Blockdit Logo (Mobile)
Memologic
•
14 ก.ย. 2019 เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์
อยากแชร์เรื่องเล่าจากชีวิตจริง ชีวิตเด็กน้อยอายุ 22 ปี ใน ประเทศญี่ปุ่น
ยูเย เป็นคนนึงที่ยากไป ญี่ปุ่น มาก พอเรียนจบ เธอโชคดีมากเพราะมีบริษัทจัดหางานญี่ปุ่น มาหาคนไปฝึกปฎิบัติงาน 3 ปี เธอก็เลยสนใจ และนี้ก็เป็นที่มาของเรื่องเล่า...จากชีวิตจริง ชีวิตเด็กน้อยอายุ 22 ปี ใน ประเทศญี่ปุ่นครับ
เพราะชอบญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็เลยไปสมัครสอบที่บริษัท นายจ้างญี่ปุ่นก็สัมภาษณ์เรา ให้แนะนำตัวเอง ตอนนั้นภาษาญี่ปุ่นนะหรอก็พูดแบบงูๆปลาๆ ก็เลยแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นไปได้ แล้วนายจ้างถามเหตุผลว่าทำไมอยากทำงานที่ญี่ปุ่น เราก็เลยตอบไปยาวมาก สรุปแล้วนายจ้างเห็นจบการโรงแรมมา ก็เลยพิจารณาเป็นพิเศษ ผลก็คือสอบผ่านคนแรก เธอดีใจมาก จากนั้นก็มาทำงานมาเรียนต่อที่โตเกียว1เดือน เรียนด้วยได้เงินเดือนด้วยประมาณ 3 หมื่นบาท พอเรียนเสร็จก็ต้องเริ่มทำงานทันที ได้เงินเดือนแรก 3 หมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว วันหยุดก็แล้วแต่เดือน บางเดือนหยุด 6-7 วัน อย่างมากสุดเลยก็ 8 วันค่ะ
ความรู้สึกของเธอดีใจมาก เธอไม่เคยทำงานได้เงินเยอะมากขนาดนี้ ยิ่งถ้าบางเดือนขยันก็จะได้เยอะมาก เพราะ งานที่เธอทำเขานับเป็นชั่วโมง แต่ว่าก็ต้องประหยัดเพราะค่าครองชีพที่นี้สูงมากอ่ะ !
แล้วการที่ทำงานของญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ใช่เป็นรายเดือน แต่จะเป็นรายชั่วโมง ทำกี่ชั่วโมงก็ได้เท่านั้น แต่ดีตรงที่ คนอายุเลย 60ปี ไปทำงานได้ทุกคน ถ้าทำไหวนะ! ทำให้คนที่เกษียณแล้วมีงานทำไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลาน แต่การทำงานจะเข้มงวดเรื่องเวลา(แน่นอนแหละคนญี่ปุ่นซีเรียสเรื่องเวลามาก) ถึงห้ามป่วยห้ามตาย ป่วยยังไงก็ต้องมาทำงาน(เรื่องนี้อาจจะแล้วแต่ที่นะ) พอเงินเดือนออกก็จ่ายค่าบ้านค่าประกันสุขภาพ บลาๆ เสร็จสรรพปาไปเกือบ15000
มาตอนแรกไม่ค่อยกล้าซื้อของ เพราะของแต่ล่ะอย่าง 100 เยน ขึ้นไป บวก Vat 8% รวมเป็น 108 เยน ของหลายอย่างส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่ผัก ราคาจะ300 เยนอับ ยิ่งถ้าของใช้ราคายิ่งแพงไปอีก ซื้อของทั้งหมดก็ 5000 เยน หรือถ้าเป็นเงินไทยคิดเป็น 1500 บาท ซึ้งตอนอยู่ไทย1500 บาทใช้ได้ทั้งเดือนเลย5555 แต่อยู่นี้อาทิตย์เดียวยังไม่พอเลย
เรื่องที่พัก บ้านอยู่ห่างจากที่ทำงาน 20 กว่ากิโล ก็เลยต้องตื่นเร็วกว่า ปกติ และต้องไปถึงที่ทำงานก่อน20นาที
ต้องใช้น้ำประหยัดมากๆ เพราะค่าน้ำแพงกว่าค่าไฟ ยิ่งถ้าฤดูหนาว ต้องใช้เครื่องปรับอากาศทำความอุ่น ยิ่งเปลืองค่าแก๊สอีก เกือบ3000 บาท โอมายก็อต ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นจะปลูกผักกินเองในหน้าร้อนเพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆจากน้อง โยเย ที่นำมาเล่าสู่กันฟังครับ!
“แค่คิด...ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว”
และขออนุญาตฝากช่องทางไว้ติดตามกันยาวๆทางด้านล่างนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ "Memologic"
Youtube Chanel : http://bit.ly/33qFkXS

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา