26 ก.ย. 2019 เวลา 14:18
" Toner • Essence • Serum • Ampoule • Emulsion • Lotion • Cream • Booster "
ต่างกันอย่างไร & เหมาะกับผิวประเภทไหน?
#38
ในปัจจุบัน มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์หลากหลายชนิดมากกกก ไม่ว่าจะเป็น Toner, Essence, Serum, Ampoule, Emulsion, Lotion, Cream และ Booster
ซึ่งสาวๆหลายคน คงมีคำถามว่า.. มันต่างกันอย่างไร? และควรเลือกชนิดไหนให้เหมาะกับผิว? วันนี้ ญ.โสภา จะพาไปทำความรู้จักกันทีละตัวเลยค่ะ
• Toner (โทนเนอร์)
เป็นตัวปรับสภาพผิว ที่สามารถขจัดสิ่งสกปรก ที่อาจตกค้างจากการล้างหน้า ทั้งนี้โทนเนอร์ไม่ได้เน้นในเรื่องของการบำรุง แต่ช่วยในการปรับสมดุลผิวมากกว่า เช่น ความชุ่มชื่น ค่า pH ฯลฯ ทำให้ครีมซึมซาบลงสู่ผิวได้ง่ายขึ้น ดังนั้น จึงควรใช้ครีมบำรุงหลังโทนเนอร์ภายใน 1- 2 นาที ค่ะ
เนื้อสัมผัส : บางเบามาก
ลำดับการใช้ : หลังล้างหน้า
เหมาะสำหรับ : สาวทุกสภาพผิว
• Essence (เอสเซนส์)
เป็นตัวบำรุงผิวที่ล้ำลึกเข้าไปถึงชั้นผิว เพื่อฟื้นฟูให้ผิวสุขภาพดีออกมาจากภายในเลยทีเดียว มักมีส่วนผสมเป็น Water-Base ทำให้เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว สบายผิว ไม่เหนอะหนะ ถึงเอสเซนส์จะไม่ได้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นมากนัก แต่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เนื้อสัมผัส : บางเบามาก
ลำดับการใช้ : หลังโทนเนอร์ หรือใช้แทนโทนเนอร์
เหมาะสำหรับ : สาวทุกสภาพผิว ผิวที่แพ้ตระกูลน้ำมัน
• Serum (เซรั่ม)
มีคุณสมบัติคล้ายกับเอสเซนส์มาก คือ เน้นการบำรุงผิวล้ำลึกจากภายในเหมือนกัน ต่างกันตรงที่เซรั่มมีส่วนผสมเป็น Oil-Base จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากกว่า มีเนื้อสัมผัสหลากหลาย เช่น น้ำ, น้ำมัน หรือเจล ส่วนมากมักออกแบบมาเพื่อการดูแลปัญหาผิวแบบเฉพาะเจาะจง เช่น แก้ไขปัญหาสิว, ดูแลริ้วรอย หรือแก้ไขผิวหมองคล้ำ เหมาะสำหรับการต้องการดูแลผิวเป็นพิเศษ
เนื้อสัมผัส : บางเบา
ลำดับการใช้ : หลังโทนเนอร์ หรือหลังเอสเซนส์
เหมาะสำหรับ : สาวทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน
• Ampoule (แอมเพิล)
มีส่วนผสมที่เข้มข้นมากกว่าเซรั่มขึ้นไปอีก จึงให้ผลลัพธ์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งยังมีเนื้อสัมผัสบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วมาก จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า..ทำไมถึงมีราคาแพง เพราะประกอบไปด้วยสารบำรุงแบบเต็มๆ จึงสามารถใช้แอมเพิลแต้มเฉพาะจุดที่ต้องการบำรุงเท่านั้นก็ได้
เนื้อสัมผัส : บางเบา
ลำดับการใช้ : หลังโทนเนอร์
เหมาะสำหรับ : สาวทุกสภาพผิว
• Emulsion (อีมัลชั่น)
มีคุณสมบัติช่วยบำรุงและเคลือบผิวชั้นนอกให้ชุ่มชื้น เนื้อคล้ายกับโลชั่นผสมเจล คือไม่เหลวและไม่ข้นจนเกินไป อีมัลชั่นจึงช่วยปกป้องผิวให้ชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ ไม่ทำให้ผิวขาดน้ำ และไม่ทำให้ผิวมันขึ้น
เนื้อสัมผัส : เข้มข้น
ลำดับการใช้ : หลังเซรั่ม
เหมาะสำหรับ : สาวผิวผสม และผิวมัน
• Lotion (โลชั่น)
มีคุณสมบัติคล้ายอีมัลชั่น คือ ช่วยบำรุงและเคลือบผิวชั้นนอกให้ชุ่มชื้น ต่างกันตรงที่โลชั่นมีส่วนผสมที่เป็นน้ำมันมากกว่า จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ดีกว่า นอกจากนี้ส่วนผสมจากน้ำมันยังช่วยเคลือบบนผิวชั้นนอก และลดการสูญเสียน้ำน้อยลงอีกด้วย
เนื้อสัมผัส : เข้มข้นปานกลาง
ลำดับการใช้ : หลังอีมัลชั่น
เหมาะสำหรับ : สาวผิวธรรมดา-ผิวผสม
• Cream (ครีม)
มีส่วนผสมจากน้ำมันเยอะที่สุด อุดมไปด้วยสารบำรุงที่เข้มข้นและความชุ่มชื่นแบบเต็มพิกัด จึงมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชั้นนอกชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำมันในครีมยังช่วยเคลือบผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำได้เป็นอย่างดี
เนื้อสัมผัส : เข้มข้นมาก
ลำดับการใช้ : ขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุง
เหมาะสำหรับ : สาวผิวแห้ง-แห้งมาก
• Booster (บูสเตอร์)
ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ก่อนครีมบำรุงผิวทุกขั้นตอน สามารถใช้แทนโทนเนอร์ได้เลย ด้วยเนื้อที่บางเบา และคุณสมบัติเฉพาะตัวเพื่อปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นให้สารบำรุงต่างๆซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
เนื้อสัมผัส : บางเบา
ลำดับการใช้ : ขั้นตอนแรกของการบำรุง
เหมาะสำหรับ : สาวทุกสภาพผิว
.
" เราจะเป็นผู้หญิงที่สวย จากภายในสู่ภายนอก ไปด้วยกันนะคะ "
∞☆ ญ.โสภา ☆∞
โฆษณา