Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
9sam stark
•
ติดตาม
10 ก.ย. 2019 เวลา 09:05 • ข่าว
ด่วนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว รัฐบาลเพิ่มภาษีหวาน-เค็มฉลองดีเดย์!!!
กรมสรรพสามิตร เตรียมปรับดีเดย์ 1 ตุลาคม 2562 ก็คือ 1 ตุลาคมปีนี้นะครับ
เมื่อวานนี้คุณณัฐกร อุเทนสุต รองโฆษกกรมสรรพสามิตบอกนักข่าวว่า
เดี๋ยวมีข้อมูลนะ ว่าจะจัดเก็บภาษีความหวานเริ่ม 1 ตุลาคมนี้ จะมีภาษีถูกเก็บเพิ่มแน่นอน....
ซึ่งทุกคนครับ ปัญหามันก็จะถูกผลักไปเป็นภาระของผู้บริโภค
“ ก็คือไปรวมอยู่ในราคาของน้ำหวานน้ำอัดลมเป็นที่เรียบร้อย”
อัตราความหวานที่จะเก็บเพิ่มในวันที่ 1 ตุลาคมนี้เนี่ยก็จากเดิมเก็บอยู่ที่ 50 สตางค์ถ้ามีน้ำตาล 10 ถึง 14 กรัมหรือ 10 ถึง 14 เปอร์เซ็นต์เก็บเพิ่มเป็น 1 บาท หลังจากนี้จะเก็บเพิ่มเป็นขั้นบันไดทุก 2 ปี นั่นแปลว่า 1 ตุลาคม 64 ก็จะเก็บเพิ่มเป็น 3 บาท 1 ตุลาคม 66 เพิ่มเป็น 5 บาทครับผม!!
คุณณัฐกร อุเทนสุต
เมื่ออัตราขึ้นเป็นขั้นบันได ภาระอยู่ที่เราคนซื้อครับ
ซึ่งตามที่เห็นในท้องตลาดก็ขึ้นราคากันไปแล้วนะครับ ส่วนใหญ่ขึ้นนำไปก่อนแล้วแต่มีบางส่วนก็ยังไม่ได้ขึ้นตามแหล่งข่าวบอกว่าผู้ประกอบการเขายังไม่กล้าลดความหวานเพราะกลัวว่ารสชาติมันจะเปลี่ยน
.
ดังนั้นในเมื่อเขาคงความหวานไว้ก็ต้องขึ้นภาษีแบบนี้ ภาระก็จะมาอยู่ที่พวกเราเดี๋ยวดูการปรับตัวของผู้ประกอบการว่าเขาจะลดความหวานเหล่านี้ลงมั้ยนะครับเพราะว่าจะเก็บเป็นอัตราขั้นบันไดไปเรื่อยๆทุก 2ปี
และยังไม่จบ
นอกจากภาษีความหวาน กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอไปยังรัฐบาลจัดเก็บภาษีความเค็มครับผม สวดไว้อาลัยล่วงหน้าเลยทีเดียวเชียว
.
โดยที่กรมสรรพสามิตบอกว่าเป็นห่วงสุขภาพของพี่น้องประชาชนกินเค็มไปกินหวานไปเนี่ยมันไม่ดี…
แล้วก็จะได้รองรับสังคมผู้สูงอายุด้วย…
.
แนวทางของภาษีความเค็มก็จะเหมือนภาษีความหวานนั่นแหละครับคือการกำหนดปริมาณเกลือหรือว่าโซเดียมที่อยู่ในสินค้าต่างๆอย่างเช่นขนมอาหารกึ่งสำเร็จรูปจะดูจากปริมาณเกลือที่เราควรบริโภคต่อวัน
ต่อวันเนี่ยตัวเลขมันไม่ควรเกิน 2000 mgครับ
เอาตัวเลขนี้เป็นตัวตั้งและความเค็มนะครับ แล้วก็เอามาเข้าศูนย์ว่าสินค้าแต่ละประเภทควรจะมีปริมาณโซเดียมผสมเท่าไหร่ยิ่งคุณมีโซเดียมมากก็จะต้องเสียภาษีแพง ถ้ามีโซเดียมน้อยเสียภาษีถูกอย่างนี้เป็นต้น
.
มันก็จะเหมือนกับภาษีความหวานเลยนะครับน้ำตาลเยอะเสียภาษีมาก น้ำตาลน้อยก็เสียภาษีน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเก็บภาษีความเค็มท่านอธิบดีกรมสรรพสามิตบอกว่าจะไม่เก็บจากเครื่องปรุงนะครับผม อย่างเช่นถ้าเป็นเกลือ เป็นน้ำปลา เป็นซีอิ๊ว มันมีส่วนผสมของโซเดียม จะไม่เก็บ แต่ที่เก็บจะเป็นประเภทของอาหารขนมอาหารกึ่งสำเร็จรูปครับ เดี๋ยวตามกันดูต่อไป
จอบอ
ตายหมู่ละมึงเอ๊ยพี่น้อง
คืองี้ครับที่มาที่ไปที่เขาเร่งเก็บกันเนี่ยนะข่าววงในตัวนึงผมไม่ได้มาเล่าคือช่วงวันที่ 29 เดือนที่แล้วครับ รัฐบาลสุดที่เลิฟของเราเนี่ย
เขาให้สำนักงบประมาณออกมาชี้นะครับว่า ถ้าหากรัฐบาลทำตามที่พรรคร่วมรัฐบาลได้หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้เนี่ย ถ้าทำตามนโยบายต่างๆที่หาเสียงไว้ทั้งหมดงบประมาณปี 63 ไม่พอแน่นอน เพราะสิ่งที่หาเสียงไว้ใช้งบเยอะเกิ๊น ไม่พอหรอก
วันนั้นครับ TDRI เขาเลยปิ๊งป่องออกมาแนะนำวิธีแก้ปัญหากัน🤝
นั่นก็คือต้องเก็บภาษีเพิ่มไปโปะงบประมาณสิ แหม่ๆผมฟังรุ่นพี่เล่าตอนนั้นแล้วก็สะดุ้งนิดนึง🙄
โดยคุณนนท์ฤทธิ์ นามสกุลอะไรสักอย่างนี่แหละจำไม่ได้ เขาเป็นนักวิชาการอาวุโสสถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาประเทศไทยหรือTDRIบอกว่าการเก็บภาษีเพิ่มก็มีแนวทางมาให้ด้วยนะ เอาป่าวหล่ะ
.
แนวทางที่ 1 เน้นเก็บภาษีจากคนรวยก่อนเลย อย่างเช่นภาษีที่ดิน ภาษีมรดกซึ่งสิ่งเหล่านี้เนี่ยภาษีหมวดนี้กฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วรอประกาศใช้บังคับ ใช้อย่างจริงจังก็เดี๋ยวดูว่าจะได้รายได้เข้ามามากน้อยขนาดไหนเน้นเก็บคนรวยก่อน
แนวทางต่อไปโดนมาที่เราแล้วครับ เพราะมันจะขยายฐานภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อปิดช่องว่างการเลี่ยงภาษีนำเทคโนโลยีที่มีอยู่เอามาใช้อย่างเต็มที่ในการปิดช่องว่างของคนที่เลี่ยงภาษี “แล้วเก็บให้ได้มากที่สุด”ขยายฐานภาษีบุคคลธรรมดา
นอกจากนี้ยังเสนอเพิ่มเติมครับว่าอาจจะไปเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม VATถ้าเพิ่มVAT นี่คือข้าวของเครื่องใช้เครื่องจะแพงขึ้นเพราะว่าVAT อยู่ที่ 7 % กันอยู่แล้วในปัจจุบัน TDRI บอกว่าญี่ปุ่นก่อนหน้านี้เขาก็ 7% ตอนนี้เขาเพิ่มเป็น 10% แล้วนะ เราก็สามารถเพิ่มภาษีVAT ตามเขาได้...
นอกจาก VAT แล้วก็ยังแนะนำว่าอาจจะมีการเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตในกลุ่มสินค้าต่างๆเน้นเป็นคนรวยก่อนเลยอย่างเช่น พวกเรือยอร์ช รถยนต์นำเข้าราคาแพงๆภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างนี้เป็นต้น TDRI ออกมาแนะนำวันนั้นแล้วก็เดี๋ยวรอกระทรวงการคลังว่าจะปรับใช้รึเปล่า
จนถึงวันนี้นับรวมเวลาได้ก็ผ่านมาเกือบๆสัปดาห์
ข่าวความหวานความเค็มที่ผมพึ่งเล่าก็ดูเหมือนกับว่า เราเตรียมตัวตุนมาม่าบิ๊กแพ็คได้แล้วนะครับผม
จอบอ
จบการเล่าแบบเพลียๆ รู้สึกว่าเงินในกระเป๋ามิปลอดภัยในยุคนี้ เศรษฐกิจดีแบบตูบๆ
.
ขอมีการแสดงความเห็นส่งท้ายนิดหน่อยละกันครับ
ในมุมประชาชนผู้เสียภาษีเราต่างก็มีเฮกันเลยทีเดียวเชียว เพราะนโยบายแต่ละอันไม่บรรเทิงก็บรรลัยหล่ะครับงานนี้
อยากจะบอกว่าหรับผมได้ยินข่าวก่อนคนทั่วไปทั้งที
ความหวานแทบไม่มี มีแต่ความขมแล้วครับ ขมมันทุกอย่างเลย..ประเทศไทย!!
น้ำหวานขึ้นราคา ยาบ้าถูกลง
ลองท่านมารับเงินเดือน12,000 แบบเด็กจบใหม่ดูครับ ท่านจะรู้ว่าเศรษฐกิจมันแย่หรือเงินเดือนมันน้อยไป
เอาจริงนะไม่รู้ว่าเขาห่วงสุขภาพหรือห่วงไม่มีตังเข้ากระเป๋าตัวเองครับ
อย่างไรก็ตามอย่ามาเก็บความรัก หวานๆของผมที่มีให้ลูกเพจละกัน☻
(ขออภัยในความตะบันพิมพ์แบบใช้อารมณ์)
I’m sam
3 บันทึก
55
20
16
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Niche news
3
55
20
16
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย