“คดีล่าแม่มดแห่งซาเล็ม (The Salem Witch Trials) คดีล่าแม่มดที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์” ตอนที่ 9 (ตอนจบ)
จุดจบและความคลางแคลงใจในคดี
เด็กหญิงทั้งสองใส่น้ำลงไปในแก้ว จากนั้นก็นำไข่ดิบใส่ลงไปในแก้วและทำนายอนาคตจากลักษณะการลอยของไข่ ซึ่งนี่คือสิ่งที่หลายๆ คนในยุคนั้นใช้ทำนายอนาคต
นักประวัติศาสตร์หลายรายเชื่อว่าเด็กหญิงทั้งสองที่เฮลเขียนถึงคือเบตตี้และอบิเกล นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าทิทูบาเป็นผู้สอนการทำนายอนาคตอย่างนี้ให้เด็กทั้งสอง และก็ไม่มีบันทึกว่าทิทูบาได้ฝึกมนตร์ดำ
มีบันทึกอีกว่าสิ้นเดือน ค.ศ.1692 (พ.ศ.2235) พ่อแม่ของเบตตี้ได้ส่งเบตตี้ไปอาศัยอยู่กับญาติในตัวเมืองซาเล็มเพื่อหวังให้เบตตี้ดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
ส่วนอบิเกลนั้น เฮลได้บันทึกว่าเด็กหญิงอีกรายที่พยายามจะทำนายอนาคตไม่ได้แต่งงานตลอดชีวิตและมีอาการทางประสาทเนื่องจากได้พยายามจะทำนายอนาคต
หากว่าเด็กทั้งสองคือเบตตี้และอบิเกลจริงๆ ก็เป็นไปได้ว่าเด็กทั้งสองอาจจะเกิดความรู้สึกผิดที่ได้ทำการทำนายอนาคต พวกเธออาจจะคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ผิด และพ่อของเบตตี้ก็เป็นบาทหลวงเคร่งศาสนา พวกเธออาจจะไม่กล้าปรึกษาพ่อ
บางทีอาการแปลกๆ ของพวกเธอที่เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในซาเล็มอาจจะเป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจของพวกเธอเพื่อให้คนอื่นช่วยพวกเธอ
เป็นไปได้อีกว่าทั้งเบตตี้และอบิเกลอาจจะได้ยินเรื่องของเด็กๆ ที่กล่าวอ้างว่าถูกแม่มดทำร้ายในบอสตัน และในช่วงที่เกิดเรื่องนั้น ครอบครัวของพวกเธอก็อาศัยอยู่ในบอสตันพอดี จึงเป็นไปได้ว่าพวกเธอเพียงแต่ลอกเลียนแบบ
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เฮลเขียนนั้นเป็นเรื่องจริง เด็กหญิงทั้งสองเป็นใคร จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นปริศนา
อีกทฤษฎีหนึ่งคือบางทีเด็กทั้งสองอาจจะไม่ได้แกล้งทำ แต่อาการของพวกเธอเกิดจากอาหารเป็นพิษ
ในยุคนั้น การทำขนมปังของชาวอาณานิคมจะทำจากข้าวไรย์ ซึ่งเน่าเสียง่ายและเป็นพิษ ซึ่งอาจจะทำให้เด็กทั้งสองเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้
แต่ก็มีเหตุผลหักล้างอีกว่าเด็กหญิงซาเล็มคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครถึงตาย อีกอย่าง อาการของเด็กทั้งสองก็ไม่ได้เป็นตลอดเวลา
คดีแม่มดแห่งซาเล็มได้รับการบันทึกว่าเป็นคดีล่าแม่มดที่ใหญ่และเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
จบลงแล้วสำหรับซีรีย์นี้ รออ่านซีรีย์ต่อไปนะครับ ฝากติดตามด้วยครับ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
