18 ก.ย. 2019 เวลา 21:24 • การศึกษา
Loadout with Hydraulic Skidshoe of 8000mT Petronas's MCR-A Steel Gravity Base Structure, MMHE, Malaysia, 2010
เป็นการ​ Loadout โครงสร้างส่วนล่างของ​ MCR-A​ Platform​ ของบริษั​ท​ Petronas ที่​ MMHE​ Yard​ ในมาเลเซีย​ เมื่อสักสิบปีที่แล้ว​ ถือเป็น​ Steel Gravity​ Base ตัวแรกที่ออกแบบและก่อสร้างในเอเชีย​ โดยจะนำไปตั้งที่​ Turkmenistan Block 1
ที่น่าสนใจ​คือจะเห็นรูปแรกที่วงสีแดงไว้​ เป็น​ Hydraulic Skidshoe​ ทั้งหัวและท้าย
หน้าที่มันคือช่วยกระจายแรงออกไป​จากจุดรองรับหลัก​
ถ้าใครเคยอยู่​กับงาน​ Loadout​ ขนาดใหญ่​ จะรู้ว่าปัญหา​ที่ฐานรองรับ​ ไม่สามารถ​รับแรงได้นั้นพบบ่อยมาก​ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง​ Quay หรือ​ฝั่ง​ เรือ​ ทั้ง​การ​ Loadout​ Launched Jacket หรือ​ Integrated Topside และปัญหา​ส่วนใหญ่​มักจะอยู่ที่ปลายสองด้าน
หลักการก็ง่ายๆ​ เลย​ คือถ้าปล่อยแรงให้มันลงมาตามใจ​ มันก็ลงตาม​ Loadpath ที่เราวางไว้​ ซึ่งพอลงมาถึงจุดรองรับ​ อาจจะสูงเกินกำลังของฐานรองเป็นจุด​ เช่น​ รูปที่​ 2 น้ำหนักลงมา​ 100 กระจายออกไปจุดละ​ 50​ มากเกินที่ฐานจะรับได้​ สมมติฐานรับได้แค่​ 30
เราก็หาจุดรองรับมาเพิ่มให้มัน​ เช่น​ เพิ่มไปที่ปลายสองด้าน​ ให้รับจุดละ​ 30​ เท่ากำลังของฐาน​ จุดข้่างในจะเหลือ​ 20​ ทำให้ทุกจุดกดลงมาไม่เกินกำลังของฐาน​ จึงยอมรับได้
เนื่องจากต้องเป็นจุดรองรับชั่วคราวเท่านั้น​ และต้องกำหนดได้ว่าจุดที่เพิ่มเข้ามาจะให้รับเท่าไร​ การที่อยู่จะเอาจุดรองรับไปตั้งเพิ่ม​ เราไม่สามารถที่จะทำให้แรงมันลงมาหาจุดที่เราวางไว้ได้​ เพราะน้ำหนักมันกดลงมาตามแรงโน้มถ่วง​ถึงฐานแล้ว​ หรือจุดกลางรับมา​ 50​ แล้ว​ (โครงสร้างแบบนี้ต้องเคลื่อนที่​ ตอนก่อสร้างอาจจะตั้งในจุดที่รับได้​ 50​ ต้องขนย้ายอาจจะผ่่านจุดที่รับได้ 30​ ดังนั้นต้องออกแบบโดยคำนึงถึงทุกสภาพแวดล้อมตั้งแต่สร้างเสร็จ​จนขนไปถึงที่ต้องการติดตั้ง)​
ดังนั้นการที่จะเอาแรงออกจากจุดกลางที่รับไป​ 50​ แล้ว​ ทำได้อย่างเดียว​ คือต้องถีบมันขึ้น​ ดังนั้นมันจึงต้องให้ระบบ​ Hydraulic Jack เข้ามาช่วย​ โดยถีบมันขึ้นจนเกิดแรงที่แจ๊ค​ จุดละ​ 30​ ทำให้แรงที่จุดรองรับกลางลดลงจาก​ 50​ เหลือ​ 20​ (เหมือนคนยกของอยู่​ ถ้ามีคนวิ่งมาช่วย​เข้าไปแตะเฉยๆ​ มันจะไม่ช่วยอะไร​ คนเข้าไปช่วยต้องออกแรงดันขึ้นด้วย​ นน​ ถึงจะออกจากคนที่ยกอยู่ก่อน)​
ดังนั้นช่วยได้มากหรือน้อยจึงอยู่ที่กำลังของแจ๊คเป็นหลัก​ ตัวสีแดงในรูปที่​ 3 เรียก​ Skidshoe​ ปัจจุบัน​ตัวที่ใหญ่สุดในตลาดมีกำลังตัวละ 1200 ตัน​
ในรูปมันสิบปีที่แล้ว​ น่าจะกำลังยกตัว​ละ​ 500​ ตัน​ ใช้สองตัว​ ก็​ 1000​ ตัน​ แต่ละฝั่งมีสองคู่​ ก็ฝั่งละ​ 2000 ตัน​ รวมสองฝั่ง​ 4000 ตัน​ ก็เท่ากับใช้​ Skidshoe​ แบ่งแรงมาครึ่งหนึ่งของน้ำหนักทั้งตัว​ จะเห็น​ว่าเค้าต้องทำโครงสร้างมาคร่อมแจ๊คไว้​ เพื่อเตรียมให้มันถีบขึ้น
ปล.
เรื่องนี้ก็คล้ายๆ​ การเสริมกำลังที่เคยเล่าให้ฟัง​ ถ้าอะไรที่มันพังไปแล้ว​ เอาของไปเสริมช่วย​ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย​ ถ้าไม่เอาแรงออกจากตัวที่มีปัญหาออกไปก่อน​ เพราะมันแค่เข้าไปแตะเฉยๆ​ ไม่ได้ออกแรงช่วย​ ถ้าจะเสริมให้ได้ผล​ ต้องเอาแม่แรงช่วยยกขึ้นก่อน​ แล้วถึงค่อยเสริมกำลัง
โฆษณา