Blockdit Logo (Mobile)
WW Weapons
•
22 ก.ย. 2019 เวลา 09:01 • ประวัติศาสตร์
Pervitin เบื้องหลังทหารยอดมนุษย์ของเยอรมัน
ทำไมทหารเยอรมันจึงรบเก่ง พวกเขาเป็นยอดมนุษย์งั้นหรือ? นี่คือเบื้องหลังอันดำมืดของกองทัพเยอรมัน
ในปี1939 ปีแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมันได้เปิดฉากสู้รบกับสัมพันธมิตร ด้วยยุทธวิธีการรบแบบสายฟ้าแลบทำให้ยึดดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลภายในเวลาเพียงนิดเดียว
ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตรยังคงตกใจกับการบุกอย่างรวดเร็วของเยอรมัน ฝรั่งเศสทั้งประเทศก็ได้ถูกยึดครองไปเรียบร้อยแล้ว
3
หากคุณเป็นทหารฝ่ายสัมพันธมิตรในสงคราม คุณจะเห็นว่าพวกทหารเยอรมันเหมือนไม่ใช่คน พวกเขารบได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย แบกสัมภาระเดินทัพได้วันละหลายสิบกิโลเมตร มีพละกำลังมากกว่าคนทั่วไป และตายยากมาก
ทหารเยอรมันรบได้อย่างไม่กลัวตาย
หากคุณเป็นทหารเยอรมันในสงคราม คุณจะได้รู้จักยาวิเศษตัวหนึ่ง ที่ทำให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดทางด้านร่างกายของมนุษย์
ที่จริงยาตัวนี้เข้าสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี1938 แล้ว ในนามของ pervitin ยาวิเศษชูกำลัง แก้โรคซึมเศร้า ฯลฯ มีขายหลายแบบทั้งผสมในขนมหวาน หรือแบบอัดเม็ด
Panzerschokolade หรือช็อกโกแลตรถถัง
ยาpervitin รักษาสารพัดโรค
ส่วนผสมหลักของยานี้คือเมทแอมเฟตามีนซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลางที่มีความรุนแรงมาก เมื่อเสพเข้าไปจะกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีทำให้ตื่นตัวตลอดเวลา มีพละกำลังมากขึ้นรวมถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ช่วยให้ลืมความเจ็บปวดทางจิตใจจากภาวะสงคราม
แน่นอนว่าการใช้ยานี้จะทำให้เกิดการเสพติดเพราะสมองเคยชินกับปริมาณสารเคมีที่เปลี่ยนไป ทหารเยอรมันต่างเรียกร้องให้ทางบ้านและกองทัพส่งยา pervitin มาให้ในปริมาณที่มากขึ้น
ในปี1940 ยาpervitin กว่า35ล้านเม็ดถูกส่งไปยังแนวหน้าเพื่อสนับสนุนทหารในการสงครามสายฟ้าแลบที่เน้นความเร็วในการเคลื่อนที่และโจมตี ผลก็คือเยอรมันมีชัยชนะเหนือฝ่ายสัมพันธมิตรในหลายสมรภูมิ
การทำสงครามสายฟ้าแลบมีการทิ้งระเบิดอย่างหนัก และเยอรมันได้มีนโยบายทิ้งระเบิดใส่กรุงลอนดอนอย่างต่อเนื่องยาวนาน ยาpervitin จึงถูกแจกจ่ายให้กองทัพอากาศด้วย เนื่องจากนักบินต้องบินทิ้งระเบิดหลายเที่ยวบิน และช่างต้องบรรจุระเบิดใส่เครื่องบินอย่างไม่ขาดสาย
ฝ่ายสัมพันธมิตรเมื่อเห็นเยอรมันใช้ยาดังกล่าว จึงมีการพัฒนาแอมเฟตามีนมาใช้บ้างโดยทำมาในรูปแบบของยาดมชื่อว่า benzedrine แต่ก็ไม่ได้ใช้อย่างหนักและกว้างขวางแบบเยอรมัน
ยาดม benzedrine
วันเวลาของสงครามผ่านไป ทหารเยอรมันเริ่มต้านทานยา pervitin พวกเขาเรียกร้องให้มีการพัฒนายาที่ออกฤทธิ์แรงกว่าเดิม นานกว่าเดิม ทางกองทัพก็ได้เร่งพัฒนาออกมาเป็นยาตัวใหม่ตามความต้องการของทหาร
ยาตัวใหม่มีส่วนผสมของแอมเฟตามีน โคเคน มอร์ฟีน และที่ขาดไม่ได้เลยคือpervitin นักวิจัยได้ทดสอบอยู่นานกับเชลยศึกเพื่อหาสูตรยาที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด โดยให้ยากับเชลยศึกจากนั้นจึงใช้ให้ไปทำงาน ใช้ให้แบกของหนักเดินไปมา ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ เชลยศึกทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องพักผ่อนเป็นเวลาหลายวัน
ยาตัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า d-ix สุดยอดยาวิเศษที่ออกฤทธิ์แรงกว่า pervitin พร้อมที่จะเสิร์ฟให้กองทัพเยอรมัน
แต่ยาตัวใหม่นี้ก็ออกมาช้าเกินไป สงครามได้สิ้นสุดลงก่อนที่จะมีการผลิตจำนวนมากเพื่อนำจ่าย สูตรยาและผลการวิจัยทางการแพทย์อื่นๆได้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงคราม
หลังสงคราม ทหารที่ใช้ยามาเป็นเวลานานหลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากความทุกข์ทรมานจากการเสพยาและผลข้างเคียงมากมาย พวกเขาเป็นตัวอย่างของผู้เสพยา ทำให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงภัยอันตรายที่แท้จริงของยาเสพติด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา