เราได้อะไรจาก การประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมครูของเราผู้ต้องการพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
ผู้ทรงสอนให้เรา หลุดพ้นจากความทุกข์ เพื่อไป พบความสุขที่แท้จริงกันทุกคน คือ นิพพาน เมื่อมีพระพุทธเจ้าประสูติขึ้น ซึ่งนานมากอาจกล่าวได้ว่า โลกดับสลายไปรอบหลาย หมดยุคของสิ่งหนึ่งไปหลายยุค จน วนกลับมายุค มนุษย์ อีก หรือปล่าว ไม่มีใครทราบได้ เว้นแต่ผู้สำเร็จผู้สิ้นกิเลศแล้วทั้งสินทั้งหญิงและชาย สิ้นกิเลศได้เท่าเทียมกัน ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บอกสิ่งที่เราจะพิสูจน์ไม่ได้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้พิสูจน์ได้ทั้งสิ้น แต่ต้องปฎิบัติเฉพาะตน หมายความว่าคนอีกคนจะบอกให้อีกคนทราบได้ยาก นอกจากปฎิบัติเอง ความอัศจรรย์ต่างๆจะไม่กล่าวถึงเพราะ เป็น กิเลศอวิชชา ไม่มีอะไรดีเลย เพราะยังทำให้ทุกข์อยู่วนไปไม่จบไม่สิ้น แม้เหาะเหิน เดินบนอากาศได้ แต่ยังมีอวิชชา ก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลย
หมายถึงถ้าต้องการพ้นทุกข์เราปฎิบัติเองภายใน 7 วัน 7 เดือน 7ปี เราจะรู้เองตามกำลัง บารมี พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้หมดแล้ว ถึง วิธีดับทุกข์ สิ่งที่เราไม่เคยเห็นเราจะได้เห็น แต่พระองค์ไม่ให้ยึดติดสิ่งใดเลย เป้าหมายเพื่อความเป็น อิสระ นั่นคือ นิพพาน เป็นมรดก อันแท้จริง ที่ทิ้งไว้ให้เราทั้งหลายได้ปฎิบัติตาม มาดูว่า
การประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า เราได้รู้อะไรบ้าง
ประสูติ
ประสูติ
พระพุทธเจ้าประสูติ เพื่อมาทำลาย กำแพงชนชั้น ให้ทุกคนนั้น มีความเสมอภาคกัน แห่งศักดิ์ศรี ความเป็นมนนุษย์ แม้ต่างชาติ ต่างภาษา และศาสนา
ก็สามารถ รักกัน อยู่ร่วมกันได้ โดยปราศจากศัตรู
ตรัสรู้
ตรัสรู้
พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ เพื่อให้มนุษยชาติ เข้าใจว่า สัตวโลก
ย่อมเป็นไปตามการกระทำ ของตน
ไม่ว่าจะดี หรือชั่ว หากยังไม่หมดกรรม
ย่อมต้องเวียนวายตายเกิด ในวัฏฏสงสาร
ปรินิพพาน
ปรินิพพาน
พระพุทธเจ้า ปรินิพพาน เพื่อให้มนุษย์โลกรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็น
เศรษฐี หรือ ยาจก วณิพก หรือ ขอทาน
ยากจน หรือ รวยมหาศาล ทุกคนนั้น
สุดท้ายล้วนต้องตาย ไม่เว้นแม้แต่ พระพุทธเจ้า
ใครปฏิบัติตามคำสอนก็จะบรรลุธรรมได้
วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ทรงแสดงปฐมเทศนา
ชื่อ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร”
พราหมณ์โกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม
เป็นบุคคลแรกที่พิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าใครปฏิบัติตามคำสอน
ของพระพุทธองค์ ก็จะสามารถบรรลุธรรมได้
พราหมณ์โกณฑัญญะอุปสมบทเป็นพระภิกษุรูปแรก
ในพระพุทธศาสนา วันนี้จึงเป็นวันที่พระรัตนตรัยบังเกิดขึ้น
คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เราเรียกวันนี้ว่า “วันอาสาฬหบูชา”
หลายคนสงสัยว่า ทำไมพราหมณ์ จึงมีแนวความเชื่อ หรือชื่อ องค์เทพ ต่างๆ คล้ายกับพระพุทธศาสนา การฝึกสมาธิของพราหมณ์ นั้น ฝึกสมาธิคล้ายกับพระพุทธเจ้า แต่พราหมณ์ยังไม่ได้ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน พราหมณ์จึงยังไม่ถึง ขั้น บรรลุธรรมขั้นสูง หมายความว่า สิ่งที่พราหมณ์รู้นั้น เป็นแค่ความรู้ชั้นต้น ส่วนพระพุทธเจ้า รู้ทะลุปรุโปร่ง สว่าง หมด ไม่มีสิ่งใดที่ไม่รู้เลย เช่นพราหมณ์ รู้เพียงว่า พระศิวะคือพระศิวะ ส่วนพระพุทธเจ้ารู้ทั้งอดีตปัจจุบันอนาคตของ พระศิวะ หรือที่พระพุทธเจ้าเรียกอีกชื่อ คือ ผกาพหรม ผู้หลงผิด คิดว่า ตนเป็นผู้คงทน เป็นผู้สร้าง โลก พระพุทธเจ้าจึงไปโปรด ผกาพหรม คือ ทรงสอนว่าเป็นอย่างไร แต่การสอนนั้นต้องมีการแสดงอิทธิฤทธิต่างๆ สุดท้าย ผกาหรพม พ่ายแพ้ บรรลุธรรม ตามที่พระพุทธเจ้าสอนว่าทุก สรรพสิ่งนั้นไม่มีอะไรยั่งยืน ด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า ผกาพหรม จึงเห็นธรรมได้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
ยังมีเรื่องราวต่างๆอีกมากมายเกี่ยวกับพราหมณ์ การที่พราหมณ์จะเชื่ออะไรนั้นไม่ใช่ สอนอย่างเดียวต้อง แสดงให้เห็นถึงความจริง จึงทำให้สมัยนั้นพราหมณ์ บวชเป็นพระ หรือแม้กระทั้ง ผู้หญิง บวชเป็นภิกษุณี บรรลุอรหันต์ ไปนิพพาน จำนวนมาก
คำสอนของพระพุทธศาสนานั้นไม่เคยเสื่อม ยังอยู่ให้เราปฎิบัติตามในปัจจุบันนี้ ที่เสื่อมคือ จิตใจคน เราเลือกได้ ว่าเราจะเลือกแบบไหน เราต้องการพ้นทุกข์จริงๆหรือปล่าว ปัจจุบันนี้ หาคนรู้ได้ยาก เพียงรู้เพียงไม่กี่ล้านคน ทำให้ทั้งโลกสงบขึ้นได้ โดยต้องมีกำลังบารมีก่อนถึงจะปฎิบัติได้นั่นคือ ศีล ๕ เมื่อมีศีลแล้ว จะค่อยๆ มีบารมีในการปฎิบัติ เมื่อถึงเวลา จะเห็นธรรมได้ด้วยตนเอง รู้ถึงการหลุดพ้นจากความทุกข์อย่างแท้จริงได้ด้วยตนเอง โดยมีคำสอนพระพุทธเจ้านำทางให้เราปฎิบัติเพื่อไม่ให้เราหลงทาง คือ เห็นอะไร อย่าไปยึดติด จงเป็น อิสระ จากทุกสรรพสิ่ง
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
