23 ก.ย. 2019 เวลา 04:28 • ท่องเที่ยว
Interlaken ณ Switzerland เมืองในฝันของใครหลายๆคน จริงรึ?
พวกเรานั่งรถไฟจาก Lucerne ไป Interlaken ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ก็ถึงละจ้าแม่
Interlaken เมืองนี้ต้องบอกว่าตะลึงๆๆๆๆๆ แบบให้คะแนน 10 10 10 เต็ม คือสวยมาก เมืองนี้ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบ คือ ทะเลสาบเบรี้ยน Brienz และทะเลสาบทูน Tune เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา
ของเทือกเขาสวิสแอลป์
และที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของนักเดินทางที่คิดจะปีนป่าย ไปเยี่ยมเยือน JungFrau (จุ้งฟาว) ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย
Jungfrau
พูดถึงทะเลสาบทั้งสองแห่ง เราสามารถไป
ล่องเรือได้ฟรี ใช่คะฟรี อ่านไม่ผิดคะ เพียงแค่คุณใช้ Swiss pass ที่เราซื้อจากเมืองไทย แค่นั้นละคะ ไปได้หมดในสวิสเซอร์แลนด์เลยหละ ดี้ดี ชะนีปลื้มมม พวกเราก็นั่งเรือร่องไปเรื่อยๆจากฝั่งทูนไปฝั่งเบรี้ยนส์ ประมาณ 2 ชม.เพื่อชมบรรยากาศ บ้านช่องที่อยู่ริมทะเลสาบ มันสวยมากเลยคะ เพลินนน...
วิวรอบๆทะเลสาบระหว่างร่องเรือ แบบไม่ต้องเสียตัง 555
อะๆกลับเข้ามาในเมือง interlakenบ้างเมืองนี้น่ารัก สามารถเดินเล่นได้รอบๆเมือง มีร้านค้าอยู่ในเมืองเต็มไปหมด พวกเราก็เพลิดเพลินกับบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกของที่นี่
อาหารมื้อแรกที่เรากินคือ ชีสฟองดูว์คะ เขาว่ากันว่ามาสวิสเซอร์แลนด์ก็ต้องมากิน ชีสฟองดูว์ ไม่งั้นคือมาไม่ถึง ก็จัดเลยคะ มื้อแรกเบาๆ
ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับชีส ฟองดูว์แต่อย่างใด555
มีทั้งแบบผักจิ้มชีส
และผลไม้จิ้มชีสก็มี
สำหรับชะนี ชะนีว่าเหมือนของหวานมากกว่า 5555 แต่ก็ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ลองอะเนอะ
พวกเราเดินเล่นไปเรื่อยๆ เดินไปดูนั่นดูนี่
แล้วก็ไปเจอฝรั่งหน้าหล่อคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์คนเดียว เรามีการพูดคุยซักถามกัน ว่าไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง
ฝรั่งคนนี้มาจากอังกฤษ นางบอกว่าวันนี้นางไปเที่ยวดูวิวบนยอดเขามา มันคือยอดเขาที่อยู่ในเมืองนี่ละ ละนางก็ชี้ให้ดูว่าตรงโน้นนะ
ซึ่งยอดเขานี้มีชื่อว่า Harder Kulm นางบอกว่ายูไม่ควรพลาดนะ....หืม
พวกเราเลยตกลงกันว่า พรุ่งนี้เราจะไปเยี่ยมชมยอดเขาใจกลางเมืองแห่งนี้กัน ต้องบอกว่า Harder kulm นี่คือ unplan จริงๆคะ
พอตื่นเช้ามาพวกเราก็นั่งรถบัสจาก รร.มาตรงสถานี Interlaken ost. ซึ่งไม่ได้ไกลจาก โรงแรมมากนัก พวกเรามาที่ตรงทางขึ้นเขา ซึ่งเป็นรถรางจ๊ะ การขึ้นไปชมวิวจาก HarderKulm นี้ มีทางเดียวคือรถรางนี่แหละ
สูตรเดิมอีกแล้ว พวกเราลองยื่น Swiss pass แบบเนียนๆ แล้วก็ทำหน้านวลๆ ☺️☺️☺️
คนขายตั๋วก็ยิ้ม ให้ชะนีแบบเนียนๆเช่นกัน สรุปคือเราได้ส่วนลดจาก Swiss pass อีกแล้วจ้า ลดไปครึ่งราคาเลยนะ เหลือคนละไม่กี่บาท ซึ่งไม่แพง ...ปลื้ม 555👏👏👏👏
Harder Kulm เป็นจุดชมวิวมุมสูงจากใจกลางเมือง สูงระดับ 1321 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
ซึ่งสามารถมองเห็นวิวเมือง Interlaken ทั้งหมด ด้านซ้ายเป็นวิวทะเลสาบ Brienz
ด้านขวาเป็นวิวทะเลสาบ Tune
ราคาปกติอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 30 CHF, เด็ก 15 CHF
(ใช้ Swiss pass ลดครึ่งราคาจ้าแม่)
เปิด 8.00-21.00 นะ ประมาณนี้ สามารถไปเที่ยวชมได้ตั้งแต่ 14 เมษา-26 พฤศจิกายน ของทุกปี (เดือนที่ไม่กล่าวถึง คาดว่าคงปิด เพราะฤดูหนาวครัช)
มุมสูง ซึ่งเราให้เจ้า โดรนถ่ายให้จ๊ะ
พอนั่งรถรางถึงข้างบน เราก็เดินต่อมาอีกหน่อย ก็จะมีร้านอาหาร และจุดชมวิวคะ
ที่นี่คนค่อนข้างเยอะ ร้านอาหาร outdoor คือคนเต็ม เพราะอากาศเย็น ใครๆก็อยากชมวิวด้านนอกกัน พวกเราก็ได้โต๊ะด้านนอกพอดี
เหมาะสำหรับการจิบเบียร์ ถ่ายรูปเล่นกันจนเพลินจ๊ะ
ที่นี่วิวราคาหลักร้อยล้านเลยนะ ใครมาไม่อยากให้พลาด
ร้านอาหารที่นี่มีน้องคนไทย ผู้ชายทำงานที่นี่ด้วย เรียกว่าสนุกสนานมาก กับการมาเที่ยวที่นี่ น้องบอกว่ามาทำพาร์ทไทม์ น้องเรียนเกี่ยวกับการโรงแรมและมาทำงานที่นี่เป็นบางวัน (อิจฉาน้อง ที่ได้อยู่ในเมืองที่อากาศดี 555)
หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศของ Harder Kulm แล้ว ก็เย็นย่ำพอดี พวกเราจึงย้ายตูดกลับโรงแรมคะ เพราะพรุ่งนี้พวกเรามีแผนที่จะไปพิชิตภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ Jungfrau นั่นเองคะ
ตื่นเช้ามา พวกเราก็ตื่นเต้นกับการไป Jungfrau ก่อนจะขึ้นเขานั้น เขาก็ว่ากันว่า อาจจะต้องเตรียมตัวให้ดีนะ เพราะข้างบน อ็อกซิเจนค่อนข้างน้อยกว่าข้างล่าง อาจจะหายใจไม่ทัน ถ้าเป็นไปได้ ให้ซื้อ อ็อกซิเจนแบบกระป๋องไป (อันนี้เขาเล่ามานะ)
แต่เรา 4 คนไม่ได้ซื้อคะ มั่นใจมากว่าตัวเองแข็งแรง 5555 เหมือนเดิมคะ พวกเราใช้ Swiss pass ได้ลดราคา 25% จากราคาเต็ม (ถ้าลด 50% จะยิ้มหนักกว่านี้ 555)
ระหว่างทางเราก็ได้แวะพัก เที่ยวเล่นที่ Grindelwald (หรือใครจะแวะที่ Lauternbrunnen ก็ได้ ซึ่งสามารถเลือกขึ้นรถไฟได้ 2 ทาง)
มันจะเป็นแบบนี้คะ
Interlaken -grindelwald-Jungfrau
Interlaken-lauternbrunnen-Jungfrau
เลือกเอาคะ ราคาเท่ากัน แล้วแต่แพลนของแต่ละคนเลย
วิวระหว่างทางจ๊ะ
Grindelwald เป็นหมู่บ้านเล็กใจกลางหุบเขา มีร้านอาหาร กาแฟ ของฝากให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่น หรือใครจะไม่พักที่ Interlaken มาหาโรงแรมแถวนี้นอนก็ได้คะ คือจะได้สัมผัสภูเขาเข้าไปอีก พวกเราแวะจิบกาแฟนิดหน่อย แล้วก็เดินทางต่อ การเดินทางทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 ชม. กว่าๆคะ
การเดินทางตลอดสองข้างทางตื่นเต้นมากคะ รถไฟค่อยๆไต่เขาขึ้นสูงไปเรื่อยๆ มักจะจอดเป็นระยะๆ แต่ไม่ค่อยถี่ ยิ่งสูงหมอกก็ยิ่งหนาละคะ5555 และสองข้างทางปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ช่างตื่นตาตื่นใจกะเหรี่ยงอย่างชะนีจริงๆ (ตอนนั้นคิด ฉันจะเห็นอะไรไหมเนี่ยวันนี้)
รถไฟพาไปจุ้งฟาว
ในที่สุด เราก็ได้มาถึงสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป นั่นก็คือ สถานี Jungfraujoch👏👏👏
ที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Top of Europe
และยังได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย👏👏👏👏
พวกเราก็เดินไปตามเส้นทางคะ จุดแรกที่จะได้พบคือ Jungfrau panorama ชมภาพยนตร์ความเป็นมา แสงสีเสียงสุดอลังการของเทือกเขา ต่อจากนั้นเราก็ไปอีกจุดหนึ่งคะ ชื่อว่า อุโมงค์น้ำแข็ง Eispalast อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึก 30 เมตร ในนี้ก็จะมีปฏิมากรรมน้ำแข็งต่างๆนาๆเยอะแยะไปหมด (ต้องเดินระวังๆหน่อยนะจ๊ะ มีความแอบลื่น และหนาวเหน็บมาก)
Aletsch Glacier
เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเป็นลานสกีกว้างมากเลยคะ แต่ช่วงที่เราไปเขาปิด เพราะหมอกหนา พายุหิมะตกหนัก อดเลยคะ😭😭😭
และอะเขยิบไปอีกนิด (คือเขาจะให้เราเดินเป็นวงกลม ไปเรื่อยๆตามทาง จนกว่าจะครบทุกจุด) เราก็จะไปยัง Sphinx
ซึ่งเป็นระเบียงชมยอดเขา jungfrau จ้า
อีกละคะท่านผู้ชม หมอกหนา หิมะตกหนัก แต่ถามว่าพวกเรากลัวไหม ดูได้จากภาพ
Sphinx top of EU
เราสี่คนตลกแบบบ้าๆมาก คือวิ่งออกไปถ่ายรูป 2 คน แล้วก็แตะมือกันเหมือนวิ่งผลัด ใครหนาวทนไม่ไหววิ่งเข้ามาในอาคาร ถ้าอุ่นแล้ววิ่งออกไปถ่ายรูปอีก แม่จ้าว อะไรจะขนาดนั้นก็เสียตังมาแล้วอะเนอะ ก็เอาซะหน่อย 😂😂😂 คือแข็งไปทั้งตัวเลยจ๊ะแม่ หนาวไม่เท่าไหร่ แต่ลมพายุนี่สิ เดินแทบไม่ไหว ลืมตาไม่ขึ้นเลยมีเดียว😂😂😂😂
เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเป็นลานโล่งๆบนอาคารชื่อว่า Plateau หมอกหนา พายุหิมะตกหนักมาก แต่ด้วยความอยากถ่ายรูป กับอุณหภูมิติดลบ 20 กว่าองศา ชะนีก็สู้ตายจ้าดังภาพที่เห็น
Plateau
พอมาถึงข้างบนจริงๆ เวลาเดินเยอะๆก็แอบเหนื่อย เพราะอากาศข้างบนมันน้อย แต่สำหรับชะนีโอเคมาก อาจจะเป็นเพราะชิน กับอากาศบนเครื่องบิน ซึ่งอากาศน้อยอยู่แล้ว
แต่เพื่อนเราคนหนึ่ง นางเป็นคนออกกกำลังกายสม่ำเสมอนะ นางถึงขั้นหน้ามืด นั่งดมยา จะเป็นลมกันเลยทีเดียว (เอ๊ะหรืออาจจะเป็นเพราะอายุ ไม่ได้เกี่ยวกับอากาศ 555)
ต้องบอกว่าพวกเราขึ้นมาช้า ขาลงนี่กะจะแวะเที่ยว Lauternbrunnen แต่เสียดาย ที่นี่มืดเร็ว ขาลงมาไม่เห็นอะไรแล้ว😹😹 แนะนำเลย ใครจะขึ้นเขา jungfrau ให้ตื่นเช้าๆ (อย่าตื่นสายเหมือนพวกเรา) เพราะขากลับจะได้แวะเที่ยวให้ครบไง
นี่ละขณะสวิสเซอร์แลนด์ดินแดนในฝันของใครหลายๆคน
Interlaken ถือว่าเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เป็นอีก 1 เมืองในชีวิตชะนีคนนี้ที่ชอบมากถึงมากที่สุด และวิวราคาหลักล้านจริงๆ (แต่ขึ้นชื่อว่าสวิสเซอร์แลนด์ ค่าครองชีพนั้นสูงเหลือเกิ้นจะแม่จ๋า)
ชะนีขอแนะนำเลยนะ ใครจะมา jungfrau มาหน้าร้อนเถอะคะ ไม่หนาว แล้วจะได้เห็นวิวบนยอดเขาสวยกว่านี้ รับรองว่าไม่มีหมอกหนาเหมือนตอนชะนีไปเที่ยวแน่นอน นี่ยังแอบเสียดาย อยากกลับไปอีก 55555
บล้อคนี้ไปก่อนนะจ๊ะ
เจอกันบล้อคหน้า ที่ zermatt⛰
เราจะไปพิชิตยอดเขา
ที่แปะอยู่บนกล่องช้อคโกแลต Toblerone กัน
ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ติดตามอ่าน
ความงงๆ เพี้ยนๆของชะนี
ชอบกดไลน์
ชอบไปอีกกดแชร์
รักนะ ชะนี❤️
โฆษณา