14 ก.ย. 2019 เวลา 05:07 • บันเทิง
ลินดา แฮมินตัน:การกลับมาของหญิงเหล็กแห่งยุค 90
หากพูดถึงภาพยนตร์อย่าง The Terminator ทั้ง 2 ภาค หรือในชื่อไทย อย่าง คนเหล็ก 2029 ภาพจำแรกที่เราจะต้องนึกถึงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คนเหล็กในตำนานอย่าง อาร์โนลด์ ชวาสเนเกอร์ แต่แน่นอนว่ายังมีอีกคาแรกเตอร์หนึ่งที่คงไม่มีใครลืมจากภาพของคุณแม่สุดแกร่งอย่าง ซาร่าห์ คอร์นเนอร์ ที่รับบทโดย ลินดา แฮมิลตันอย่างแน่นอน
The Terminator Dark Fate มีคิวลงโรงในเดือน พฤศจิกายน นี้ ผู้กำกับอย่าง ทิม มิลเลอร์ (Deadpool,Thor:The Dark World) ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เขาพยายามตามตื้อ แฮมิลตัน อยู่นาน แม้ในเรื่องของบทบาทการแสดงไม่ใช่ปัญหาในการกลับมารับบทนี้ของ แฮมิลตันอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ก็คือทำอย่างไร เธอถึงจะยอมออกมายืนหน้ากล้องอีกครั้ง หลังจากหันหลังให้วงการไปนาน
ภาพยนต์ T2 ที่ออกฉายไปทั่วโลกเมื่อปี 1991 ได้ส่งให้ชื่อเสียงของ แฮมินตันโด่งดังเป็นพลุแตก เคียงคู่กันกับ ชวาสเนเกอร์ และนับแต่นั้น ภาพลักษณ์ของนักรบสาวสุดแกร่งก็ติดตัวเธอจนสลัดไม่หลุดนับแต่นั้นเป็นต้นมา แฮมิลตันได้ให้สัมภาษณ์ปนขำว่า ในช่วงที่หนัง T2 ออกฉายใหม่ๆ บ่อยครั้งที่เมื่อเธอเดินเล่นแถวบ้านพัก เธอมักจะได้ยินคนซุบซิบนินทาเธอว่า “นี่นะเหรอ ซ่าล่าห์ คอนเนอร์ ทำไมดูเรียบร้อยจัง”
ความพยายามสลัดภาพของซาลาห์ คอนเนอร์ ออกไปด้วยการปฎิเสธการกลับมารับบทนี้มานานกว่า 30 ปี ในที่สุด แฮมิลตัน ที่ปัจจุบันมีอายุ 62ปี แล้ว ก็จนมุมจนต้องกลับมารับงานนี้อีกครั้งในภาคใหม่ที่ชื่อ The Terminator Dark Fate พร้อมกับอดีตสามีที่อย่าร้างกันไปในปี 1999 อย่าง เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับที่ปั้นทั้ง T1 และ T2 ปะหน้าเป็นโปรดิวเซอร์และร่วมเขียนบทให้หนังเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากปล่อยให้สตูดิโอเอาหนังไปปู้ยี้ปู้ยำจนหลังๆ ภาพของ Terminator จะดูขาดเสนห์ของหนังต้นฉบับลงไปเรื่อยๆ
แฮมิลตันยอมรับว่า เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นราชินีหนังบู๊ไปได้ เพราะตั้งแต่เด็กๆ เธอใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากเล่นหนังรัก โรมแมนติก แบบ หนังของ วิลเลี่ยม เช็กสเปียร์ (โรมิโอ แอนด์ จูเลียต) แต่ Terminator คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิตเธอที่ทำให้ภาพฝันของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แต่สาเหตุสำคัญที่เธอกลับมารับบท ซ่าราห์ อีกครั้ง ก็มาจากความผิดหวังที่เห็นซีรีย์หนัง Terminator ที่ล้มเหลว มาตลอดทั้งรายได้และเสียงวิจารณ์ ทำให้เธอตัดสินใจตอบรับคำเชิญจาก มิลเลอร์ และ คาแมรอน กลับมารับบทนี้อีกครั้งหลังจากหายไปนานกว่า 30 ปี
ในระหว่างการถ่ายทำ แฮมิลตันต้องฟิตร่างกายอย่างหนัก เพื่อต้องกลับมารับบทนี้อีกครั้ง เธอยอมรับว่า แม้ว่าที่ผ่านมาเธอจะยอมรับว่า เธอไม่เคยชอบภาพลักษณ์ราชินีนักบู๊ที่ติดตัวเธอนี้เลย แต่หลังจากการถ่ายทำครั้งนี้จบลง เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง เธอก็ได้พูดกับตัวเองว่า “เฮ้ย เล่นบทบู๊นี้โคตรมันส์เลยว่ะ”
ความฝันกับความจริงนั้น บางทีเราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า จริงๆตัวตนเราเป็นอย่างไรกันแน่ บ่อยครั้งที่ คนเราเชื่อมั่นและวิ่งตามไขว่คว้าความฝัน และละเลยโอกาสที่รออยู่ตรงหน้า โดยไม่รู้เลยว่าได้มองข้ามตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไปแล้ว เพราะหาก แฮมิลตัน ไม่ยอมรับบท ซาร่าห์ คอนเนอร์ตั้งแต่ T1 เพียงเพราะอยากทำความฝันในการเล่นหนังโรแมนติกแบบนิยายเช็กส์เปียร์ เท่านั้น เราก็คงไม่ได้เห็นภาพ หญิงที่แกร่งที่สุดของ ฮอลลีวู๊ด เจ้าของฉายา บรู๊ส วิลลิส ภาคผู้หญิง (ตั้งโดย คาแมรอน) นี้เลยก็เป็นได้
โฆษณา