เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคของวัยเก๋าที่ผู้ประกอบการร้านอาหารควรรู้
1. จำนวนครั้งที่ผู้สูงอายุออกไปทานอาหารนอกบ้าน
ผู้สูงอายุออกไปทานอาหารนอกบ้าน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ คิดเป็น 53% เพราะวันธรรมดาลูกหลานต้องออกไปทํางานหรือเรียนหนังสือ ทำให้มีวันว่างแค่เฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์ และเมื่อเวลาไปทานอาหารนอกบ้านลูกหลานมักจะเป็นผู้เลือกร้านอาหาร แต่ก็จะมีบ้างบางครั้งที่ผู้สูงอายุเป็นผู้เลือกร้านอาหารเอง นอกจากการไปทานอาหารกับครอบครัวแล้ว ผู้สูงอายุยังมีกลุ่มเพื่อนที่ยังติดต่อกันอยู่เสมอ และจะนัดกันออกไปพบปะทานอาหารกัน โดยการเลือกร้านอาหารจะเป็นลักษณะที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการเลือกร้านอาหารที่จะไปทาน
.
2. เหตุผลในการเลือกร้านอาหาร
สําหรับการเลือกร้านอาหารที่จะไปทานนั้น จากผลสํารวจพบว่า 55% ของผู้สูงอายุ จะเลือกจากรสชาติของอาหารเป็นอันดับแรก โดยจะเป็นการเลือกไปร้านประจําที่เคยไปบ่อยๆ เพราะมั่นใจในเรื่องของคุณภาพอาหารและรสชาติที่ถูกปาก รองลงมาใกล้เคียงกันคือ คุณค่าทางอาหาร และการเดินทางสะดวก คิดเป็น 14% และ 13% ตามลําดับ ในเรื่องของคุณค่าทางอาหารนั้น ผู้สูงอายุมักจะเลือกไปร้านอาหารประเภทต้ม เช่น สุกี้ เพราะมองว่าจะทําให้ทุกคนที่ไปด้วยสามารถทานด้วยได้และมีส่วนประกอบของผักเป็นหลัก ส่วนในเรื่องของการเดินทางนั้น ผู้สูงอายุไม่ต้องการที่จะนั่งรถนานๆ ดังนั้นร้านที่อยู่ใกล้ๆ จึงเป็นตัวเลือกในลําดับต้นๆ
3. สาเหตุที่ออกไปทานอาหารนอกบ้าน
จากผลสํารวจพบว่าผู้สูงอายุออกไปทานอาหารนอกบ้าน เพราะต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ สูงถึง 44% เพราะเมื่อเกษียณแล้ว ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในบ้าน ทําให้ไม่มีโอกาสได้ออกไปพบปะผู้คน การออกไปทานอาหารนอกบ้านจึงเป็นโอกาสที่จะได้ออกไปเจอเพื่อน ได้เฮฮา สนุกสนาน และหากเป็นวันสําคัญต่างๆ ก็ยิ่งจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศโดยการออกไปทานอาหารนอกบ้าน ลําดับถัดมาคือความหลากหลายของอาหาร 31% เพราะการทานอาหารนอกบ้านจะทําให้ได้เปลี่ยนรสชาติของอาหาร ได้มีทางเลือกในการทานมากขึ้น ทําให้ไม่เบื่อ และนอกจากนี้ยังเป็นการตามไปทานร้านดังที่เห็นจากรีวิวในรายการ TV
.
4. เมนูอาหารแนะนํา มีส่วนสำคัญต่อการบริโภค
จากการศึกษาพบว่า หากผู้ประกอบการร้านอาหารมีเมนูแนะนำ ผู้สูงอายุก็จะสั่งเมนูนั้นอย่างไม่รอช้า ถึงแม้ว่าเมนูนั้นจะไม่ได้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพก็ตาม เช่น เป็นอาหารที่มีมีคอเลสเตอรอลสูง มีแป้ง และมีไขมันเยอะ เนื่องจากผู้สูงอายุให้เหตุผลว่า นานๆ ออกมากินอาหารนอกบ้านทั้งที ก็อยากสั่งมาทาน เพราะก็ไม่ได้ทานมากเนื่องจากไปกันหลายคน และให้เหตุผลว่าไม่ได้ทานทุกวัน ไม่น่าส่งผลต่อสุขภาพมากนัก
.
5. ข้อแสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร
สำหรับใครที่ประกอบกิจการร้านอาหาร ในอนาคตร้านของคุณควรสามารถรองรับผู้บริโภคกลุ่มสูงอายุเหล่านี้ได้ โดยต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการต้องแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด โดยการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น เมนูอาหารจะต้องมีอักษรตัวใหญ่ ไม่ใช่ตัวอักษรที่เล็กและรูปแบบที่อ่านยาก การมีรูปภาพจะทำให้พวกเขาสะดวกมากขึ้น โดยงานวิจัยพบว่าผู้สูงอายุต้องการให้มีเมนูอ่านง่ายร้อยละ 50 เลยทีเดียว อันดับต่อมา 14% คือป้ายต่างๆภายในร้าน โดยผู้สูงอายุต้องการให้มีป้ายบอกเมนูแนะนํา หรือป้ายบอกทางต่างๆ ชัดเจน ทั้งในเรื่องของขนาดของป้ายและตัวหนังสือ รวมถึงสัญลักษณ์ที่ใช้ เช่น ป้ายบอกทางไปห้องน้ำหรือ ทางออกฉุกเฉิน และ 13% เป็นเรื่องของทางเดินสําหรับผู้สูงอายุ ซึ่งควรจะเป็นทางเดินที่มีราวจับ หรือทางเดินที่ไม่มีบันไดขึ้นๆ ลงๆ เยอะ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้สูงอายุเป็นหลัก
.
ที่มา : บทความงานวิจัย AWUSO Society 4.0 แก่แต่วัย หัวใจยังเก๋า มหาวิทยาลัยมหิดล
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
