หลักของออแกนไนซ์แบบนี้คือ "การตีหัวเข้าบ้านครับ" สมัยนี้การสื่อสารผ่านโซเชียลมันง่าย ราคาถูก มีชุมชนนักวิ่งในโลกออนไลน์เยอะ การประกาศจัดงานวิ่งจึงไม่ต้องลงทุนค่าสื่อประชาสัมพันธ์ เพียงแต่สร้างเพจงานวิ่งขึ้นมาทำรูปกราฟฟิคนิดหน่อยก็กระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว
และสมัยนี้ก็จะมีนักวิ่งจำนวนมากที่พร้อมใจกันสมัครอย่างรวดเร็วหากว่าชื่องานนั้น ๆ น่าสนใจ บวกกับหากมีโปรโมชั่นสมัครก่อนลดค่าวิ่งได้อีก จึงให้ยอดสมัครล่วงหน้ามีจำนวนมากพอที่ ออแกนไนซ์จะมีทุนทำได้อย่างสบาย โดยที่ยังไม่ได้เตรียมงานใด ๆ ก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น
ทีนี้ครับ
หลังจากที่ช่วงแรกไม่มีเงินสักบาท พักหลังพอได้เงินมา ทางออแกนไนซ์จึงค่อยเริ่มประสานงานสถานที่ หน่วยงานต่าง ๆ ที่จะไปจัดงาน หากสถานที่นั้น ๆ แบ่งบันผลประโยชน์ลงตัว!! งานวิ่งก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
แต่ๆ หากมีกรณีสถานที่นั้น ๆ ไม่อนุญาตขึ้นมา
ไอ้ออแกไนซ์หัวหมอก็จะมาใช้วิชาขู่ให้กลัวครับ กลัวยังไงหน่ะหรอ ก็คือบอกอ้อมๆกับทางอบจ.ว่า ก็อาจจะเกิดกระแสต่อว่านะท่าน ผมมาไกลขนาดนี้ท่านปฏิเสธก็อาจทำให้เสียชื่อเสียงนะท่าน ซึ่งกรณีนี้ หลายครั้งที่เจ้าของสถานที่ตอนแรกๆไม่อยากรับก็ต้องจำใจให้ทำ เพราะออแกนไนซ์มีนักวิ่งเป็นตัวประกัน เพราะบางงานมีคนสมัครมาเป็นพัน ๆ
ทั้งที่มันเริ่มจาก 0 บาท!! แต่มันรอนอนกินลูกเดียวเลย
สมมตินะผมเป็นออแกไนซ์
ผมได้ค่าสมัคร ทั้งรุ่นฮาล์ฟ รุ่นมินิ รุ่นฟันรัน รวมๆกัน 2.2 ล้านนิดๆ
ผมมีคนสมัครเยอะเป็นตัวประกันด้วย
ผมหัวศรีธนญชัยครับ ผมติดต่อไปทางนายกอบจ.บอกว่าท่านครับผมมีงานระดมทุน สนับสนุนการท่องเที่ยวมาให้แบบด่วนเลย เป็นงานวิ่งตามที่ท่องเที่ยวเนี่ยครับท่าน ตอนนี้ผมเอาคนมาวิ่งในงานได้แน่ๆ ไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ผมให้รับยอดรวมมา 1.2ล้านครับ เดี๋ยวผมให้ท่านค่า.... รวมๆค่างาน 8.5 แสน ท่านได้นักท่องเที่ยวเข้าจังหวัดท่านได้ค่าที่พักเข้าจังหวัดต่างหากด้วย ได้โปรโมทสถานที่ให้ดังขึ้นด้วย แค่ช่วยอำนวยสถานที่ให้ ท่านโอเคมั้ย
.
ถ้าฝั่งโน้นโอเคเดี๋ยวสแตนบาด์โน่นนี่นั่นให้ก็จบ แค่นี้งบอีกล้านนิดๆอาทิตย์เดียวผมก็ได้แล้วครับ อันนี้จบอันที่ 1