28 ก.ย. 2019 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
นอกจากเงินฝาก...จะฝากไรได้อีก 💸💰💵💴💶💷
ตามสถิติแบงค์ชาติไทย BOT ได้มีการโชว์ตัวเลขๆนึงที่น่าสนใจมาก นั้นก็คือ จำนวนเงินในบัญชีเงินฝากของครัวเรือน พบว่ามากกว่า 60% ของเงินฝากนั้นเป็นเงินฝากในรูปแบบของ ออมทรัพย์ และ กระแสรายวัน ( Saving Account and Current Account ) ส่วนอีกประมาณ 40% นั้นเป็นบัญชีเงินฝากประจำ หากตีเป็นตัวเลขง่ายๆ เลยคือ ประมาณ 4 ล้านล้านบาท ของคนไทยนั้นอยู่กับเงินฝากออมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทน แค่ประมาณ 0.5% ต่อปี และอีกประมาณ 3 ล้านล้าน อยู่ในเงินฝากประจำที่ให้ ผลตอบแทน หรือ ดอกเบี้ยประมาณ 1.50% ต่อปี ซึ่งเงินทั้งหมดประมาณ 7 ล้านล้าน ถือว่าเป็นเงินมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว
แต่ทำไม!!! ช่วงนี้จึงมีข่าวเกี่ยวกับ แบงค์มีหนี้เสียเพิ่มขึ้น ( NPL: Non-performing loans ) ส่วนนึงก็อาจมาจากนิสัยของผู้กู้ ที่อาจจะใช้เกินตัว หรือใช้บนสิ่งของที่ไม่จำเป็น แต่อันนั้นผมขอไม่พูดถึงนะคับ สิ่งที่ผมอยากจะชี้ นั้นก็คือ คนไทยมักมีคำสอนที่ว่า เหลือเงินค่าขนมก็จง เก็บใส่กระปุกออมสิน หรือฝากธนาคาร แต่ถ้าทุกคนมองๆดี ชีวิตเราไม่ได้อยู่เพียงกับดอกเบี้ยโดยลำพัง เรายังมีเจ้าตัว อัตราเงินเฝ้อหรือ Inflation Rate ของประเทศจะอยู่ราวๆ 2.00% ในสภาวพอเศรษฐกิจที่ปกติ เพราะฉะนั้น หากเราฝากเงินในธนาคารออมทรัพย์ ที่ได้ดอกเบี้ยแค่ 0.5% ต่อปี หักเงินเฝ้อ ที่ทำให้มูลค่าเงินเล็กลงๆเรื่อยๆ เงินเราก็จะหายไปทุกๆปี ทีล่ะนิดคับ
ยกตัวอย่างเช่น
ปี 2019: ฝากเงิน 100 บาท ในธนาคาร ที่ดอกเบี้ย 0.5% - เงินเฝ้อ 2.00% = -1.50% หรือเท่ากับว่า เงิน 100 บาท ในปี 2020 จะมีมูลค่าเพียง 98.5 บาท ถึงแม้ เราจะได้ถือแบงค์ 100 บาท เหมือนเดิม มันจะอารมณ์ ที่เมื่อก่อนรุ่นพ่อแม่เราซื้อก๋วยเตี๋ยวฉามล่ะ 1-5 บาท แต่ตอนนี้ ฉามล่ะตั้งแต่ 40-100 บาทคับ อันนี้แหละ คือเงินเฝ้อคับ
เพราะฉะนั้นการที่เราฝากเงินในธนาคารเป็นเรื่องดี เพราะสภาพคล่องสูง และปลอดภัย แต่เราก็ควรแบ่งเงินไปลงทุนใน asset class ต่างๆเพื่อจะหวังผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฝ้อนะคับ เช่นมี 100 บาท เหลือจากรายได้หักค่าใช้จ่าย เป็นเงินออมนะคับ ก็อาจจะออม 40 บาท และ อีก 60 บาทไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
Asset Class: ระดับการลงทุนก็จะมีหลายแบบให้เลือกในตลาดคับ ตามความเสี่ยงของแต่ล่ะคนที่ยอมรับได้ ยกตัวอย่างเช่น
1. กองทุนรวมตราสารหนี้ ระยะกลาง ให้ผลตอบแทน 3.50%-4.50% ต่อปี ความเสี่ยง ต่ำ
2. ตราสารหนี้ภาครัฐ ให้ผลตอบแทน 4.64% ต่อปี ความเสี่ยง ต่ำ
3. ตราสารหนี้ภาคเอกชน หรือ หุ้นกู้ ให้ผลตอบแทน 4.74%++ ต่อปี ความเสี่ยง ปานกลาง
4. กองทุนรวมตราสารทุน หรือ กองทุนหุ้นให้ผลตอบแทน 8.00%-14.00% ต่อปี ความเสี่ยง สูง
5. ตลาดหุ้น SET ให้ผลตอบแทน เฉลี่ย 10 ปี อยู่ที่ 11.00%++ ความเสี่ยง สูง
6. อนุพันธ์ TFEX ผลตอบแทน สูง ความเสี่ยง สูง
7. กองทุนรวมทองคำ ผลตอบแทน ผันผวนสูง ความเสี่ยง สูงมาก
8. กองทุนรวมน้ำมัน ผลตอบแทน ผันผวนสูง ความเสี่ยง สูงมาก
9. FOREX ผลตอบแทน ผันผวนสูง ความเสี่ยง สูงมาก
10. Cryptocurrency ผลตอบแทน ผันผวนสูง ความเสี่ยง สูงมาก
1
จะเห็นได้ว่าการลงทุนบางชนิดสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฝ้อและฝากธนาคารหลายเท่าตัว และยังมีความเสี่ยงที่ต่ำมากๆอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรมี alternative นอกจากการฝากแบงค์เพื่อให้มีเงินออมเก็บไว้ การออมนั้นสำคัญ แต่ควรออมให้ถูกที่ ถูกทางนะคับ อย่างน้อยๆ เงินเราจะไม่หายเปล่า และยังสามารถสร้างนิสัยการเอาเงินไปต่อเงิน หนี้สินจากหนักจะได้เป็นเบาคับ และควรศึกษา asset class ให้ดีก่อนลงทุนนะคับ
“ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง...แต่เสี่ยงกว่าคือการไม่ลงทุนคับ”
ปล. ถ้าผมมีลูกจะสอนว่า เหลือให้ไปลงกองทุน ลงหุ้นถือยาว จะเป็นการเริ่มต้นสร้าง mindset การเอาเงินต่อเงินที่ดีคับ :))
Source: BOT, Wealthmajik and ThaiBMA
โฆษณา