15 ก.ย. 2019 เวลา 07:23 • ข่าว
ผู้บริโภคเตรียมรับมืออวสานแผงลอยกทม.
ก่อนอื่นต้อง ขออภัยที่เล่าช้า เพราะมัวแต่ไปช่วยงานศพญาติมาครับ
ข่าวด่วนนี้ก็คือผมจะเล่าตั้งแต่ค่ำเมื่อวานแล้ว
แต่ยังไงรู้ช้าดีกว่าไม่รู้ครับ
.
กรุงเทพมหานครจะจัดระเบียบทางเท้าอีกครั้งและครั้งนี้ครั้งใหญ่ครับผม
เพราะ “จะไม่มีอีกต่อไปแล้วขายของบนทางเท้า” ซึ่งประโยคนี้เป็นประโยคที่ประกาศลั่นโดยรองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจกรุงเทพมหานคร
คุณศุภกฤต บุญขันธ์นะครับ
ซึ่งก่อนหน้านี้อย่างที่เรารู้กันในกทม.พ่อค้าแม่ขายแผงลอยขาก็ทยอยค่อยๆยกเลิกไป เพราะยกเลิกทันทีมันไม่ได้ครับ ซึ่งเราต้องยอมรับส่วนนี้ว่ามันเป็นวิถีของคนกรุงเทพฯไปแล้วด้วย....กับการซื้อของบนทางเท้าเนี่ย
ซึ่งก่อนหน้านี้แหล่งข่าวแจ้งว่ายกเลิกไปแล้ว 508 จุด เหลืออีก 175 จุด
.
ซึ่งใน 19 สำนักงานเขตจะยกเลิกทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเดือนนี้ก็เดือนกันยาแล้วครับผม นับไปอีกก็ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม ก็ประมาณอีก 3 เดือนจะไม่เห็นการขายของบนทางเท้าแล้ว
.
ขอบอกก่อนว่าข่าวนี้อ่านจบอยากให้ลองร่วมแสดงความคิดเห็นกันนะครับ
มุมนึงแน่นอนครับ คนก็บอกว่าดี เนื่องจากมีคนร้องเรียนว่าจะใช้ทางเท้ามันไม่สะดวกมันต้อง เดือดร้อน เดินมันมีสิ่งของกีดขวาง
แต่ในมุมนึงเขาก็มองว่าเอ๊ะวิถีคนกรุงเทพฯ?แล้วจะไปกินอะไรยังไง?
สมมตินะครับผมยกตัวอย่างเขตทองหล่อ สมมุติว่าไม่มีอาหารสตรีทฟู้ดเลย...คนออฟฟิศจะต้องไปกินที่ไหน?ถ้าในห้างมันแพงรึเปล่า?
หรืออีกมุมนึง เขาก็จะบอกว่ามันก็เดือดร้อนเหมือนกัน พอยกเลิกปุ๊บ เขายกเลิกบนทางเท้าถนนหลัก พ่อค้าแม่ขายเนี่ยเขาก็เข้าไปอยู่ในซอยแทน แล้วบังเอิญซอยมันไม่ใหญ่ครับ คนขายเขาก็พยายามหลบมุมให้รถผ่านได้แต่ไอ้คนซื้อเขาก็ไปจอดอีกฝั่งเพื่ออุตส่าห์ข้ามมาซื้อ ก็กลายเป็นว่าเกิดปัญหาในซอยเข้าออกได้แค่ทางเดียว
รถก็วิ่งสวนกันไม่ได้
หรือในอีกมุมครับ
คือมุมของพ่อค้าแม่ค้ากับ
ยกตัวอย่างล่าสุดที่มีการยกเลิกไปก็คือแผงลอย เพชรบุรี แถวสำนักงานเขตราชเทวีนั่นเองครับ
ซึ่งเขาก็มีการยกเลิกไปแล้ว ปรากฏพื้นที่ที่จะให้พ่อค้าแม่ค้าเนี่ย พอไปขายแล้วมันขายได้ไม่ดีเหมือนเดิม
แม่ค้าบางคนยังบ่นเลยว่า ต้องแอบกลับมาขายที่เดิม ก็โดนเทศกิจจับอีกหรือไม่อยากจะฝากไปถึงรัฐว่าทบทวนมาตรการหน่อยได้มั้ย อย่ายกเลิกเลย จัดสรรเป็นเวลาแทนได้มั้ย?
ไม่ขายช่วงเวลาเร่งด่วนได้มั้ย เอาเป็นขายช่วงธรรมดา สายๆบ่ายๆให้เขาได้ขายในจุดที่พอจะมีคนอยู่บ้างได้รึเปล่า
อันนี้คือผมรวบรวมความคิดเห็นในมุมที่หลากหลายมาเล่าสู่กันฟังครับ
อย่างไรก็แล้วแต่เดดไลนน์ ออกมาแล้วว่า...
“สิ้นปีจะไม่มีให้เห็นอีกแล้วกับขายของบนทางเท้าในเขตกทม.ครับผม”
เล่าไปหลายมุมแล้วขอเล่าในมุมของตัวเองละกัน
การจัดระเบียบเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่รัฐก็ควรมีพื้นที่รองรับสำหรับคนขายที่ต้องย้ายไปที่อื่นด้วย
ซึ่งอย่างที่รู้กันการจะขายได้ก็ต้องมีทำเลที่เหมาะสม ซึ่งสำหรับยุคนี้ทำเลมันไม่ได้หมายถึงแค่ที่ดินหรือสถานที่ แต่ทำเลหมายถึงที่ๆมีคนซื้อ ถ้าไม่มีคนซื้อเข้าถึงได้ก็ไม่ใช่ทำเล
อันนี้เล่าในมุมเห็นใจคนขาย
ด่วนกว่าเซเว่นก็รถเข็นข้างทางนี่แหละ
แต่อีกในมุมก็คือผมมองว่าถ้าเขาย้ายไปขายในที่อื่นแล้วมันไม่ดีไทยอาจมีปัญหากับรถติดมากขึ้นเพราะจะมีTruck food มากขึ้นแน่ๆ ยกตัวอย่างเช่นรถก๋วยเตี๋ยว รถส้มตำ รถลูกชิ้น อันนี้ก็ควรคิด
แต่ที่ผมคิดหนักที่สุดคือ ถ้าจัดระเบียบ แบบว่าเอาแต่ไล่จัดออกจริงๆใครจะได้ประโยชน์หล่ะ?
ยกตัวอย่างเช่นเขตทองหล่อ ถ้าเสียแผงลอยข้างถนนไป เป้าหมายใหญ่ๆตอนเที่ยงของคนออฟฟิศก็คงหนีไม่พ้น ผู้ขายที่เป็นนายทุนรายใหญ่อย่าง 7/11 หรือห้างสรรพสินค้า....ซึ่งมันส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้เด้งขึ้นมามากขึ้นแน่ๆ
อย่างไรก็แล้วแต่อันนี้เล่าแค่ในความเห็นของผมครับ ไม่ได้มีเจตนาจะบอกว่าดีไม่ดีแต่อย่างใด ก็ขอให้อ่านข่าวนี้แบบมีวิจารณญาณ และตีความตามมุมมองส่วนตัวตามสะดวกครับ
"เพราะถ้ามัวแต่กลัวสิ่งที่จะยังไม่เกิด เราก็จะไม่รู้ว่าผลของมันจะเป็นยังไง"
I’m sam

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา