10 ก.ย. 2019 เวลา 23:23 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เปิดตัวไอเทมใหม่ Apple Special Event! เหมือนหรือต่างจากข่าวลือ?
apple.com
งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ของ Apple ที่หลายคน ตั้งหน้าตั้งตารอคอย เก็บเงิน เพื่อสอยไอเทมใหม่
โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่ Apple ไม่เพียงแต่ ถ่ายทอดเฉพาะบน หน้าเว็ป apple.com หรือ Apple TV แต่ได้ทำการ Live Steam ลงในช่อง Apple บน Youtube เพื่อให้ทุกคนได้ติดตามรับชม พร้อมกันทั่วโลกกันอีกด้วย
เริ่มกันที่สรุปข่าวลือ ที่หลายต่อหลายสำนักมีการคาดเดา(พร้อมหลักฐาน) กันต่างๆ นานา
1. เปิดตัว iPhone 11 (6.1 นิ้ว), iPhone Pro (5.8 นิ้ว) และ iPhone Pro Max (6.5 นิ้ว) โดยมีกล้องหลัง ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบไปด้วย 3 เลนส์ (เลนส์ซูม 12 ล้านพิกเซล , เลนส์ Wide 12 ล้านพิกเซล และ เลนส์ Super Wide 12 ล้านพิกเซล) หน้าจอยังคงมี Notch เหมือนเดิมพร้อมอัพเกรด FaceID , Port ยังไม่เปลี่ยนเป็น Type-C ยังคงใช้ Lightning , Reverse Wireless Charging , Logo Apple หลังเครื่อง เปลี่ยนตำแหน่งใหม่ , Apple A12X อัพเกรดจากรุ่นเก่า และเปิดตัว iOS 13
2. Apple Pencil สำหรับ iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max เท่านั้น
3. AirPods 3 อัพเกรด Noise Canceling โดยมีสีดำมาใหม่
4. Apple Watch Series 5 พร้อมการเปิดตัว WatchOS 6
5. iPad รุ่นใหม่ 10.2 นิ้ว พร้อมการเปิดตัว iPadOS
6. Apple Tracker
7. Macbook Pro ขนาด 16 นิ้ว หน้าจอ 3072x1920
มาดูกันครับว่างานในปีนี้ จะเหมือนหรือต่างกับข่าวลือที่หลุดออกมา มากน้อยขนาดไหน
จะขอไล่ตามลำดับใน Event นะครับ เริ่มด้วย
1) Apple Arcade
หลังจากการเปิดตัวไปเมื่อคราวที่แล้ว วันนี้ Apple มาประกาศวันเปิดให้ใช้งาน Arcade Game วันที่ 20 กันยายน นี้
ซึ่งหน้า Arcade Game Tab จะอยู่ใน Appstore โดย จะมีมากกว่า 100 เกมส์ ในตอนนี้
ราคาเหมาจ่ายรายเดือนอยู่ที่ $4.99 สำหรับทั้งครอบครัว สามารถทดลองใช้ได้ฟรี 1 เดือน
apple.com
2) Apple TV+
เช่นกันกับ Apple Arcade , Apple ประกาศเปิดให้ใช้งาน Apple TV+ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน นี้
โดยหนัง/ ซีรีย์ ที่สร้างโดย Apple Original จะมีเข้ามาทุกเดือน
เหมาจ่ายรายเดือน เช่นกัน ที่ราคา $4.99 (99 บาท) ทั้งครอบครัว เท่านั้นยังไม่พอ หากซื้ออุปกรณ์ Apple ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Macbook ,iPhone ,iPod touch, iPad หรือ Apple TV ก็แถมฟรีให้ไปเลย ดู Apple TV+ ฟรี 1 ปีเต็ม
apple.co.th
3) iPad 7th Gen
เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ Generation 7 หน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว Retina display ที่ความละเอียด 2160x1620
มาพร้อมกับ ipadOS โดยผลิตจาก Recycled Aluminum 100%
มีให้เลือก 3 สีเช่นเคย ได้แก่ เทาสเปซเกรย์ เงิน และทอง
โดยราคาเริ่มต้นที่ WiFi 32GB 10900 บาท,WiFi 128GB 13900 บาท สามารถสั่งตอนนี้ได้เลย โดยเริ่มส่งมอบตั้งแต่ 30 กันยายนเป็นต้นไป ครับ
apple.com
4) Apple Watch Series 5
Apple Watch Series 5
เปิดตัว Apple Watch Series 5 รูปทรงและขนาดเหมือนเดิมกับ Series 4
แต่เพิ่มเติม 3 Features หลัก ได้แก่
• New Always-On Retina display ซึ่งจะเป็นการลดแสงลงเฉยๆ จากที่แต่ก่อน จะดับหน้าจอไปเลย ต้องพลิกข้อมือขึ้นมาดู ซึ่ง Apple ใช้ เทคโนโลยี LTPO โดยเทคโนโลยีนี้จะทำให้ Refresh rate ของหน้าจอจาก 60Hz เป็น 1Hz ช่วยประหยัดพลังงานขณะ Always-on ครับ
• Built-in Compass หรือ เข็มทิศ เข้ามา ทำให้ เราสามารถดู ทิศได้จาก Apple Watch เลย สามารถใช้งานได้ หลาย Application
• อย่างถัดมาคือ ในรุ่นของ Apple Watch ที่เป็น Cellular จะสามารถโทร International Emergency Calling โดยที่ ไม่มี iPhone ได้เลย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ขณะอยู่ต่างประเทศ
ตัว Apple Watch ก็ผลิต จาก 100% Recycled Aluminum เช่นกัน และมีวัสดุใหม่ด้วย ซึ่งก็คือ Titanium
สามารุถซื้อได้ตั้งแต่ 20 กันยายน นี้ เป็นต้นไป เสนอราคาอยู่ที่ $399 สำหรับ GPS และ $499 สำหรับ รุ่น Cellular และทำการปรับลดราคา Series 3 เหลือ $199
apple.com
5) iPhone 11
Apple เปิดตัว iPhone 11 ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ด้านหน้ามี Notch เหมือนเดิม เป็น Liquid Retina display ใส่ Dolby Atmos ช่วยในเรื่องเสียงที่ดีขึ้น
มีกล้อง Dual Camera (Wide และ UltraWide) ได้มุมรูปกว้างขึ้น โดยภาพไม่แตกมี Smart HDR, Portrait ระยะใกล้ และ Nightmode ที่ช่วยในการถ่ายภาพในที่มืด สามารถ ถ่าย Video 4K 60FPS มีเพิ่ม QuickTake คือการที่เวลาเรากดถ่ายรูป กดปุ่มถ่ายค้างไว้จะเป็นถ่ายวีดีโอเลย จากแต่ก่อนจะเป็น ถ่ายรัวๆ
กล้องหน้า 12 TrueDepth Camera , 4K 30FPS , Slow-m ชิพ A13 Bionic แรงกว่าเจ้าไหนๆ ทั้ง CPU และ GPU Battery อยู่ได้นานขึ้นกว่า iPhone XR 1 ชั่วโมง
มีให้เลือก 6 สี (ม่วง เหลือง เขียว ดำ ขาว แดง) ราคาเริ่ม ต้นที่ $699
apple.com
6) iPhone 11 Pro (5.8 นิ้ว) และ iPhone 11 Pro Max (6.5 นิ้ว)
เปิดตัว iPhone 11 Pro ดีไซน์ ข้างหลังเป็นกระจก ขอบทำจากสแตนเลส มี สี Midnight Green , Space Grey , Silver , Gold
หน้าจอมีชื่อเรียกว่า Pro Display (Super Retina XDR) ใช้ชิพ A13 Bionic ซึ่งพัฒนาประสิทธิภาพหลักๆ 2 ด้านได้แก่ Machine Learning (ประมวลผลเร็วขึ้น 6 เท่า / 1 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) และ Low Power Design (เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร gen 2 ใช้ทรานซิสเตอร์ 8.5 พันล้านตัว)
ทางด้าน Battery ตัว 11 Pro แบตนานขึ้นกว่า XS 4 ชั่วโมง และ 11 Pro Max นานขึ้นกว่า 5 ชั่วโมง โดยมี Fast Charge Adapter มาให้ภายในกล่องด้วย
ตัวกล้องเรียกว่า Pro Camera ประกอบไปด้วย
•12 MP Wide Camera 26 mm f/1.8
•12 MP Telephoto camera 52mm f/2.0 และ
•12 MP Ultra wide camera 13mm f/2.4 120 องศา
มี Deep Fusion ที่ช่วยในการถ่ายภาพโดยมันจะถ่ายภาพทั้งหมด 9 รูปใน 1 Shot ก่อนหน้าจะกด 4 รูป และ หลังอีก 4 รูป โดยเทคโนโลยี Neural Engine จะช่วย Optimize รูปให้ออกมาดีที่สุด
ราคาเริ่มต้นที่ $999 สำหรับ iPhone 11 Pro และ $1099 สำหรับ iPhone 11 Pro Max เริ่มสั่งได้ตั้งแต่วันศุกร์ และส่งมอบ 20 กันยายนนี้ครับ พร้อมกันนี้ ก็ ทำการปรับลดราคา iPhone8 เหลือ $449(15900 บาท) และ iPhone XR $599(21900 บาท)
apple.com
TechGuy รายงาน
หากชอบ กดไลค์ กดติดตาม TechGuy
เพื่อรับข่าวสารและเทคโนโยี
ส่งตรงถึงมือคุณ นะครับ
โฆษณา