17 ก.ย. 2019 เวลา 12:56 • การศึกษา
How To เรียนนิติราม 2 ปีจบ เรียนด้วยตัวเองที่บ้าน ทำงานไปด้วย เกรดเฉลี่ยระดับเกียรตินิยม!
3
#ทำไมถึงต้องเรียนนิติราม
ม.รามมีระบบการเรียนการสอนแบบ “ตลาดวิชา” ทำให้สามารถบริหารจัดการตัวเองได้ จะเข้าเรียนหรือไม่ก็ได้ แบ่งเวลาไปทำงานหรือทำสิ่งที่ตัวเองสนใจได้อย่างอิสระ ที่สำคัญแม้จะไม่เข้าเรียนก็ยังมีวิดีโอบันทึกการสอนให้ดูทั้งแบบถ่ายทอดสดและแบบย้อนหลัง นอกจากนี้คณะนิติศาสตร์ ม.รามฯ ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้นๆของประเทศอีกด้วยค่ะ ดังนั้น มั่นใจในคุณภาพได้แน่นอน อีกทั้งเมื่อเรียนจบไปทำงานก็ยังมีรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการกฎหมายที่เป็นศิษย์เก่าม.รามฯเพียบ เรียกได้ว่าคอนเนคชั่นเยอะมาก ไม่ต้องกลัวว้าเหว่เลยล่ะค่ะ
4
#การสมัครเรียน
มีทั้งแบบภาคปกติและภาคพิเศษ(เรียนเสาร์-อาทิตย์) สามารถสมัครเรียนแบบปกติหรือเทียบโอนก็ได้ ในกรณีเทียบโอนคือกรณีที่เราจบป.ตรีจากมหาวิทยาลัยอื่นมาก่อนหรือยังไม่จบแต่ย้ายมาก็ได้ค่ะ วิชาไหนที่เราเคยเรียนมาแล้วในระดับมหาวิทยาลัย หากมีหลักสูตรเหมือนม.รามฯก็จะไม่ต้องเรียนซ้ำอีก ซึ่งพิมสมัครเรียนภาคปกติแบบเทียบโอนนะคะ เมื่อเทียบโอนวิชาพื้นฐาน(เช่น วิทย์,คณิต,อังกฤษ,สังคม)มาแล้วก็ทำให้ประหยัดเวลาเรียนไปได้เยอะเลยค่ะ ส่วนใครที่เรียนแบบปกติ(ไม่เทียบโอน)ก็จะสามารถจบเร็วสุดได้ภายใน 3 ปีนะคะ การเทียบโอนนั้นจบเร็วก็จริง แต่มีข้อเสียคือแม้จะได้เกรดเฉลี่ยเยอะแค่ไหนก็ไม่สิทธิได้เกียรตินิยมนะคะ ซึ่งจริงๆแอดมินก็เกรดอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้แต่ไม่ได้ ดังนั้น จะสมัครแบบเทียบโอนหรือไม่ ต้องลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดูนะคะ ว่าคุณอยากจบเร็วหรืออยากได้เกียรตินิยมมากกว่ากัน
6
#วางแผนการเรียน
โครงสร้างหลักสูตร คณะนิติศาสตร์ ม.รามฯ ปัจจุบันมีจำนวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตร 139 หน่วยกิต ดังนี้
- หมวดวิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต (วิชาพื้นฐาน เช่น วิทย์,คณิต,อังกฤษ,สังคม)
- กลุ่มวิชาบังคับ 94 หน่วยกิต (วิชากฎหมาย)
- กลุ่มวิชาเลือก 9 หน่วยกิต (วิชากฎหมาย)
- วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต (วิชาอะไรก็ได้)
นักศึกษาที่สมัครเข้ามาเรียนตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ลงทะเบียนเรียนในภาค 1 และภาค 2 ได้ไม่เกิน 22 หน่วยกิตและไม่ต่ำกว่า 9 หน่วยกิต (ในกรณีขอจบการศึกษา ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 30 หน่วยกิต) ในภาคฤดูร้อนลงทะเบียนเรียนได้ 9 หน่วยกิต (กรณีขอจบลงทะเบียนไม่เกิน 18 หน่วยกิต) ถ้าอยากจบเร็ว ลงทะเบียนแบบจัดเต็มไปเลยค่ะ 💪🏻
6
#การลงทะเบียนเรียน
แนะนำให้ลงทะเบียนเรียนเรียงตามหลักสูตรที่คณะได้จัดไว้ให้แล้ว อย่าพยายามลงข้าม นั่นคือ
1.) วิชาพื้นฐาน(วิทย์,คณิต,อังกฤษ,สังคม) และวิชากฎหมายรหัส LAW10XX ได้แก่ กฎหมายมหาชน กฎหมายเอกชน นิติกรรมสัญญา
2.) วิชากฎหมายรหัส LAW20XX ได้แก่ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์(ทรัพย์ หนี้ ละเมิด ซื้อขาย เช่าทรัพย์เช่าซื้อ ยืมฝากทรัพย์ ประกันภัย ตัวแทนนายหน้า ค้ำประกันจำนองจำนำ ตั๋วเงิน), กฎหมายอาญา(อาญา1คืออาญาภาคทั่วไป อาญา2คืออาญาภาคความผิด), กฎหมายรัฐธรรมนูญ
3.) วิชากฎหมายรหัส LAW30XX ได้แก่ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์(หุ้นส่วนบริษัท ครอบครัว มรดก), กฎหมายอาญา(อาญา3คืออาญาภาคความผิด), พระธรรมนูญศาลยุติธรรม, วิแพ่ง1, วิแพ่ง2, วิอาญา1, วิอาญา2, กฎหมายล้มละลายและฟื้นฟูกิจการ, พยาน, กฎหมายปกครอง
*คำเตือน! เรียนกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทั้งหมดให้ครบก่อนแล้วค่อยเรียนวิแพ่ง1และตามด้วยวิแพ่ง2, เรียนกฎหมายอาญาทั้งหมดให้ครบก่อนแล้วค่อยเรียนวิอาญา1และตามด้วยวิอาญา2
4.) วิชากฎหมายรหัส LAW40XX ได้แก่ ภาษี ว่าความและจัดทำเอกสารทางกฎหมาย กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลและคดีอาญา แรงงาน จรรยาบรรณนักกฎหมาย นิติปรัชญา ที่ดิน ทรัพย์สินทางปัญญา การค้าหว่างประเทศ
*ในส่วนของวิชาเลือกกฎหมายควรลงเมื่อเรียนวิชากฎหมายรหัส LAW30XX-40XX เพราะเป็นช่วงที่เราจะรู้ตัวเองว่าเราชอบกฎหมายอะไร อยากทำงานด้านไหน จะได้เลือกเรียนตรงตามความสนใจค่ะ
3
#วิธีการอ่านหนังสือและเตรียมตัวสอบ
👉🏻 เทคนิค “อ่านอย่างไร ไม่ให้ลืม”
👉🏻 แนะนำเรื่องความจำ
👉🏻 เทคนิคการจำโดยใช้ flashcard
👉🏻 หนังสือที่อ่านทั้งหมดตอน ปี 1
👉🏻 สอบตั๋วเงินยังไงให้ได้ A
👉🏻 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการเขียนตอบ
8
#วิธีการท่องตัวบท
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
#อย่าลดขนาดของความฝันแต่จงเพิ่มขนาดของความพยายาม ❤️
โฆษณา