่ได้ ดังนั้น "วิบาก" จึงเป็นตัว "รหัสชีวิต"
Kuru Rin Po Chae
ตามหลักพุทธศาสนาคำว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม...." นั้น หมายถึงสัตว์โลกที่ไม่ได้ปฏิบัติชอบ หมายถึงผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกทาง ก็ต้องเป็นไปตามกรรม ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แต่ผู้ที่ปฏิบัติชอบตามแนวทางแห่ง "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค"สามารถอยู่เหนือกฎแห่งกรรม เพราะสามารถที่จะเปลี่ยน "วิบาก"อันเป็นรหัสชีวิตได้ดั่งปรารถนา
ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ การส่งผ่าน "รหัสชีว" จะส่งผ่านทาง RNA เพื่อนำไปบันทึกถาวรไว้ใน DNA อีกต่อหนึ่งตรงนี้แหละ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบหนทางที่สามารถ "ปรับเปลี่ยนรหัสRNA=Decode RNA" ได้ ก่อนที่จะถูกส่งไปบันทึกอย่างถาวร เป็นรหัสพันธุกรรม ใน DNA
ตอนต่อไป เราจะมาศึกษากันว่า RNA ทำหน้าที่อย่างไร ? และ มีแนวทางปฏิบัติแบบไหน จึงจะสามารถ เปลี่ยน-ถอดรหัส(DeCode) ของ RNA ได้
ศึกษา ค้นคว้า ตอนที่ 2 :::: https://www.blockdit.com/articles/5d73433fb696d12708be1e36/#
โฆษณา