12 ก.ย. 2019 เวลา 14:05 • ท่องเที่ยว
นั่งรถไฟข้ามประเทศ จากกรุงปารีสสู่ เมือง Geneva Switzerland
การเดินทางข้ามเมืองครั้งนี้นั้น ชะนีตั้งใจไม่บิน เพราะมันง่ายไป บวกกับไม่เห็นทัศนียภาพตามข้างทางที่เราได้ทอดสายตาพาดผ่านวิวของเมืองต่างๆ
ความตื่นเต้นของจิ้กซอว์ตัวนี้คือ
1.นั่งรถไฟแบบไหน ไปสวิสเซอร์แลนด์
2.ซื้อตั๋วแบบไหน ยังไง ซื้อที่ไหน
3.ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีไหนในกรุงปารีส
ตามสไตล์ชะนีคะ ถึงจะดูเป็นคนชำนาญ ไปมันซะทั่ว แต่ชะนีคนนี้ละขามั่ว ขางงเลย 555
(เพื่อนก็ช่างวางใจกับเราจีจี)
ชะนีใช้เวลาท่องพันธุ์ทิพย์ และเว็บไซต์ของ Rail Euro เป็นอาทิตย์ กับจิ้กซอว์ตัวนี้
คำตอบที่ได้คือ เราต้องใช้บริการของ TGV train เป็นรถไฟความเร็วสูง วิ่งไปยังหัวเมืองสำคัญๆของประเทศฝรั่งเศส และยังวิ่งข้ามเมืองไปสวิสเซอร์แลนด์ได้ด้วย
ชะนีจองผ่าน website คะ ราคาไม่แพง จองเสร็จแล้วปริ้นออกมาเป็นกระดาษได้เลย
ง่ายมักๆ
สถานีที่ต้องไปขึ้น ก็ไม่ได้อยู่ที่ปารีส
แอร์พอร์ท แต่เราต้องไปขึ้นที่ Paris Gare De Lyon สถานีนี้คนเยอะมาก ต้องรีบไปเร็วหน่อย กลัวตกรถไฟ 555
พวกเรารีบ check out จาก รร แล้วนั่งรถไฟไปสถานีนี้กัน
เราใช้เวลาเดินทางจากปารีสไปกรุงเจนีวา ประมาณ 3 ชม. ถือว่าแป้ปเดียวนะ เพราะว่าวิวข้างทางที่เราได้เห็นมันน่าหลงใหลจริงๆเลยแม่จ้าว รถไฟจะจอดเป็นระยะๆ ตามสถานีใหญ่ๆ แต่จอดไม่ค่อยถี่นะ ถือว่าเร็วมากเลยทีเดียว อารมณ์ประมาณชินกันเซนที่ญี่ปุ่นนั่นละจ๊าแม่จ๋า
ช่วงที่พวกเราไปเป็นเดือน พฤศจิกายน กำลังหนาวได้ที่เลย เจนีวาเป็นเมืองหนึ่งที่เมื่อก่อนเคยมาบ่อย ช่วงหลังๆไม่ค่อยอยากมาเพราะแพงทุกอย่าง 5555 เมืองเขาเงียบสงบมาก ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งต่างจากซูริค เมืองหลวงของสวิสเซอร์แลนด์ แต่เชื่อไหมว่า ชะนีมีของสะสมอยู่สิ่งหนึ่งที่ซื้อจากทุกมุมโลก แล้วของสิ่งนั้นชะนีก็เคยซื้อจากที่นี่ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ได้มา กลับเป็นชิ้นที่เล็กที่สุด และแพงที่สุดที่เคยซื้อมา🤦‍♀️🤦‍♀️🤦‍♀️🤦‍♀️🤦‍♀️
จานตั้งโต๊ะใบนี้ละคะ มีขนาดเล็กที่สุดที่เคยมี ใบแค่นี้ประมาณ 1800฿ (ก็คนมันชอบเนอะ)55
สรุปว่า อย่าอยู่นานเลยจ๊ะแม่จ๋า เมืองนี้ค่าครองชีพสูงมากถึงมากที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์แล้วค่า...
เรานอนที่นี่ 1 คืน พอถึง รร ก็ออกมาเดินห้างเล็กๆหน้า รร วันนี้ที่เราถึงน่า จะเป็นวันอาทิตย์นะ เพราะทุกอย่างปิดหมด เราเลยแวะเข้าซุปเปอร์เล็กๆ โชคดี มีร้านอาหารไทยอยู่ใน food court ด้วย
พี่ไทยอย่างเรา ผู้หิวโหยอาหารไทยเป็นที่ 1 ก็จัดสิคะ รออะไร 5555 เมืองนี้เรามาแบบชิวๆไม่ได้กะเกณฑ์วางแผนอะไรมาก เหมือนแวะพักกลางทางก่อนไปเที่ยวต่อที่เมืองอื่น
การเดินทางในสวิสค่อนข้างสะดวกมาก รถไฟคือตรงเวลาเป็นที่ 1 เลยละคะ
พวกเราได้ทำการซื้อ Swiss pass จาก website (มีหลายเว็บ) ในไทย 8 วัน สนนราคา 16,000฿/คน ถือว่าแพง แต่คุ้มค่ามาก (เพราะเที่ยวเดียวราคารถไฟที่นี่ ก็เลือดไหลซิบละค่า) ตั๋วนี้สามารถขึ้นรถ ลงเรือ รถไฟ ได้แบบไม่จำกัดเที่ยวภายใน 8 วัน แล้วเวลาขึ้นภูเขาต่างๆ ทั่วสวิสฯ ยังใช้เป็นส่วนลดได้ด้วย 20-50% จ้า อะปรบมือ👏👏👏👏😂
วิธีการดูเวลารถไฟออกกี่โมง ชานชาลาอะไร ก็ต้องโหลด application SBB อันนี้ดีมาก เป็นแอพฯของสวิสโดยตรง คือแม่นมากถึงมากที่สุด เลิศศศศที่สุด ปรบมือคะ 👏👏👏👏
เราสี่คนใช้ชีวิตเดินเล่นรอบๆ Geneva Lake
ที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ไข่มุกริเวียร่าแห่งสวิส ดูชื่อสิแม่จ้าว ละยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดแห่งสวิสเซอร์แลนด์ด้วยนะเออ เอาสิ
ตรงกลางทะเลสาบจะมีน้ำพุ จรวดเจ็ทโด Jet D-Eau (ชื่อมันแบบนี้จริงๆงะ) พรุ่งพรวดตลอดเวลา มันพุ่งสูงถึง 400 ฟุตเลยจ๊ะแม่แถวนี้นอกจากจะมีวิวสวยๆให้ชมแล้ว
ยังมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารให้ดื่มด่ำบรรยากาศรอบๆทะเลสาบเพียบเลยละคะ
Geneva lake
นี่กะจะอยู่แป้ปเดียว แต่อากาศมันหนาว
อะเนอะ ไหนจะบรรยากาศริมทะเลสาบอีกอะเนอะ ก็ต้องจัด ไวน์ร้อนสัก แก้ว สองแก้ว ก่อนกลับ รร สิ 555
เอาแค่นี้ก่อนสำหรับ เมือง เจนีวา ถ้าคราวหน้ามีโอกาสมาเจาะ ก็จะลงลึกกว่านี้นะคะ แต่เวลามีน้อย เพราะแพลนเด็ดๆเรามีเยอะมากรออยู่ข้างหน้าเช่นกัน
พรุ่งนี้ตื่นเช้ามา พวกเราจะไปเยือนเมือง Luzern คะ ไปดูคะว่า มันจะโรแมนติก สวยงามตามคำร่ำลือขนาดไหน
ชอบกดไลค์
ชอบไปอีกกดแชร์
ชอบคำกวนๆอย่าลืมกดติดตาม
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน
รักนะ ชะนี❤️❤️
โฆษณา