11 ก.ย. 2019 เวลา 11:20 • การศึกษา
สถิติน่ารู้ #1
ประเทศไทยมีดีน่าภูมิใจหลายเรื่องในระดับโลก
ข้อมูลสถิติ
การติดต่อสื่อสารในปัจจุบันรวมถึงการทำการตลาด ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆจึงมีความจำเป็นต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย
วันนี้ “ยุคใหม่การตลาดของไทย” ขออนุญาตแบ่งปันข้อมูลแบบเบาๆที่เข้าดูเป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องประชากรศาสตร์ เพราะเราต้องทำการตลาดกับผู้คนข้อมูลนี้จึงขาดไม่ได้เลย และได้แทรกอันดับเบาๆมาอ่านเล่นเพิ่มความรู้รอบตัวนิดหน่อยให้กับท่านที่ให้เกียรติเข้ามาติดตามด้วยครับ
สถิติที่น่าสนใจ
จำนวนประชากร (2019) ประเทศไทยมีประชากรเป็นลำดับที่ 20 ลำดับที่ 1 ของโลกและเอเชีย คือ จีน ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเชียมีประชากรสูงที่สุด
ขนาดพื้นที่พื้นที่ เรามีพื้นที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 51 ของโลก ส่วนอันดับหนึ่งหลักฐานชัดเจนไม่มีใครเกินรัสเซียได้ ในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือจีนและอินโดนีเซียนั่นเอง
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI) จากจำนวน 189 ประเทศที่ทำการวัดผลเราอยู่ลำดับที่ 83 โดยเพื่อบ้านของเราคือสิงคโปร อยู่ในลำดับที่ 9 ในเอเชียฮ่องกงมีลำดับที่สูงที่สุดคือลำดับที่ 7 และลำดับที่หนึ่งคือนอร์เวย์
เรื่องนี้น่าภูมิใจกับประเทศเล็กๆอย่างเราแต่ทว่ามีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อยู่ในลำดับที่ 25 ของโลก และที่อยู่ในลำดับที่หนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คืออินโดนีเชียกับประชากรที่มากกว่า 4 เท่ากว่าๆก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก ส่วนที่หนึ่งของโลกแน่นอนว่าคือสหรัฐอเมริกาพี่เบิ้มนั่นเอง อันดับที่สองของโลกและอันดับหนึ่งของเอเชียคือจีน
รายได้ต่อหัว (GDP per Capita) อันนี้เราต้องปรับปรุงโดยเฉพาะเรื่องกระจายรายได้ เพราะการกระจายรายได้หมายถึงความมั่นคงของชาติในระยะยาว ผู้คนมีกำลังซื้อ ปัญหาทางสังคมก็น้อย ปัจจุบันในปีนี้เราอยู่ในลำดับที่ 89 ของโลก
ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้มีสิงคโปรเป็นลำดับที่1และลำดับที่ 10 ของโลก ส่วนลำดับที่หนึ่งหลายคงไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่เพราะเป็นประเทศเล็กอยู่ในตอนกลางของยุโรป นั่นคือประเทศลักแซมเบิร์ก
อัตราการเติบโตของ GDP ของปี 2019 สูงที่สุดในโลกคือ ลิเบีย 26.68% แปลกใจพอสมควรกับตัวเลขนี้ ส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในเอเชียคือมาเก๊า
และเพื่อนบ้านประเทศติดกันคือกัมพูชา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 7.10% ส่วนของเราก็ดีทีเดียวอยู่ในอัตรา 3.91% (อันนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ข้อมูลจากแหล่งภายในประเทศ เป็นการเก็บข้อมูลของสื่อต่างประเทศเขา)
นี่ก็เป็นอีกหลักฐานที่น่าภูมิใจกับประเทศไทย เพราะเราเป็นผู้ส่งออกสินค้าที่มีมูลค่ารวมอยู่ในลำดับที่ 25 ของโลก โดยที่ 1 คือจีน และในเอเชียตะวันออกฉียงใต้คือประเทศสิงคโปร ที่ส่งออกเป็นลำดับที่ 15 ของโลก
คราวนี้มาดูข้อมูลด้านสุขภาพสักเล็กน้อย
ลองจับพุงดูนะครับว่าเราอยู่ในเกณฑ์ที่มีดัชนีมวลกายเกินกว่ามาตรฐานหรือไม่ เพราะอัตราการเกิดโรคอ้วนของประเทศไทยมีสัดส่วน 10% ของประชากร ส่วนประเทศที่มีคนอ้วนมากที่สุดในโลกคือ อเมริกันซามัว มีอัตราสูงถึง 74.6% หรือใน 10 คนจะพบคนอ้วน 7-8 คน
ส่วนในเอชียของเราคูเวตคือประเทศที่มีอัตราการเกิดโรคอ้วนสูงถึง 37.9% เกิน 1ใน 3 ของประชากรเลยทีเดียว ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ประเทศที่ได้ที่หนึ่งเรื่องนี้คือมาเลย์เซียครับ 15.6 % ส่วนที่มีโรคอ้วนน้อยที่สุดคือประเทศเวียดนาม อันนี้เห็นมากับตาเจอมากับตัวสาวๆหน้าท้องแบนราบกันทั้งนั้นเลย
ข้อมูลทั่วไป
 
อันดับมหาวิทยาลัยโลก (2562) ที่ 1 คือ University of Oxford ในเอเชียตั้งอยู่ในประเทศจีนคือ Tsinghua University เป็นอันดับที่ 22 ชองโลก เอเชียตะวันออกฉียงใต้อยู่ที่ประเทศสิงคโปร ลำดับที่ 23 ของโลก
ของประเทศไทยคือ......มหาวิทยาลัยมหิดล อยู่ในอันดับระหว่าง 601-800 ของโลก ซึ่งผู้จัดอันดับไม่ระบุไว้ว่าที่เท่าไหร่กันแน่
มาดูอันดับกีฬาที่เราเข้าสู่ระดับโลกแล้วนั่นคือ อันดับวอลเลย์บอลหญิง (มกราคม 2562) ประเทศไทยของเราถูกจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 14 และยังเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ส่วนอันดับที่ 1 ของโลกคือเซอร์เบีย ส่วนจีนอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลกและอันดับที่ 1 ของเอเชีย
อันดับวอลเล่บอลชาย (มกราคม 2562) อันดับที่ 1 คือ บราซิล อิหร่านเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย หรืออันดับที่ 8 ของโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 39 และเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้
อันดับฟุตบอลหญิง (กรกฎาคม 2562)อันดับที่ 1 คือ สหรัฐอเมริกา เกาหลีเหนือได้อันดับ 1 ของเอเชีย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 39 และเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ซึ่งอันดับที่ 1 คือเวียดนาม
อันดับฟุตบอลชาย (กรกฎาคม 2562) อันดับที่ 1 คือ อันดับ 1 ของโลกคือเบลเยี่ยม (ได้มาไงนี่) ของเอเชียคือประเทศอิหร่านส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 115 และเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ซึ่งอันดับที่ 1 คือเวียดนาม อีกครั้ง (ตามหลังเขาทั้งหญิงทั้งชายเลย)
ภาพรวมที่เห็นจากสถิติไม่แปลกใจเลยว่าทำไมต่างชาติอยากมาทำการค้าและลงทุนในประเทศไทย แม้ว่าข่าวที่สื่อสารออกมาหลายครั้งเราดูแย่ในเวทีโลก แต่พอดูข้อมูลแล้วเราไม่ได้แย่เลย ติดอันดับต้นๆของโลกด้วยซ้ำไป ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และยังเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอยู่ในลำดับที่ 25 ของโลก ประเทศเราไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยหากเราลองมาพิจารณาและขยายจุดแข็งของประเทศเรา
FB Page: Thailand Modern Marketing
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit
"ยุคใหม่การตลาดของไทย"
โหลดที่ http://www.blockdit.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา