12 ก.ย. 2019 เวลา 05:42
สอนลูกแบบ SAME!!!!
ในปัจจุบันมีการสอนเด็กเล็กด้วยหลักสูตร SAMEตามสถาบันการศึกษาบางแห่งหรือตามห้างสรรพสินค้ามีชื่อ ซึ่งมีมาหลายปีแล้ว คือ....
S = SPORT
A = ART
M = MUSIC
E = EDUCATION
Sport : จะสอนเด็กเล็กเกี่ยวกับ การกีฬา โดยมีวัตถุประสงค์ให้เด็กมีการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี , กีฬาบางอย่างก็ไว้ใช้ป้องกันตนเอง เช่น ว่ายน้ำ , เทควันโด , เทนนิส.....เป็นต้น
ผมให้ลูกเลือกชนิดกีฬาที่เขาสนใจ ปรากฏว่าเขาเลือก เทควันโด แต่พอเรียนไปได้เพียง 1 ปี ( 2 คอร์ส) ผมให้ลูกเลิกเรียน สาเหตุ เพราะ เวลาเขาซ้อมกับคู่ที่มีอายุน้อยกว่า เขาก็เอาแต่ป้องกันการจู่โจมของคู่ซ้อม แต่ถ้าลงคู่กับเพื่อนที่มีอายุมากกว่าเขาก็โดนกระทำจากพี่มากกว่า สุดท้ายคือจะจับคู่ซ้อมกับใครลูกก็เป็นฝ่ายถูกกระทำทุกที (รู้สึกสงสารลูก) แต่ผมก็ได้ประสบการณ์กลับมาจากเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่าเขามีเมตตา , ไม่ทำร้ายคนอื่น และรู้จักการป้องกันตัวเอง นิสัยนี้ได้ติดตัวเขามาจนถึงปัจจุบัน (ตอนนี้ ลูกอายุ 21 ปี) สุดท้ายผมก็ให้ไปเรียน ว่ายน้ำแทนเพราะเอาไว้ช่วยชีวิตตนเอง
Art : เรียนศิลปะ เพื่อให้เด็กเล็กมีการฝึกกล้ามเนื้อมือ และฝึกเรื่องจินตนาการในวัยเด็ก , ทำให้มีสมาธิในการสร้างชิ้นงาน , ให้มีความคิดริเริ่มกล้าแสดงออกผ่านชิ้นงานที่ทำ เช่น วาดรูประบายสี , วาดเขียนภาพ เป็นต้น
ลูกได้เรียนการวาดรูปจากจินตนาการของเขาเอง รู้จักการวางแผนก่อนที่จะลงสี เขามีความสุขมากเมื่อถึงวันที่ได้ไปเรียนทุกครั้ง ทักษะนี้ติดตัวมาถึงปัจจุบันและได้เรียนในคณะที่ใช้เรื่องนี้โดยตรง
Music : เรียนดนตรี ให้เด็กรู้จักการฝึกฝนกล้ามเนื้อมือ/กล้ามเนื้อตา และการมีสมาธิรวมทั้งการเล่นดนตรีกันเป็นทีม , รู้จักการอ่านตัวโน๊ตเพลง
ลูกผมเลือกเรียน เปียโน ซึ่งเรียนไปได้ 2 ปีก็เลิกเพราะเข้าชั้นประถมต้องเรียน ด้านวิชาการ
ปัจจุบันเขาชอบฟังเพลงสากลเพื่อเรียนรู้ภาษาในด้านการฟังเพลง
ทั้ง 3 อย่างนี้ (SAM) สามารถจะให้เด็กเล็กเริ่มเรียนก่อนที่จะเข้าชั้น ประถมต้นได้เลย เพราะเมื่อเด็กเริ่มเข้าเรียนชั้นประถมแล้ว วิชาที่เรียนส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Education
อย่างไรก็ตาม การให้เด็กมีโอกาสเรียน SAM นั้น พ่อแม่ไม่ควรคาดหวังให้เด็กต้องเรียนให้ดี หรือทำให้ได้เพราะจะกลายเป็นการกดดันเด็ก
วัตถุประสงค์เพียงให้เด็กได้มีการแสดงออกผ่านการเรียน SAM จะดีกว่า และเมื่อไรเด็กค้นพบตัวเองว่า อันไหนใช่และเด็กมีความสุขที่ได้เรียนแล้วนั้น พ่อแม่ค่อยพิจารณาว่าจะให้เรียนต่อขั้นสูงหรือไม่
เนื้อหาที่ผมเขียนในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนๆจะต้องทำตามทั้งหมด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละครอบครัวรวมทั้ง เวลาที่มีให้ลูกของท่าน
ส่วนตัวผมเองคิดเพึยงให้โอกาสลูกในการค้นหาทักษะของตัวลูกเองผ่านการเรียนแบบ SAM
โชคดีที่ได้เขียนครับ
โฆษณา