9 ก.ย. 2019 เวลา 08:55 • ไลฟ์สไตล์
วันนี้มิสแทมแทมมีข่าวล่าสุดกรี๊ดมาบอกต่อให้กับชาว Jewel Loverค่ะ อาจจะทำให้ชาว Jewel Lover ที่เป็นสายแฟชั่นตัวแม่ด้วยตื่นเต้นก็เป็นแน่ เพราะวันนี้มิสแทมแทมจะมาพูดถึงแบรนด์แฟชั่น Hi-End ระดับโลกที่เหล่าสาวกแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกกรี๊ด อย่างแบรนด์ GUCCI แบรนด์เนมระดับโลกที่มักปรากฏคอลเลคชั่นสุดเก๋มากมายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า แอ๊กเซลเซอรี่ รวมไปถึงเครื่องสำอางค์ และเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ GUCCI เลยก็ได้ค่ะ กับการเปิดตัว Boutique Hi-Jewelry แห่งแรกที่ Place Vendome, Paris ซึ่งเป็นย่านจิวเวลรี่ลักชัวรี่ของโลก และในการเปิดตัวครั้งนี้ก็มาพร้อมกับ “Hortus Deliciarum” ไฮจิวเวลรี่คอลเลคชั่นแรกของแบรนด์
Gucci
คอลเลคชั่น “Hortus Deliciarum” เป็นคอลเลชั่นที่ได้มีการออกแบบมาจากแรงบันดาลใจมาจากสวนในตำนานจากหนังสือ Garden of Delight คือ ตำนานของสวนอีเดน (Garden of Eden), อาร์เคเดีย (Arcadia)และ ซานาดู (Xanadu) ซึ่งการใช้แรงบันดาลใจนี้ยังคงสะท้อนถึงความเป็นตัวตนและจินตนาการเพ้อฝันที่เป็นวิสัยทัศน์หลักของแบรนด์ GUCCIโดยการดีไซน์ของเครื่องประดับเป็นแนว Maximalism Styleผสมผสานกับ Baroque Roc coco Style เข้าด้วยกัน
โดยเครื่องประดับคอลเลคชั่น “Hortus Deliciarum” มีการแบ่งออกเป็นสามธีมหลัก โดยธีมแรกคือ ธีม “Eternal Symbols of Love” ที่ตัวเครื่องประดับจะมีการสื่อถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งนางเอกของเครื่องประดับธีมนี้คือ ตัวเม็ดอัญมณีสันสดใสที่ถูกคาดด้วยตัวเรือนที่ถูกดีไซน์มาเป็นรูปลูกศร เปรียบเสมือนเป็นลูกศรจากเทพเจ้าคิวปิด ซึ่งทาง GUCCI ได้บอกมาด้วยนะคะว่าเครื่องประดับธีมนี้เป็นการดีไซน์แบบ “Dis-cordant symmetry”
Gucci
ธีมที่สองคือ ธีม “Animal Kingdom” ซึ่งเครื่องประดับในธีมนี้เรียกว่าเป็นการปลุกเหล่าสัตว์ในตำนานให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง อาทิ “งูยักษ์อุโรโบรอ”ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และสติปัญญา “สิงโต” ที่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง “เสือ”เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และผองสัตว์อีกหลายชนิดที่มาเติมเต็มโลกแห่งอัญมณีให้กับ GUCCI ในธีมนี้
ธีมสุดท้ายคือ ธีม “Solitaire” โดยเครื่องประดับจะมีลักษณะเป็นพลอยเม็ดเดียวประดับตรงกลางโชว์ความโดดเด่นของเม็ดพลอย ตัวเรือนมีลูกเล่นการดีไซน์และทำออกมาให้ดูมีความโบราณสไตล์รอคโคโค ทำให้เครื่องประดับชิ้นนั้นดูเหมือนเครื่องประดับชิ้นเก่าแก่ที่เป็นสมบัติตกทอดมาตั้งแต่หลายชั่วคน
Gucci
ทั้งนี้เครื่องประดับคอลเลคชั่นนี้ทุกชิ้นถูกผลิตขึ้นโดยช่างฝีมือชาวอิตาลี่ โดยตัวอัญมณีนำมาใช้ยังผ่านการรับรองจากหน่วยงานระดับโลกและทองยังต้องผ่านมาตรฐาน Kering Responsible Gold Framework ราคาขายต่อชิ้นอยู่ที่ 50,000-800,000 ยูโรค่ะ
โฆษณา