29 ก.ย. 2019 เวลา 13:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เมื่อวานนี้แอดได้ไปฟังงานเสวนาเปิดตัวหนังสือ ‘โฮโมดีอุส: ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้’ - ‘Homo Deus: A Brief History of Tomorrow’ ของยูวัล โนอาห์ แฮรารี แปลโดยดร.นำชัย ชีววิวรรธน์และคุณธิดา จงนิรามัยสถิต จากสำนักพิมพ์ยิปซี
ขอบคุณภาพ: สำนักพิมพ์ยิปซี
ส่วนตัวแอดได้อ่านเล่มของเซเปียนส์ไปแล้ว
อ่านแล้วให้ความรู้สึกกระตุกความคิดได้เป็นอย่างดี ในหนังสือเล่มนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเป็นครั้งแรก เพราะหนังสือเล่มอื่นได้เขียนไว้ก่อนแล้ว แต่ผู้เขียนจะนำงานวิจัยต่างๆมารวมรวบเพื่อเสนอข้อเท็จจริง และขยี้ประเด็นจนแตกละเอียด ถึงต้องอ้าปากค้างให้กับหนังสือเล่มนี้กันเลยทีเดียว
ในงานเสวนาหนังสือเล่มนี้ มีคนดังหลายท่านที่เป็นแขกรับเชิญมางานนี้ เช่นคุณสิงห์ วรรณสิงห์,คุณทรายเจริญปุระ, หมอเอ้ว (รวมถึงคุณชัชชาติ)ที่เข้ามานั่งฟังและแสดงความคิดเห็นในตอนท้าย
แอดขอเล่าถึงประเด็นสำคัญที่จำได้มาให้ได้อ่าน จากคำถามทั้งหมด12 ข้อ
หนังสือHomodeusเล่มนี้กล่าวถึงAIที่จะเข้ามาแทนที่ รวมถึงเทคโนโลยีที่จะทำให้มนุษย์เรามีอายุยืนนานมากถึง 150 ปี คำถามคือเมื่อถึงวันนั้น AI และเราที่อายุยืน ใครจะปกครองใคร
และพูดถึงประเด็นว่าการใช้อัลกอริทึมแก้ปัญหาให้มนุษย์ และAIทำงานถือเป็นเรื่องดี
เพราะมนุษย์จะเอาเวลาไปคิดเรื่องใหม่ๆ ไม่ต้องทำงานซ้ำๆทุกวันหรือเราไม่สามารถคิดหรือคำนวนได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับอัลกอรึทึมโปรแกรมต่างๆแต่สิ่งที่เป็นปัญหาในอนาคตคือ เมื่อเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพถึงขีดสุด
มนุษย์จะยอมรับได้หรือไม่ เพราะความคิดมนุษย์ถูกครอบงำด้วยความคิดที่เย่อหยิ่ง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดว่าตนเองเป็นสิ่งที่พิเศษกว่าสิ่งอื่น นี่คือปัญหาสำคัญ
ในหนังสือได้พูดถึงคำถามหนึ่งที่น่าสนใจคือ มนุษย์เป็นเพียง ‘อัลกอรึทึม’ เท่านั้น ฟังดูอาจจะรู้สึกว่ามนุษย์ไร้จิตใจ แต่จริงๆหมอเอ้วกล่าวไว้ว่า มนุษย์มีกระบวนการของอัลกอริทึมอยู่ สมองสั่งงาน เราคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราจะตัดสินใจอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้
ขอบคุณภาพ: สำนักพิมพ์ยิปซี ‘Homo Deus: A Brief History of Tomorrow’ ราคา 468 จาก520บาท
มนุษย์ล้วนมีที่มาไม่ต่างจากอัลกอริทึมของAI ความแตกต่างระหว่างการสร้างAIและมนุษย์คือ มนุษย์มาจากคาร์บอนเบส ส่วน AI มาจากซิลิกอนเบส แต่ทั้งสองล้วนมาจากอะตอมเดียวกัน
อีกคำถามที่น่าสนใจคือ หากเมื่อนั้นเป็นยุคก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้ว ศาสนาจะมีบทบาทเหมือนทุกวันนี้หรือไม่
คำตอบจากหลายๆท่านกล่าวว่าศาสนาเกิดจากความเชื่อ และมนุษย์ก็เริ่มเชื่อเอไอมากขึ้นเช่น google map ที่ทุกวันนี้การเดินทางมันจะคำนวนให้ทันทีว่าที่ไหนรถติด ที่ไหนไปได้เร็วที่สุด หรือยกตัวอย่างในหนังสือว่าตอนนี้มีการทดสอบรถเอไอที่ไร้คนขับ
ผลปรากฏว่า เอไอขับรถปลอดภัยโดยไม่ชนสิ่งกีดขวางเลย 99% อีก1% ถูกชนจากมนุษย์ (ขับมาชน) ดังนั้นอาจเกิดศาสนาเอไอขึ้น หรือเกิดศาสนาใหม่ๆที่มีความแตกต่างจาก
การนับถือศาสนาในปัจจุบันเพราะในยุคนั้นอาจไม่มีคัมภีร์หรือบทสวดอย่างทุกวันนี้แล้ว
ขอบคุณภาพ: สำนักพิมพ์ยิปซี
ทั้งยังตั้งคำถามอีกว่าหากถึงยุคเทคโนโลยีเข้ามา กฏหมายจะควบคุมได้หรือไม่หรือเปลี่ยนไปในทิศทางไหน
อาจารย์นำชัยตอบว่าปัจจุบันก็ไม่ทราบกฏแน่ชัดว่าหากกระทำความผิดแบบนี้จะรับโทษเท่าไหร่ เช่นหากตัดแขนคนอื่นหนึ่งข้างจำคุก5ปี หากตัดอีกข้าง จะต้องจำคุกไป10 ปีหรือไม่
อะไรคือตัวกำหนดว่าต้องรับโทษเท่าไหร่ ใช้เกณฑ์อะไรวัด ดังนั้นหากมองในยุคเอไออาจต้องเปลี่ยนแปลงกฏหมายและต้องพิจารณาใหม่เพราะมันมีความซับซ้อนและยากต่อการควบคุมเทคโนโลยี
ปิดท้ายด้วยคุณชัชชาติที่ให้ความเห็นว่าทุกวันนี้อัลกอรึทึมเป็นประโยชน์ต่อเราทุกคนมาก ในทางธุรกิจจากเดิมที่ต้องเข้าใจลูกค้าว่าต้องการอะไรแต่ปัจจุบันไม่ใช่เลย
เราต้องเข้าใจอัลกอรึทึมก่อนว่าเราจะโพสแบบไหนเพื่อให้ Google เสิร์ชขึ้นมาคำแรก เพื่อลูกค้าเห็นจะได้คลิกเข้ามา ดังนั้นการจะทำธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจใหม่ว่าอัลกอริทึมจะมาเป็นอันดับแรกมากกว่าการเข้าใจลูกค้า
อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากในงานนี้ให้ได้พูดคุยกัน หากเขียนทุกประเด็นอาจหมดแรงเขียนและอ่านกันสะก่อน (เพราะมีเยอะมาก)
สุดท้ายนี้ หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนไม่ได้ปฏิเสธความเป็นมนุษย์แต่อย่างใด เพียงแต่เขาชวนให้เราคิดมากกว่าว่าจะรับมือกันต่ออย่างไรดี
ใครอยากฟังไลฟ์สดเต็มๆไปชมกันได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ
29 กันยายน 2562
ท่านเด็ก
โฆษณา